27 ต.ค. 2021 เวลา 08:40 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Double Tap (2000) ดับเบิ้ลกระสุนเป้าจับตาย
แค่ เลสลี่ จาง ฝีมือก็ยกระดับหนังทั้งเรื่องขึ้นมาได้
ดูได้ทาง Disney+Hotstar (ในยูทูปก็มีเอาชื่อไทยไปพิมพ์หากันได้)
เป็นหนังเก่าในปี 2000 ที่ประสบความสำเร็จพอตัวจนต้องทำให้มีภาคต่อตามมาอีก 2 ภาค ผู้ชมมักจะนึกถึงหนัง Double Tap ว่าเป็นการแสดงของเลสลี่ จางในบทตัวร้ายที่ถ่ายทอดอารมณ์ความไม่ปกติทางจิตออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือสมจริงมาก เป็นหนึ่งในหนังที่เขาระเบิดฟอร์มสุดยอดการแสดงออกมา ยิ่งในตระกูลหนังแอ็คชั่นอาชญากรรมแล้ว ผมว่าในเรื่องนี้เขาเด่นมากๆ ดีเสียยิ่งกว่าในโหด เลว ดีเสียอีก
ทว่าตัวเรื่องของ Double Tap ต้องถือว่าเป็นหนังที่มีเนื้อหาบางเบา ขาดรายละเอียด แต่มันถูกยกระดับขึ้นด้วยการแสดงในระดับยอดฝีมือของเลสลี่ จาง ที่ทำให้หนังเข้มข้นจนมองข้ามความบกพร่องของเนื้อเรื่องไปได้ อีกส่วนหนึ่งที่ยกระดับได้มากก็คือตลอดระยะเวลาประมาณ 90 นาทีของตัวหนัง ผู้ชมจะเกิดความรู้สึกตึงเครียด ลุ้นอยู่ตลอดเวลา ถือว่าเป็นงานในตระกูลหนังตื่นเต้นระทึกขวัญฮ่องกงที่อยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม
Double Tap เป็นงานกำกับเรื่องที่ 2 ของผู้กำกับหลอจี้เหลียง เขาขึ้นมาจากผู้เขียนบทและมีงานกำกับก่อนหน้านี้อย่าง Viva Erotica! ที่มีเลสลี่ จางแสดงนำร่วมกับคาเรน ม็อกและชูฉี เรื่องราวเกี่ยวกับการถ่ายทำหนังเกรด 3 ของฮ่องกงที่น่าสนใจและสนุกสนานมากๆ มีเอ๋อตงเซินรักบหน้าที่อำนวยการสร้างผลักดันหลอจี้เหลียงเต็มที่ เช่นเดียวกันกับ Double Tap กระสุนเป้าจับตายเรื่องนี้ เอ๋อตงเซินก็ยังตามมาเป็นผู้อำนวยการสร้าง
จุดเริ่มต้นของหนังน่าสนใจมากครับเมื่อพูดถึงกีฬาการแข่งขันยิงปืนประเภทเชิงรณยุทธ ซึ่งเป็นการแข่งการยิงปืนในลักษณะการจำลองสถานการณ์จริง มีทั้งเป้าจริง เป้าหลอก เป้าที่เคลื่อนที่ นักกีฬาต้องเคลื่อนไหวร่างกาย เปลี่ยนแม็กกาซีนปืน ฯลฯ เรียกว่าทำทุกอย่างแข่งกับเวลาให้เร็วที่สุด มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
 
เลสลี่ จางแสดงเป็นริค นักกีฬายิงปืนรณยุทธที่มีฝีมือเยี่ยมมาก แต่เขาหันหลังให้กับการแข่งขัน หันมารับจ้างปรับแต่งปืนให้กับนักกีฬา ปืนของเขาก็เปรียบเสมือนลายเซ็นของเขามีความเฉพาะตัว   ในขณะที่ Alex Fong หรือฟางจงซินมารับบทเป็นสารวัตรหมิวที่หลงใหลในกีฬายิงปืนรณยุทธเช่นกัน เมื่อรู้ว่าริควางมือจากกีฬาประเภทนี้แล้ว สารวัตรหมิวเกิดความรู้สึกเสียดายมาก จึงเกิดการท้าทายให้พิสูจน์จนริคกลับสู่สนามแข่งขันยิงปืนรณยุทธอีกครั้ง
แต่ในการแข่งขันไม่ได้จบลงด้วยผู้แพ้ผู้ชนะ แต่ดันเกิดเหตุการณ์เพื่อนตำรวจของสารวัตรหมิวสติแตก บุกเข้าไปในสนามยิงปืนพร้อมปืนและตะโกนให้คนอื่นฆ่าเขา เขาเริ่มยิงผู้บริสุทธื์อย่างบ้าคลั่ง แต่สารวัตรหมิวลังเลใจที่จะยิงเพื่อนร่วมงาน ริคต้องจำใจลั่นไกสังหารเมื่อเห็นว่าเหยื่อรายต่อไปเป็นแฟนสาวของเขา
หนังในองค์แรกของหนังจบลงที่ริคเข้าปรึกษาจิตแพทย์ แล้วเขาก็พบว่าแทนที่ตนเองจะจิตใจย่ำแย่ เขากลับรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน มีความสุขจากการลั่นไกสังหารผู้คนที่มีชีวิตเลือดเนื้อจริงๆ แทนเป้ากระดาษ เขาอยากจะฆ่าคนอีก!!!
