นักผจญภัยจอมบุกเบิก ผู้บัญชาการของกองเรือใหญ่ยอนต้ามาเรียที่มีสมาชิกจำนวน 4,300 คน แต่เขาลาออกจากตำแหน่งนักผจญภัยของประเทศ เพื่อมาใช้ชีวิตเป็นโจรสลัด
กองเรือใหญ่ยอนต้ามาเรีย สมาชิกของกองเรือใหญ่หมวกฟาง เรือลำดับที่ 7
ภาพจากหน้าปกมังงะวันพีซตอนที่ 910 ในหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 90
มีกัปตันและผู้บัญชาการก็คือออร์ลัมบัส เขาเกิดวันที่ 23 มิถุนายน มีอายุ 42 ปี และมีส่วนสูง 480 เซนติเมตร เป็นเจ้าของค่าหัว 148 ล้านเบรี
อาหารที่ออร์ลัมบัสชอบคือไข่ต้ม ส่วนอาหารที่ไม่ชอบ คืออาหารตามใจเชฟ
ถ้าใครไม่ใช่สายอ่าน สามารถรับชมเรื่องราวของออร์ลัมบัสในรูปแบบวิดีโอได้ตามนี้เลยครับ
กองเรือใหญ่ยอนต้ามาเรียมีเรือทั้งหมด 56 ลำ มีเรือลำหลักที่มีขนาดใหญ่มากชื่อว่า ยอนต้ามาเรีย ส่วนเรือลำอื่นๆ จะแบ่งตามขนาด
โดยมีเรือขนาดกลางเรียกว่า ซานต้ามาเรียจำนวน 5 ลำ
และเรือขนาดเล็กเรียกว่า นิต้ามาเรียจำนวน 50 ลำ
ในสมัยที่ออร์ลัมบัสยังเป็นเด็ก เขาใช้เวลาส่วนมากไปกับการอ่านหนังสือและหาความรู้
จากข้อมูลในสารานุกรมวันพีซ วีเวิลการ์ด ชุดที่ 10 มีบอกเอาไว้ว่า ออร์ลัมบัสในวัยเด็กอ่านหนังสือไปมากกว่า 10,000 เล่ม ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีความรู้กว้างขวางมากคนนึงในอาณาจักรสแตนดิ้ง บ้านเกิดของเขา
ด้วยความสามารถทางด้านวิชาการของออร์ลัมบัสทำให้เขาได้เป็นนักผจญภัยและยังได้เป็นผู้บัญชาการของกองเรือใหญ่ยอนต้ามาเรีย
ที่เดรสโรซ่า ออร์ลัมบัสได้เข้าแข่งขันการต่อสู้ในคอรีดา โคลอสเซียมเพื่อต้องการชิงผลเมระเมระ
ออร์ลัมบัสสามารถจัดการเอเกียว ราชสีห์นักมวยได้ โดยเขาใช้แส้เป็นอาวุธในการต่อสู้
แต่ออร์ลัมบัสก็ต้องแพ้ไปตามระเบียบ หลังจากโดนคาเวนดิชที่อยู่ในโหมดฮาคุบะเล่นงานในการแข่งขันของบล็อก D
และเขาถูกชูก้าทำให้กลายเป็นของเล่นเหมือนกับนักสู้คนอื่นๆ ที่พ่ายแพ้จากการแข่งขัน
แต่ในท้ายที่สุด เขาก็กลับร่างมาเป็นผู้บัญชาการออร์ลัมบัสเหมือนเดิมได้ ด้วยการช่วยเหลือของก็อด อุซป ที่สามารถทำให้ชูก้าหมดสติ ทำให้พลังจากผลปิศาจของชูก้าคลายลงได้สำเร็จ
ออร์ลัมบัสจึงได้ไปช่วยพวกกลุ่มหมวกฟาง ประชาชนชาวเดรสโรซ่าและนักสู้คนอื่นๆ ในการต่อกรกับดอนกิโฮเต้ แฟมิลี่
แม้เขาจะไม่ได้จัดการพวกระดับผู้บริหารของดอนกิโฮเต้ แฟมิลี่ได้แบบไซ หรือบาโธโลเมโอ
แต่ด้วย “ความน่าเกรงขามของผู้การ” ที่ออร์ลัมบัสสามารถออกคำสั่งกับพวกลูกกะจ็อกของดอนกิโฮเต้ แฟมิลี่ให้มาตั้งแถวหน้ากระดานได้
โดยที่พวกลูกกะจ็อกเองก็ทำไปโดยไม่รู้ตัว แค่ได้ยินเสียงออร์ลัมบัสสูดลมหายใจแล้วตะโกนสั่งการ ร่างกายของพวกเขาก็ขยับมาตั้งแถวเองโดยอัตโนมัติ
