29 ต.ค. 2021 เวลา 10:10 • ประวัติศาสตร์
"วัดลิงขบ" มีอยู่จริง ไม่ใช่ไว้ล้อกันเล่นๆ
วัดลิงขบ ปัจจุบันคือ วัดบวรมงคล ย่านบางพลัด เป็นวัดที่สำคัญมากต่อการเกิดธรรมยุติกนิกาย เพราะเป็นวัดของพระสุเมธมุนี (ซาย พุทธวํโส) ซึ่ง ร.4 ทรงพบขณะทรงพระผนวช และประทับใจในวิถีพระมอญ
ประวัติวัดบวรมงคล วัดลิงขบ
ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๕๒ เจ้าฟ้ากรมขุนเสนานุรักษ์ ได้รับมหาอุปราชาภิเษกเป็น กรมพระราชวังบวรสถานมงคลมหาเสนานุรักษ์ ตำแหน่งพระมหาอุปราช ในระยะนี้พระราชพงศาวดารได้บันทึกไว้ว่า พระองค์ได์ทรงสร้าง วัดใหม่ขึ้น ๑ วัด (วัดทรงธรรม สมุทรปราการ) และสถาปนาวัดราษฎร์ เป็นพระอารามหลวง ๒ วัด ซึ่งในจำนวน ๒ วัดนี้ วัดบวรมงคล รวมอยู่ด้วยวัดหนึ่ง
1
ก่อนหน้านี้ วัดบวรมงคล มีชื่อเรียกกันทั่ว ๆ ไปว่า วัดลิงขบ เป็นวัดเก่าแก่ ภายหลังชาวรามัญอพยพเข้ามา พึ่งพระบรมโพธิสมภารมากขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อยู่เป็นแห่ง ๆ ไป และมีจำนวนหนึ่งได้มา อาศัยอยู่เขต ตำบลวัดลิงขบ นี้ ดังนั้นจึงมีพระภิกษุสามเณร ชาวรามัญ (มอญ) เข้ามาอาศัยอยู่ใน วัดลิงขบนี้มาก ในขณะที่ กรมพระราชวังบวรสถาน มงคลมหาเสนานุรักษ์ ทรงพิจารณา หาวัดที่สมควรแก่การบูรณะและสถาปนาอยู่นั้น พระองค์ก็ได้ทรงตระหนักในความสำคัญเกี่ยวกับ วัดบวรมงคลว่า
วัด นี้เป็นวัดเก่าแก่ มีบริเวณกว้างขวางพอจะขยับขยายออกไปได้สะดวก ขณะนี้วัดนี้มีพระสงฆ์รามัญอยู่มาก และมีพระผู้ใหญ่เป็นประธานสงฆ์อยู่ด้วย สมควรจะบูรณะขึ้นให้เป็นวัดส่วนกลางสำหรับพระสงฆ์รามัญนิกาย เพื่อที่จะเป็นการสะดวก ในการติดต่อประสานงานด้านการปกครอง คณะสงฆ์ต่อไปอีกประการหนึ่งด้วย ขึ้น ในจำนวนพระสงฆ์รามัญเหล่านั้น มีพระเถระผู้ใหญ่ ที่มีผู้เคารพนับถือมากรูปหนึ่ง มาเป็นประมุขสงฆ์อยู่ด้วย ท่านรูปนั้นคือ พระไตรสรณธัช
ทั้ง ชาวรามัญที่อพยพ เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ซึ่งตั้งรากฐานอยู่ถิ่นใกล้ วัดลิงขบ นี้ก็มีมาก จึงเป็นการจำเป็น อย่างยิ่งที่จะสนับสนุนให้ชาวรามัญเหล่านี้ มีที่บำเพ็ญกิจทางศาสนา ตามประเพณีนิยมของตน ทั้งเป็นการบำรุง ขวัญของชาวรามัญอีกประการหนึ่งด้วย ดังนั้นพระองค์จึงตกลงพระทัยบูรณะ วัดลิงขบ สถาปนาเป็น พระอารามหลวงประทานนามว่า “วัดบวรมงคล
โฆษณา