28 ต.ค. 2021 เวลา 00:27 • ท่องเที่ยว
ใบไม้เริงระบำ ที่คันไซ (4) .. ย่าน Gion & ย่านฮิกาชิยามา & Yasaka Pagoda
หลายคนบอกว่า … ไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ไม่รู้เบื่อ เพราะหลงเสน่ห์ในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ชาวญี่ปุ่นไม่มองข้าม รวมถึงชอบความเป็น “ญี่ปุ่น” ในแบบที่ประเทศอื่นไม่มี
ย่าน กิออน .. ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกียวโต ใกล้กับศาลเจ้ายาซากะ เป็นย่านที่ครองคลุมเนื้อที่กว้างขวางตั้งแต่หน้าศาลเจ้ายาซากะ ไปจรดริมฝั่งแม่น้ำคาโมะทางด้านตะวันตก … จุดที่เป็นไฮไลท์ของย่านนี้จะอยู่ที่ถนน ฮานามิ โคจิ
ภาพจาก internet
ย่านกิออน ..ถือเป็นย่านราตรีและสถานที่พักผ่อนสำหรับนักเดินทางที่ผ่านมายังเมืองเกียวโตนับตั้งแต่ในอดีต ควบคู่มากับวัฒนธรรมเกอิชาที่อยู่คู่กับย่านราตรีมาโดยตลอด และค่อยๆถูกยกระดับขึ้นมาเป็นผู้ชำนาญทางศิลปะญี่ปุ่น
ย่านนี้ เป็นแหล่งบันเทิงที่คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยว เป็นสถานที่ที่ผู้คนทั่วโลกต่างหวังว่าจะได้มาเจอ “เกอิชา” หญิงงามผู้ให้ความบันเทิงกับแขกที่มาดื่มกิน
ถนนคนเดินในย่านกิออน … แค่ย่างเท้าเข้าไปในพื้นที่ ก็ต้องตื่นเต้นกับบรรยากาศของตรอกที่มีถนนปูด้วยหิน และยังคงสามารถมองเห็นบ้านเรือนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในแบบเก่า หากโอกาสประจวบเหมาะก็อาจจะเห็นเกอิชาหรือเมโกะ (เกอิชาฝึกหัด) มาเดินให้เห็นพอได้ตื่นเต้นกัน
อ้อ … หากคุณไม่เจอเกอิชา และเมโกะ ตัวจริง แต่คุณสามารถที่จะแปลงกายเป็น Maiko-san ได้ไม่ยากเลยนะคะ เพราะมีร้านให้เช่าชุดกิโมโน วิกผม และมีคนที่จะคอยช่วยคุณแต่งหน้าขาว ใส่เครื่องประดับ แปลงกายตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนร่ายมนต์ให้คุณเป็นสาวเมโกะในตำนานที่สมบูรณ์แบบได้ในบัดดล พร้อมมีบริการถ่ายภาพในร้านน้ำชาแบบญี่ปุ่นโบราณจริงๆ รวมถึงพาไปถ่ายภาพในจุดที่คุณต้องการด้วย
บนถนนแห่งนี้ เรายังคงสามารถมองเห็นอาคารบ้านเรือนที่เป็นบ้านไม้เก่าๆในแบบเกียวโตสมัยโบราณที่สวยงาม และดูเหมือนจะได้รับการดูแลรักษาให้มีลักษณะแบบอาคารดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น … มีร้านรวงต่างๆเรียงแถวตามสองข้างทาง ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของ
ความคึกคักของย่านนี้จะเริ่มหลังหกโมงเย็นเป็นต้นไป แต่ละร้านจะเปิดไฟที่หน้าร้าน บางร้านก็ติดโคมสีแดงเอาไว้ (โคมแดงนี่มีอยู่ในหลายประเทศเอเซียตะวันออกค่ะ)
สิ่งที่น่าสนใจในย่านกิออน นอกจากภัตตาคารหรูและเกอิชาแล้ว ยังมีโรงละครที่เรียกว่า Gion Corner ตั้งอยู่สุดถนนฮานามิโคจิ … ที่นี่เปิดแสดงทุกวัน วันละ 2 รอบ แต่เต็มทุกรอบ ต้องจองตั๋วล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ
