28 ต.ค. 2021 เวลา 01:08 • การตลาด
ทำไมจึงเชื่อว่าแพทย์ไทยถูกหลอกมาตลอดกับระบบการศึกษาที่ร่ำเรียนมา
2
ที่มา Stop Thai Control
มีเรื่องเล่าที่ “ยุคใหม่ฯ” ได้ยินมาจากแพทย์ท่านหนึ่ง ที่พอจะรู้จักท่านเป็นการส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมกับท่านเท่าไรนัก และท่านก็เป็นคนที่ฉีกแนวการรักษาโรคโดยการไม่ใช้ยา เพราะเชื่อว่าร่างกายของคนเรามหัศจรรย์อยู่แล้วสามารถรักษาตัวเองได้
2
ท่านเล่าให้ฟังในงานสัมมนาทางการแพทย์งานหนึ่งว่า มีผู้ชาย 3 คนเป็นเพื่อนสนิทกันมาก จู่ๆก็ตั้งคำถามว่าถ้าแกตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายรักษาไม่หาย แกจะทำอย่างไร
คนแรกตอบว่าจะขายทรัพย์สินที่มีทั้งหมดแล้วออกท่องเที่ยวทั่วโลก ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มที่สุด
คนที่ 2 ตอบว่าไหนๆ ก็ต้องตายแล้ว จะขอบวชไม่สึกจนตาย (การบวชไม่สามารถทำได้ถ้าป่วยหรือพิการ)
แล้วทั้ง 2 คนก็ถามกลับว่าแล้วแกจะตัดสินใจอย่างไร คำตอบที่ได้คือ “ข้าก็จะเปลี่ยนหมอ” เพราะว่าถ้าหมอคนนั้นเชื่อว่ามะเร็งไม่มีทางรักษาหาย ต่อให้มีวิธีการที่ชัดเจนมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ หมอคนนั้นยังไงก็หาเหตุผลมาหักล้างอยู่ดี
2
ที่มา  Art for Cancer by Ireal
ฟังดูแล้วดูเหมือนจะเป็นแค่เรื่องตลกร้าย แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงๆ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่ามีแพทย์ไทยจำนวนหนึ่งติดกรอบที่ถูกกำหนดโดยผู้ที่ออกหลักสูตร หลายครั้งที่ภูมิปัญญาไทยที่ใช้ได้ผลมาตั้งแต่บรรพกาล แต่ต้องถูกปัดทิ้งไปด้วยเหตุผลว่าต้องมีงานวิจัยที่เป็นเอกสารมายืนยัน แต่ไม่ได้นึกถึงว่าการรักษาที่ผ่านมาเป็นร้อยๆพันๆปี สามารถเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี
2
เรื่องนี้มีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อของ นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ คุณอดิเทพ จาวลาห์ ซึ่งมีเผยแพร่ทาง Stop Thai Control “ยุคใหม่ฯ” จึงได้นำบางส่วนที่เป็นไฮไลท์ของคุณหมอที่ให้สัมภาษณ์มาเผยแพร่ในบทความนี้
คุณหมอบอกว่า ขบวนการเรียนแพทย์เป็นการสอนให้แพทย์คิดเหมือนๆกัน ดังนั้นผลการเรียนที่ดีก็ต้องมาจากการตอบได้ตรงกับอาจารย์พูดและสอน และต้องฟังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้วยขบวนการนี้จึงส่งผลให้แพทย์คิดเองน้อยลงฟังคนอื่นมากขึ้น
ที่มา Stop Thai Control
แพทย์หลายคนจึงเชื่อว่าขบวนการคิดของเขามีคนอื่นคิดให้เป็นอย่างดีแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องคิดและเกิดความเชื่อแบบกลุ่มซึ่งเป็นความเชื่อว่าต้องจริง ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้แพทย์ที่เมื่อเชื่อในสิ่งใดแล้ว จะทำให้เปลี่ยนความคิดยากมาก
