[รีวิวหนัง] DUNE (2021) : มหาสงครามเกมการเมืองข้ามจักรวาลที่เข้มข้นและยากเกินจะคาดเดา
- เรื่องราวของ " พอล อะเทรดิส " เด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ ท่ามกลางเหตุการณ์สงครามและความขัดแย้งทางการเมืองของแต่ละดวงดาว ที่แก่งแย่ง " สไปร์ท " หรือทรายจากดาวของชาวเฟรเมนที่มีคุณสมบัติอันล้ำค่าเกินกว่าใครจะได้เป็นเจ้าของ และการเอาตัวรอดจากหักหลังของกลุ่มจักรวรรดิ
DUNE (2021)
- ต้องบอกก่อนว่าสำหรับหนังเรื่องนี้หากใครที่เคยผ่านงานของผู้กำกับ " Denis Villeneuve " มาบ้าง อาทิ Arrival, Blade Runner 2049 จะต้องรู้กันแน่นอนว่าสไตล์หนังจะมีการเล่าเรื่องที่เยอะ และไม่หวือหวา แต่โดดเด่นในการดึงให้คนดูต้องคอยติดตามอยู่ตลอด ซึ่งตัวหนังไม่ได้ใส่ซีนแอคชั่นมามากมายเท่าไหร่
- แต่พอเป็นซีนแอคชั่นก็เรียกได้ว่าจัดหนักแสงสี เอฟเฟคตระการตา และยิ่งใหญ่จริงๆครับ อีกทั้งจุดเด่นของเรื่องนี้คืองานภาพและเสียงที่ทำได้ดีมากๆ เป็นจุดเด่นที่ข่วยทำให้ตัวหนังมีความอีพีคมากขึ้นไปอีก
DUNE (2021)
- รวมถึงโทนหนังที่เซ็ทในโลกอนาคตที่ซึ่งมีทั้ง ยานอวกาศ ชนเผ่าต่างๆ รวมถึงสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ และสงครามดวงดาว ทำให้อาจมีกลิ่นอายความเป็นหนัง Starwar หรือพวก Startrek แต่หนังเรื่องนี้กลับมีลูกเล่นที่น่าสนใจ และเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างมาก
DUNE (2021)
- และเนื้อหาที่ค่อยๆยกระดับความสนุกมากขึ้นเรื่อย ผ่านการเล่าเรื่องที่มีจังหวะ ไม่เร็วเกินจนเราไม่เข้าใจ ยกเว้นชื่อดาว ชื่อคนนั้นคนนี้ ที่จำยากพอสมควร พอหนังจบออกมาแล้วผู้เขียนก็ยังจำชื่อได้ไม่หมด เรียกกว่าปราบเซียนคนดูหนังจริงๆ
DUNE (2021)
- พร้อมด้วยทัพนักแสดงแถวหน้าแห่งวงการ " Hollywood " ที่ขนกันมาคับคั่ง คุ้นหน้าคุ้นตากันทุกคน ถ้าหากจะบอกก็เยอะจนพูดไม่หมด แต่ที่อยากให้โฟกัสเลยก็คือหนูน้อยพระเอกของเรื่อง " Timothée Chalamet " ที่แจ้งเกิดแบบสุดๆ เพราะความเท่และการแสดงที่เข้าถึงบท เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่น่าจับตามองมากๆ
DUNE (2021)
- เป็นอีกหนึ่งผลงานระดับมาสเตอร์พีชที่ถูกยกเครื่องใหม่ให้ทันสมัยและเข้ากับยุค พร้อมการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม และเหล่าตัวละครต่างๆที่เราต้องคอยเอาใจช่วย อีกทั้งความลับอีกมากมายที่ยังไม่ถูกเปิดเผย รวมถึงบทสรุปของเรื่องราวสงครามการเมืองที่รอให้เราไปพบเจอในภาคที่ 2 (อัพเดทล่าสุดคือมาแน่ ปี 2023 จ้า)
Score : 9/10
K.
DUNE (2021)
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