ภาพจาก internet
Gion Corner
Gion Corner .. ตั้งอยู่สุดถนนฮานามิโคจิ ซึ่งเป็นศูนย์แสดงศิลปะการแสดงที่เก่าแก่ของญี่ปุ่นที่หาดูได้ยาก 7 อย่าง คือ .. การแสดงหุ่นกระบอกบุนระขุ (Bunraku) .. การจัดดอกไม้อิเคบานะ (Ikebana) .. การสาธิตพิธีชงชาชพโด (Chado) .. การแสดงตลกเคียวเง็น (Kyogen) .. ระบำหน้ากากงากากุ (Gagaku) .. การแสดงดนตรีโคโตะ (Koto) .. และการร่ายรำของเมโกะ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของการแสดงของที่นี่ค่ะ
นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.kyoto-gioncorner.com/global/en.html#performanceCategory
แต่ทั้งหมดนี้ … เราไม่มีเวลาพอที่จะเข้าชมค่ะ
พื้นที่ของย่านกิออนแบ่งออกเป็นสองโซนหลัก โซนแรกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากคือ Hanami-koji ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนชิโจและวัดเคนนินจิ สองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านชาในสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ และสามารถพบเห็นเกอิชาและไมโกะเดินผ่านไปมาได้ค่อนข้างง่ายดาย
ส่วนอีกโซนหนึ่งคือ Shirakawa ซึ่งอยู่เยื้องไปในฝั่งตรงข้าม บรรยากาศของโซนนี้จะค่อนข้างเงียบสงบกว่า และมีความพิเศษตรงที่มีลำคลองสายเล็กๆไหลผ่าน และมีความสวยงามเป็นอย่างมากในช่วงที่ดอกซากุระผลิบาน
Hanami-Koji (MikoStreet)
เกียวโต เป็นเมืองที่ใครต่อใครต่างบอกว่า เป็นเสมือนดินแดนแห่งความลับ และตัวตนที่แท้จริงของชาวญี่ปุ่น ที่เบื้องหลังกำแพงเก่า ตรอกซอย ถนนสายเล็กสายน้อย บ้านไม้ และสวนหิน ล้วนเชื่อมโยง และเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของความเป็นดินแดนอาทิตย์อุทัย
ผู้คนในเกียวโต … จึงใช้ชีวิตอยู่ระหว่างวิถีแห่งคามเนิบช้า และความรวดเร็ว เติบโต ศิวิไลซ์ทันสมัย อย่างผสมผสานกันด้วยความลงตัว
ภาพจาก internet
ถนนฮามิคูจิ หรือถนนไมโกะ .. เป็นถนสายสั้นๆมีความยาวไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร แต่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านน้ำชา ภัตตาคารที่ตกแต่งแบบโบราณแต่ดูหรูหรา หลายแห่ในย่านนี้มี “เกอิชา” (Geisha) ไว้คอยต้นรับและบริการแขก โดยมี “เมโกะ” (Maiko) หรือเกอิชาฝึกหัด เป็นผู้ช่วย
“เกอิชา” (Geisha) .. คือหญิงที่ได้รับการฝึกฝนอบรมด้านการขับร้อง นาฏศิลป์ และดนตรี ทำหน้าที่เป็นเพื่อนสนทนากับบุรุษในสถานบริการ ให้ความบันเทิงหรือเป็นเพื่อนจิบเหล้ากับแขกของร้าน ทำนองนั้น
เกอิชา บางคนมีฝีมือเด่นเฉพาะด้าน .. อาจจะฟ้อนรำเก้ง หรือเล่นดนตรีเก่ง อย่างใดอย่างหนึ่ง … แต่ก่อนที่พวกเธอจะเก่งกล้า ก็ต้องผ่านการเป็นเกอิชาฝึกหัด ที่เรียกว่า เมโกะ (Maiko) มาก่อนนั่นเอง
ภาพจาก internet
เกอิชา กับเมโกะ จะสัเกตุได้อย่างไร?