เรื่องนี้เป็นการใช้การตลาดบนความกลัวกับวงการแพทย์ โดยเอาผู้เชี่ยวชาญมาบอกให้แพทย์พูดตาม แพทย์ที่ร่ำเรียนมาก็จะพูดตาม เพราะเชื่อว่าหากพูดตามได้เขาก็คือผู้เชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน เพราะเวลาที่แพทย์หลายคนออกมาบอกอะไรก็จะอ้างถึงสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญพูด ไม่ใช่เรื่องที่เกิดจากการตกตะกอนทางความคิดของแพทย์คนนั้นๆ
เพราะถ้าคิดต่างทำไม่เหมือนแม้ผลลัพธ์จะดีกว่า ก็อาจจะถูกถอนใบอนุญาตจะถูกฟ้องร้อง ทำให้แพทย์หลายคนกลัว
ที่มา  Twitter Annie @anieway
เชื่อว่าบางคนที่อ่านถึงตอนนี้อาจจะเห็นแย้งบ้าง เพราะการพูดอะไรต้องมีหลักฐานมายืนยันจึงจะน่าเชื่อถือ แต่ในความเป็นจริง หากเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆทำไมโรคระบาดต่างๆที่เป็นอยู่ยังคงมีแล้วไม่สามารถจัดการได้ คนใช้ต้องไม่ตาย
1
แต่ที่เป็นตลกร้ายคือ มีแพทย์จำนวนมากที่รักษาคนไข้รอดเป็นพันๆราย แต่กลับถูกกล่าวหาว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งที่หากดูจากผลลัพธ์แพทย์เหล่านั้นคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ขณะเดียวกันผู้ที่ออกมาบอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญกลับไม่เคยรักษาคนไข้สักราย แต่อ้างอิงจากประวัติการศึกษามีแหล่งยืนยันข้อมูลและมียศมีตำแหน่ง จึงเป็นผลให้วงการแพทย์ถูกบิดเบือน เพราะถูกทำให้เชื่อในผู้เชี่ยวชาญ หากไม่ทำตามก็จะถูกลงโทษ
แต่ยังโชคดีที่มีแพทย์หลายคนมองเห็นปัญหาในเรื่องนี้ แต่แพทย์เหล่านี้ไม่เคยมีสิทธิ์มีเสียง ที่จะออกสื่อมาให้ข้อมูลกับคนในสังคม บางครั้งแพทย์กลุ่มนี้ก็โดนให้ร้ายป้ายสีว่าทำในสิ่งที่ผิด ทั้งๆที่เจตนาคือการรักษาคนไข้ให้หาย
เราจะเห็นได้จากผลการรักษาคนไข้ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ที่แพทย์หลายคนสามารถรักษาคนไข้หายได้จำนวนมาก โดยไม่ได้ทำตามข้อกำหนดของหลักสูตรหรือข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเป็นหลัก
ที่มา  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การตลาดที่ใช้พื้นฐานความกลัว โดยการลงโทษการประจาน หรือการไม่ยอมรับจากสังคม จึงทำให้การเรียนการสอนแพทย์ถูกบิดเบือนไป
เมื่อได้คิดตามก็เห็นเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะประเทศที่ระบาดหนัก (ยกเว้นประเทศจีน) มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากออกมาแนะนำหรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่ใช้ในการรักษา ในขณะที่ประเทศของตนเองก็ยังพบการระบาดอย่างหนักอยู่ มากกว่าประเทศไทยด้วยซ้ำ แต่กลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญแนะนำแพทย์ไทยให้ทำตามเฉยเลย
และนี่ก็คืออีกมุมต่างในสังคมไทยและสังคมโลกที่นำมาแบ่งปัน
อ้างอิง
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
ท่านที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ที่สามารถขายแฟรนไชส์และมีรายได้จากการขยาย
สามารถสร้างรายได้ทั้งรายวันและรายสัปดาห์และรายเดือนได้
ติดต่อได้ที่
โฆษณา