ซึ่งออร์ลัมบัสก็ได้ใช้ท่าต่อมา นั่นก็คือท่า ผู้การคิลเลอร์โบว์ลิ่ง ที่จะนำลูกกะจ็อกของฝั่งศัตรูคนนึง มาโยนเป็นลูกโบว์ลิ่ง ใส่พวกที่ถูกสั่งให้ตั้งแถวอยู่ก่อนหน้านี้ ถือว่าเป็นท่าที่จัดการพวกลูกกะจ็อกได้หลายคนในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
แต่ที่เราจดจำออร์ลัมบัสกันได้ ก็คงจะเป็นในตอนที่ ออร์ลัมบัส โดนโซโลไหว้วาน ให้ช่วยทำตามแทคติคนัมเบอร์ ไฟว์หรือแผนลำดับที่ 5 ที่โซโลใช้สมองคิดมาอย่างดิบดีในการจะเผด็จศึก พิก้า ผู้บริหารของดอนกิโฮเต้ แฟมิลี่ นั่นก็คือแผน กระโดดขึ้นฟ้าแล้วสับมันให้เละ
โดยออร์ลัมบัสจะโยนโซโลให้พุ่งไปหาพีก้า โดยการใช้ท่าผู้การคิลเลอร์โบว์ลิ่ง ที่โยนด้วยกำลังแขนที่แข็งแกร่งของออร์ลัมบัส ซึ่งปกติออร์ลัมบัสเอาไว้เพื่อโยนคนให้เจ็บตัว
ซึ่งออร์ลัมบัส เกร็งแขนและรีดพลังเยอะกว่าตอนปกติที่เขาใช้ท่านี้ ดูจากอาการสั่นๆ เกร็งๆ ของออร์ลัมบัสจากตอนที่โยนโซโลกับตอนที่โยนพวกลูกกะจ็อกได้ ต่างกันอย่างชัดเจน
เพราะเขาต้องโยนโซโลแบบสุดแรงเพื่อไปให้ถึงพีก้าที่อยู่ค่อนข้างไกล
ซึ่งโซโลเคยเห็นออร์ลัมบัสใช้ท่า ผู้การคิลเลอร์โบว์ลิ่งกับพวกลูกกะจ็อกมาแล้ว จึงทำให้โซโลคิดแผน แทคติค นัมเบอร์ ไฟว์นี้ออก
โซโลจึงลอยพุ่งไปในอากาศและสามารถจัดการพีก้าได้สำเร็จ
3 วันหลังจากที่ลูฟี่เอาชนะโดฟลามิงโก้ได้แล้ว
ออร์ลัมบัสที่ได้อธิบายถึงลำดับของกองเรือใหญ่หมวกฟางแต่ละกอง ว่าใครมีจำนวนสมาชิกเท่าไหร่และลำดับอะไรกันบ้าง ซึ่งออร์ลัมบัสเป็นลำดับที่ 7 และมีจำนวนคนเยอะที่สุดที่จำนวน 4,300 คน
ซึ่งกองเรือใหญ่หมวกฟางทั้ง 7 มีสมาชิกรวมกันทั้งหมดจำนวน 5,600 คน
และบาโธโลเมโอที่ปิดท้ายด้วยการบอกว่าพวกเราทั้ง 7 จะเป็นตัวแทนในการดื่มจอกเหล้าสาบานของลูกน้อง เพื่อขอเป็นสมาชิกของกองเรือใหญ่หมวกฟาง
ออร์ลัมบัสได้บอกลูฟี่ว่า "ไม่ว่าจะเป็นศัตรูที่เก่งแค่ไหน ก็เอาชนะจำนวนไม่ได้อยู่ดี ในอนาคตสักวันนึงมันจะต้องจำเป็นกับนายแน่"
ซึ่งลูฟี่บอกว่ามันอึดอัดและทำสีหน้าไม่พอใจอย่างแรง 😅
แต่ลูฟี่ก็พูดว่า "ถ้าพวกฉันตกอยู่ในอันตรายเมื่อไหร่ จะตะโกนเรียกพวกนายดังๆ ให้มาช่วยเอง ส่วนพวกนายถ้าอยากให้ไปช่วยเมื่อไหร่ก็เรียกพวกฉันได้เช่นกัน"
พวกตัวแทนของกองเรือใหญ่หมวกฟางทั้ง 7 ที่ได้ดื่มจอกลูกน้องกันโดยไม่สนใจลูฟี่และเริ่มจัดงานเลี้ยงฉลองกันอย่างเอิกเกริก หลังจากที่พวกเขาได้ผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดที่เดรสโรซ่ามาด้วยกัน
ส่วนจอกลูกพี่ที่หัวหน้าใหญ่หมวกฟางต้องดื่ม โซโลก็ซดแทนจนเกลี้ยง
หลังจากจบงานเลี้ยงฉลองการก่อกำเนิดกองเรือใหญ่หมวกฟางเรียบร้อย ออร์ลัมบัสก็พากองเรือใหญ่ยอนต้ามาเรียเดินทางกลับอาณาจักรสแตนดิ้ง บ้านเกิดของเขา
เขาได้เข้าพบกับพระราชาของอาณาจักรสแตนดิ้ง เพื่อยื่นใบลาออกจากตำแหน่งนักผจญภัยของอาณาจักร โดยออร์ลัมบัสต้องการจะไปใช้ชีวิตเป็นโจรสลัด