.. เกอิชา จะใส่วิกผม ส่วนเมโกะจะเกล้าผมด้วยผมจริงของตัวเองทั้งหมด และเกอิชาจะทาริมฝีปากทั้งบนและล่าง ส่วนเมโกะจะทาเฉพาะริมฝีปากล่างเท่านั้น
ร้านอาหารส่วนใหญ่ในย่านนี้ จะทำทางเข้าเอาไว้แคบๆ แต่ด้านในมีพื้นที่กว้างขวางมาก … แขกส่วนใหญ่ที่มารับประทนอาหาร ดื่มกิน โดยมีเกอิชา หรือเมโกะ คอยให้บริการ มักจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท นักการเมือง หรือข้าราชการตำแหน่งสูงๆที่มีระดับ และมีอันจะกิน หรือหากเป็นนักท่องเที่ยวก็ต้องกระเป๋าหนักและมีเส้นสายจริงๆ … ถึงจะมีโอกาสสัมผัสกับความงามของเกอิชา
… เหตุผลก็คือ ราคาค่าอาหาร และค่าบิการรวมกันแล้ว ต้องเรียกว่า สูงมว๊ากกกกก คนธรรมดาๆ หรือนักท่องเที่ยวในระดับกลาง มิอาจจะจ่ายแบบนั้นได้จ้า
ภาพจาก internet
เกียวโต เป็นเมืองเดียวในญี่ปุ่นที่ยังมี “เกอิชา” เหลืออยู่ .. นักท่องเที่ยวงบน้อยๆอย่างพวกเรา เมื่อมาเดินที่ถนนนี้ หากโชคดีก็อาจจะได้เห็นเกอิชาหรือ เมโกะ ผ่านมาให้ได้ยลโฉมเหมือนกัน
แต่ … การเจอเกอิชา ตัวจริงไม่ใช่ของง่าย เพราะเกอิชาตัวจริง ไม่ใช่สาวที่จะมาเดินเฉิดฉายปรากฏตัวให้เห็นง่ายๆ มักจะประจำอยู่ในร้าน หรือจะไปไหนมักจะมีรถมาคอยรับ-ส่งเสมอ แต่ก็มีบางครั้งที่เกอิชาอาจจะออกมาส่งแขกที่หน้าร้าน … หากเจอและคุณอยากจะถ่ายรูป ก็ต้องขออนุญาตเธอก่อนนะคะ
… หากไม่เจอเกอิชา ก็อย่าซีเรียสมาก ถือว่ามาเดินเล่นก็แล้วกันค่ะ
ย่านฮิกาชิยามา
ย่านฮิกาชิยามา … เป็นย่านคนเดินเก่าแก่ในพื้นที่ของ Gion ที่มีบ้านเรือนเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี ไม่มีสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์บนพื้นดินให้เห็น
ฉันชอบทางเดินปูด้วยแผ่นหิน ดูคลาสสิคเหมือนภาพในยุคเอโดะที่เห็นจามโปสเตอร์ และให้ความรู้สึกคล้ายๆกับถนนแบบคลับเบิ้ลสโตนในยุโรป
ย่านนี้มีซอกซอยเล็กๆ บางช่วงเป็นทางเดินเรียบ บางจุดมีบันไดขึ้น-ลงเนิน ให้เดินผ่านเข้าไปสำรวจ … บางช่วงมีศาลเจ้า
ศาลเจ้ายะซาคะโคชินโด (Yasaka Koshindo)
ในบริเวณใกล้ๆเจดีย์ยะซาคะโนะโต มีศาลเจ้าสีสันสวยงามชื่อว่า “ศาลเจ้ายะซาคะโคชินโด” .. สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเฮอัน … ว่ากันว่าเป็นสุสานของศาสนาพื้นบ้านของญี่ปุ่นชื่อ`ศาสนาโคชิน`ที่ซึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในเรื่องตุ๊กตา “คุคุริซารุ” ที่ถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้จำนวนมาก ว่ากันว่าคนที่มาที่นี่จะมาขอให้ยับยั้งความโลภ ปัจจุบันมีคนมาถ่ายรูปลง IG จำนวนมาก