องค์ที่ 2 ตัดมาในอีก 3 ปี เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมพยานปากสำคัญพร้อมด้วยตำรวจคุ้มกัน หลักฐานต่างๆ โยงไปว่าผู้ก่อเหตุต้องเป็นนักแม่นปืนระดับอาชีพ โดยเฉพาะการเล็งเป้าสำคัญไปที่หัวของเหยื่อมันเกินกว่ามือปืนธรรมดา แต่ต้องเป็นผู้ที่ฝึกซ้อมการยิงมาอย่างโชกโชน และริคก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยเมื่อเขาอยู่ในข่ายมีฝีมือระดับที่น่าจะทำได้
 
องค์สุดท้ายของหนังเป็นบทสรุปเพราะเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างสารวัตรหมิวกับริคในเกมการดวลปืนด้วยชีวิต พร้อมกับการพัฒนาของจากคนธรรมดากลายไปสู่นักฆ่าโรคจิตที่ฆ่าคนเพื่อความสุข เพื่อเติมเต็มจิตใจของตนเอง แต่ในขณะเดียวกันริคก็มีความขัดแย้งลึกๆ เพราะรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันผิด กลายเป็นสร้างทั้งความทรมานให้กับเขาไม่ต่างกับความสุขที่ได้รับ
Double Tap มีลักษณะของความเป็นหนังทริลเลอร์เชิงจิตวิทยาหลอกล่อกันระหว่างสารวัตรหมิวกับริค เป็นเกมการล่าระหว่างตำรวจที่คิดว่าตนเองเป็นผู้ล่า กับฝั่งผู้ถูกล่าแต่คุมเกมได้ทั้งหมดอย่างริค
อย่างที่บอกว่าตัวหนังค่อนข้างจะขาดเนื้อหา ขาดรายละเอียดของตัวละคร โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของริคจากคนธรรมดากลายเป็นมือสังหารได้อย่างไร แต่มันถูกกลบเกลื่อนยกระดับขึ้นมาด้วยการแสดงอย่างชัดเจน มันทำให้บทของเลสลี่ จางแม้ว่าจะมีรายละเอียดน้อย แต่ตัวเลสลี่ จางกลับทำให้เรารู้สึกรับรู้ถึงอารมณ์ต่างๆ ของตัวละครได้ดีมากๆ ในขณะที่ตัวละครสารวัตรหมิวของฟางจงซินนั้นมีรายละเอียดที่นำเสนอค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความสัมพันธ์กับภรรยา เพื่อนร่วมงาน เขาวิธีคิดในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างไร ตรงนี้ตัวหนังถ่ายทอดออกมาได้อย่างละเอียด และทำให้ตัวละครตัวนี้น่าสนใจเมื่อมาจับคู่ห่ำหั่นกันกับริค มันจึงทำให้เห็นว่าทั้งสองเท่าทันกัน ในขณะเดียวกันก็นับถือซึ่งกันและกัน มันเป็นการพัฒนาตัวละครที่เราเห็นเป็นประจำในหนังฮ่องกง แล้วเขาก็ทำกันออกมาได้ดีด้วย
จริงๆ แล้ว Double Tap มันก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันคือหนังจอมยุทธ หนังกำลังภายในที่มาสวมใส่เครื่องแบบตำรวจ ชุดสากล เปลี่ยนฉากเป็นโลกปัจจุบัน ที่ชัดเจนคือตัวละครที่หลงใหลในอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นริคหรือสารวัตรหมิว มันก็ไม่ต่างอะไรกับจอมยุทธที่โหยหาอาวุธวิเศษและถูกมันกลืนกินครอบงำตัวเองลงไปเข้าสู่ด้านมืด ซึ่งหนังมาเฟียฮ่องกงมันก็เปลี่ยนถ่ายมาจากหนังกำลังภายในนั่นเอง
นอกจากเลสลี่ จาง ที่ยอดเยี่ยมมากๆแล้ว รูบี้ หว่องผู้รับบทเป็นคอลลีนแฟนสาวของริคก็ยอดเยี่ยมแม้บทไม่มาก รูบี้ทำให้บทของตัวละครมีน้ำหนักมาก มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งปกติแล้วเรามักจะเห็นเธอเป็นขาประจำในงานของผู้กำกับตู้ฉีฟง ในเรื่องนี้เธอถ่ายทอดความรู้สึกสับสนในตนเองทั้งรักทั้งห่วงชายคนรักจนน่าสงสาร ส่วนฟงจงซินในบทสารวัตรหมิวแม้จะดี แต่ต้องอยู่โดยไม่มีเลสลี่ จางร่วมในฉาก ไม่งั้นโดนตีกระเจิง
Double Tap จึงเป็นหนังระทึกขวัญที่ออกแบบมาบนพื้นฐานของหนังเชิงจิตวิทยาถ่ายทอดถึงความลุ่มหลงของตัวละคร ความคลั่งไคล้ในอาวุธ แม้จะขาดเรื่องราวแต่ก็ชดเชยด้วยการแสดงและฉากแอ็คชั่นตรึงผู้ชมอยู่ได้ตลอด และย้อีกครั้งว่าการแสดงที่ดีมากๆ ช่วยยกระดับให้หนังเรื่องนี้ขึ้นมาอีกขึ้นหนึ่งเลย
ส่วนหนังภาค 2 และ 3 ก็คือ ดับตะวันล่า One Nite in Mongkok และ เฉือนเหลี่ยม กระสุนจับตาย Triple Tap นั้น ผู้อำนวยการสร้างเอ๋อตงเซินหับมาเป็นผู้กำกับเสียเอง แล้วก็ทำได้ดีมากๆ เช่นกัน ทั้ง 3 เรื่องไตรภาคของสารวัตรหมิวก็เป็นหนังที่อยู่ในขายแฟนหนังฮ่องกงควรดูให้ได้(ภาค 3 อาจจะไม่เด่นนัก) น่าสนใจครับ
#เลสลี่จาง
#Doubletap
โฆษณา