26 ต.ค. 2021 เวลา 15:20 • ธุรกิจ
ยุคนี้ การทำ Due Diligence คงเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
นักกฎหมาย หลายคนยังไม่รู้เรื่อง การสอบทานธุรกิจ
เพื่อร่วมทีมปรึกษา การเทคโอเวอร์หรือซื้อกิจการ กันเลย
แต่
ยุคนี้ โลกดิจิตอล ข้อมูลมันวิ่งตามใยแก้วนำแสง
ความเร็วของวิวัฒน์จึงเทียบเท่าแสง
ถ้าไม่มีพื้นฐานธุรกิจ ไม่รู้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจ
จะยากที่จะทำความเข้าใจ และ ยิ่งลงมือทำยิ่งหลุด
เป้าหมายของกลุ่มนักลงทุน เสมือนหลุดวงโคจรเขา
ถ้ามัวท่องจำฎีกา คงไม่มีสมองมาคิดและเข้าใจธุรกิจ
การฟ้องคดี/ต่อสู้คดี เป็นแค่กลยุทธ์เล็กๆ ใน
องค์ประกอบของภาพรวมธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น
นั่นทำให้ทนายความที่ว่าคดี เผชิญสเกลที่เล็กลงเรื่อยๆ
เคสปิดดีลนี้ ผมเอามาเทียบกับ
ทฤษฎี Business 5 Levels
เห็นภาพตามนี้
ซื้อกิจการรวมทั้งAsset
ถอนออกจากตลาด
ประกาศเมกะโปรเจคใหม่
ถีบราคาหุ้นเป็นกำไรรอบแรก
แยกกิจการย่อยออกเป็นเชน
ดันแต่ละเชนเข้าตลาด กำไรรอบสอง
ผู้ซื้อกิจการคอลโทรลตลาดเบ็ดเสร็จ
ดันตัวเองเป็นผู้ operate (business level 3)
ขณะเดียวกัน สร้างแพลตฟอร์มดิจิตอล
พัฒนาบล็อกเชน รับเหรียญดิจิตอล
ครองตลาดก็มีอำนาจผลักนโยบายรัฐ
เพื่อสอดรับกับดิจิตอล สู่ level 4
เป็นผู้ Operation เบ็ดเสร็จ ก็มีอำนาจ
ผลักตนเข้าสู่ระดับ Global Goal
ตามวิสัยทัศน์ business 5 levels
เป้าหมายเพื่อรับโลกดิจิตอลทั้งหมดร้อยเปอร์เซนต์
LegalMind by TanaiYONG
ทนายยง
ขอบคุณข้อมูลจาก
โฆษณา