เราออกจากศาลเจ้า เดินมาตามถนนคนเดิน … ย่านนี้เต็มไปด้วยอาคารที่อนุรักษ์และตกแต่งด้วยไม้ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโบราณ … มีร้านค้าขายของพื้นเมือง ร้านอาหาร ร้านกาแฟแบบฮิปๆกึ่งๆญี่ปุ่นคลาสสิก
มีร้านน่ารักๆ ที่สามารถเข้าไปซื้อของฝาก มีร้านขนมเรียงรายอยู่มากมาย … ใครบางคนบอกว่า บางร้านมีการสืบทอดกิจการกันมานานกว่าร้อยปีเลยทีเดียว ขนมที่ขายมีทั้งแบบลูกกวาดแบบญี่ปุ่นโบราณ ขนมอบต่างๆ
ย่านนี้ .. เหมาะกับคนที่รักการกิน เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารที่จัดดิสเพล์กันได้สวยงาม และน่าสนใจมาก … ทงคัทสึ หรืออาหารทอดเสียบไม้ที่มีให้เลือกหลายอย่าง ทั้ง หมู ไก่ กุ้ง ปูอัด ลูกลิ้น ผักต่างๆ
เจดีย์ยาซากะ (วัดโฮคันจิ)
เจดีย์ยาซากะ … เป็นเจดีย์รูปแบบเจดีย์โบราณ 5 ชั้นสไตล์ญี่ปุ่น รูปลักษณ์สวยงาม โดดเด่นอยู่ท่ามกลางย่านเมืองเก่าฮิกาชิยาม่า … ตั้งอยู่ทางตะวันตกของถนนนิเน็นซาคะ สูงถึง 49 เมตร สร้างขึ้นใน ค.ศ. 592 โดยเจ้าชายโชโทคุ ไทชิ ซึ่งนับว่าถูกสร้างขึ้นก่อนที่กรุงเกียวโตจะกลายเป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ. 794 อีกด้วย
วัดโฮคันจิและเจดีย์ยาซากะเคยพังทลายเพราะถูกไฟไหม้และมีการสร้างขึ้นมาใหม่หลายต่อหลายครั้ง โดยตัวเจดีย์ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1440 โดยโชกุนโยชินาริ อาชิทากะ แต่อาคารอื่นๆของวัดโฮคันจิไม่ได้รับการบูรณะขึ้นมาด้วย ทำให้เจดีย์ยาซากะตั้งอยู่อย่างโดดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของฮิกาชิยามะ และกรุงเกียวโต มาจนถึงปัจจุบัน เราจะเห็นปรากฏอยู่ในภาพถ่ายจำนวนมาก
จากบริเวณเจดีย์ยาซากะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินต่อไปยังวัดน้ำใส คิโยมิซุได้ โดยตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 850 เมตร และตลอดสองข้างทางจะเป็นบรรยากาศเมืองเก่า และร้านรวงขายของต่างๆมากมาย นักท่องเที่ยวบางส่วนจึงมักจัดแผนการท่องเที่ยวโดยรวมสถานที่ทั้งสองแห่งนี้เข้าด้วยกันในวันเดียว (จะพาไปชมในโอกาสต่อไปค่ะ)
ย่านเมืองเก่าฮิกาชิยาม่ามักจะเนื่องแน่นไปด้วยผู้คนตลอดทั้งวัน หากนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบ รวมถึงถ่ายรูปเจดีย์ยากซากะและมุมต่างๆได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คน ควรเดินทางมาตั้งแต่เวลาเช้าจะดีที่สุด