ซึ่งราชาไม่ยอมรับใบลาออกจากออร์ลัมบัสและหัวเสียหนักมาก
6 โมงเช้าของวันต่อมา ออร์ลัมบัสตื่นนอนและกำลังพับชุดนอนให้เรียบร้อย เพื่อเริ่มต้นชีวิตในการเป็นโจรสลัด
ถัดมา ณ เวลา 10 โมงตรง ออร์ลัมบัสกับโคลัมบัสเดินตรวจเช็คความสะอาดภายในเรือ โดยพวกเขาเคร่งมากเรื่องความสะอาด
เคร่งขนาดที่ว่า ถึงกับต้องอัดคนทำความสะอาดจนน่วม เพราะทำความสะอาดแล้วแต่ยังมีฝุ่นหลงเหลืออยู่
หลังจากนั้นออร์ลัมบัสและสมาชิกของกองเรือใหญ่ยอนต้ามาเรีย ก็ขโมยเรือ 56 ลำและออกเดินทางออกจากอาณาจักรสแตนดิ้ง พร้อมกับน้ำตาและคำขอบคุณของออร์ลัมบัสที่มีต่อราชาของอาณาจักรสแตนดิ้ง
แต่ราชายังคงโมโหออร์ลัมบัสเรื่องการลาออกอยู่ จึงสั่งให้เหล่าทหารยิงปืนใหญ่ใส่กองเรือของออร์ลัมบัส
โดยส่วนตัวผมคิดว่าราชาของอาณาจักรสแตนดิ้งน่าจะเป็นคนที่ให้โอกาสและสนับสนุนออร์ลัมบัสในการเป็นนักผจญภัย เพื่อไปสำรวจเกาะหรือสถานที่ต่างๆ ออร์ลัมบัสเลยแสดงความขอบคุณต่อพระราชา ที่คอยให้การสนับสนุนดูแลกันมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ต่อมา ณ เวลาบ่าย 3 โมงตรง ออร์ลัมบัสเริ่มเขียนแผนการในการเป็นโจรสลัด
1 ชั่วโมงต่อมา ณ เวลา 4 โมงตรง ศึกแรกในฐานะโจรสลัดของกองเรือใหญ่ยอนต้ามาเรียได้เริ่มขึ้น พวกเขาเปิดฉากโจมตีเกาะแห่งหนึ่ง
ณ เวลา 4 โมงครึ่ง ออร์ลัมบัสพบว่าอีกฝ่ายยากจนเกินคาด เขาจึงได้แจกข้าวของที่จำเป็นให้กับคนเหล่านั้นแทน
เวลา 5 โมงตรง ออร์ลัมบัสสั่งการให้ออกเรือจากเกาะแห่งนี้ พร้อมกับได้รับคำขอบคุณจากชาวเมือง เพราะออร์ลัมบัสและพรรคพวกมามอบข้าวของให้กับพวกเขา
สรุปว่า การเปิดตัวเป็นโจรสลัดของออร์ลัมบัสและกองเรือใหญ่ยอนต้ามาเรียล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
แต่ก็พึ่งวันแรกแหละครับ อาจจะต้องปรับแก้กันไปหรือไม่ก็เป็นออร์ลัมบัส เหมือนที่เคยเป็นมาเหมือนเดิมก็ได้
เพราะออร์ลัมบัสก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรขนาดนั้น รู้จักขอบคุณผู้มีพระคุณอย่างราชาของอาณาจักรสแตนดิ้ง และถ้าเขาพบเจอคนที่อ่อนแอกว่า ด้อยโอกาสกว่า เขาก็แบ่งปันให้ในยามที่เขามีพร้อม
ออร์ลัมบัสก็เริ่มต้นใช้ชีวิตเป็นโจรสลัดในแบบของเขาต่อไป และรอวันเวลาที่เขาและกองเรือใหญ่หมวกฟางที่นำโดยลูฟี่ หมวกฟาง
จะมีส่วนร่วมและเป็นต้นกำเนิดของคดีใหญ่ที่ยังไม่ถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ ซึ่งมันเป็นเรื่องราวที่ยังไม่มีใครรู้
เรื่องราวของออร์ลัมบัสหลังจากออกจากเดรสโรซ่า สามารถไปอ่านได้ในหน้าปกมังงะตอนที่ 903 ถึงตอนที่ 913 ในหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 90 และ 91 ได้เลยครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