ย่านกิอนน .. เป็นแหล่งของกินมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารญี่ปุ่นพื้นบ้าน
ไหนๆมาญี่ปุ่นแล้ว .. เราจึงแวะทานอาหารแบบญี่ปุ่นที่ร้านหน้าเจดีย์ยาซากะนั่นเองค่ะ นั่งรับประทานอาหารบนชั้นสอง มองลงมาดูความเคลื่อนไหวของผู้คนได้อย่างเพลิดเพลิน
ที่หน้าเจดีย์ยาซากะ มีคนลากรถคอยให้บริการอยู่หลายคน นักลากรถแต่ละคนจะสวมใส่ชุดที่ดูทะมัดทะแมง สวมกางเกงขาสั้น โชว์กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ มีพลังเหลือเฟือที่จะลากรถพาลูกค้าชมเมืองได้เป็นระยะทางไกลๆ … ระหว่างทางเขาก็จะคอยอธิบายว่าตรงไหนเป็นอะไร มีความเป็นมาอย่างไร
ความนิยมที่จะนั่งรถลากช้าๆไปในเมืองเก่าแบบนี้ จึงมีมากพอสมควร ชายหนุ่มคนลากรถจึงค่อนข้างไม่ว่าง เพราะมีลูกค้าเสมอ แม้อัตราค่าบริการจะสูงเอาเรื่องทีเดียว
หากขึ้นไปทางเหนืออีกจะพบกับเนเน่โนะมิจิ เป็นถนนที่ตั้งชื่อตาม เนเน่ ภรรยาของ ฮิเดโยชิ โทโยโทมิ เช่นเดียวกับที่ถนนนิเน็นซาคะและถนนซันเน็นซาคะ ที่นี่มีร้านค้าจำนวนมากและหากเดินตามเส้นทางนี้ไปเรื่อยๆก็จะไปถึงวัดโคไดจิทางฝั่งตะวันตก วัดนี้สร้างโดย คิตะโนะมันโดโคโระ ภรรยาหลวงของ ฮิเดโยชิ โทโยโทมิ เพื่อเป็นการอาลัยต่อการจากไปของฮิเดโยชิ ว่ากันว่าในหลุมศพมีรูปปั้นของ ฮิเดโยชิ และ คิตะโนะมันโดโคโระนั่งอยู่ ในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วงจะมีอีเว้นท์ประดับไฟด้วย
เมื่อผ่านทะลุเนเน่โนะมิจิออกมา ก็จะถึงสวนมารุยามะที่อยู่ติดกับศาลเจ้ายะซาคะ เป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระยอดนิยมของเกียวโต จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้ คือ ชิดาเรซากุระ ซึ่งจะมีเปิดไฟประดับช่วยตั้งแต่ประมาณกลางมีนาคมถึงกลางเมษายน โดยเปิดตั้งแต่พระอาทิตย์ตกจนถึงตี 1 ของวันถัดไป ถ้าไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิลองไปหาเสื่อมานั่งเล่น หาเครื่องดื่มและของกินอร่อยๆ นั่งดูซากุระไปเรื่อยๆก็เพลินดีนะคะ
เราเดินจากย่านกิอนน มุ่งหน้าไปที่วัดน้ำใส ... การเดินนั้นรื่นรมย์ เพระมีร้านค้ามากมายที่ตกแต่งร้านอย่างน่ารัก การออกแบบสินค้าดึงดูดให้คนที่ผ่านไปมาเดินเข้าไปซื้อหาได้อยู่เรื่อยๆ .. รวมถึงเราด้วย
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา