1 พ.ย. 2021 เวลา 02:01 • ประวัติศาสตร์
จุดเริ่มต้นและจุดจบของ “พระนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn)”
เรื่องราวของ “พระนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn)” เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ
พระนางเป็นพระมเหสีใน “พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII)” พระประมุขแห่งอังกฤษ ซึ่งครองราชย์ระหว่างค.ศ.1509-1547 (พ.ศ.2052-2090)
1
หากใครที่สนใจประวัติศาสตร์อังกฤษ และเคยอ่านซีรีส์เรื่องของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ที่ผมเคยเขียน น่าจะรู้ว่าพระองค์ทรงมีพระอุปนิสัยที่ค่อนข้างโหดร้าย มีความสัมพันธ์กับสตรีหลายคน ซึ่งส่วนมากก็มักจะมีจุดจบที่ไม่ค่อยดีนัก
พระนางแอนน์ โบลีนคือหนึ่งในสตรีที่พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงมีสัมพันธ์ด้วย และได้ขึ้นเป็นถึงพระราชินี
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII)
ในปีค.ศ.1536 (พ.ศ.2079) พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงกล่าวหาพระนางแอนน์ โบลีน ซึ่งเป็นพระมเหสีองค์ที่สองของพระองค์ และได้ขึ้นเป็นพระราชินีเมื่อปีค.ศ.1533 (พ.ศ.2076) ด้วยข้อกล่าวหาหลายข้อ
ข้อหาต่างๆ ที่พระนางแอนน์ โบลีนทรงถูกกล่าวหา ก็มีทั้งแอบคบชู้ ร่วมประเวณีกับพี่น้องตนเอง รวมทั้งยังวางแผนร้ายต่อองค์กษัตริย์
1
พระนางแอนน์ โบลีนถูกนำองค์ขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดี และถูกตัดสินว่ามีความผิด โดยในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ.1536 (พ.ศ.2079) พระองค์ถูกนำเสด็จมายังหอคอยแห่งลอนดอน และถูกประหารด้วยการตัดพระเศียร
พระนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn)
แต่ถึงจะถูกประหารและถูกกล่าวหาหลายข้อหา แต่นักประวัติศาสตร์ก็เชื่อว่าข้อกล่าวหาต่างๆ นั้น ล้วนแต่ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงข้อกล่าวหาปลอมๆ ที่พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงกล่าวหา เนื่องจากพระองค์ทรงมีพระประสงค์ที่จะอภิเษกสมรสกับ “พระนางเจน ซีมัวร์ (Jane Seymour)”
พระนางเจน ซีมัวร์ (Jane Seymour)
สำหรับพระนางแอนน์ โบลีน ก่อนที่พระองค์จะขึ้นเป็นพระราชินี พระองค์ก็เป็นหนึ่งในข้าราชสำนัก โดยเป็นนางกำนัลของ “พระนางแคทเทอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon)” พระมเหสีองค์แรกของพระเจ้าเฮนรีที่ 8
1
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงพบและลุ่มหลงในพระนางแอนน์ โบลีน และพยายามจะครอบครองพระนาง หากแต่พระนางแอนน์ โบลีนก็ปฏิเสธที่จะเป็นเพียงนางสนม
พระนางแคทเทอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon)
พระนางแอนน์ โบลีน ทรงมาจากครอบครัวชนชั้นสูงในอังกฤษ และเคยถวายงานรับใช้ในราชสำนักยุโรปดินแดนอื่น
2
พระองค์ทรงเป็นผู้มีการศึกษาและเชี่ยวชาญในการเข้าสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเต้นรำหรือร้องเพลง อีกทั้งยังมีเสน่ห์ และที่สำคัญ พระองค์ “เล่นการเมือง” เป็น
1
พระองค์เป็นลูกสาวนักการทูต พระองค์จึงทรงมีวาทศิลป์ดี รู้จักการวางตัว และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ทรงอำนาจทางการเมืองหลายคน
1
แต่หากพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงต้องการจะอภิเษกสมรสกับพระนางแอนน์ โบลีน พระองค์ก็ต้องทรงหย่ากับพระนางแคทเทอรีนซะก่อน โดยในเวลานี้ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงหลงไหลในพระนางแอนน์ โบลีน และคาดหวังว่าพระนางแอนน์ โบลีนจะให้กำเนิดพระราชโอรสให้พระองค์ได้
1
แต่พระนางแอนน์ โบลีนก็ปฏิเสธที่จะเป็นเพียงสนม หรือพูดง่ายๆ ก็คือ “เมียน้อย” ของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 และยังไม่ยอมอภิเษกสมรส
1
แต่ปัญหาก็คือคริสตจักรคาทอลิกไม่อนุญาตให้มีการหย่าร้าง หากแต่พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ไม่ยอมแพ้ พระองค์ทรงเถียงต่อ “สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 7 (Pope Clement VII)” ว่าการอภิเษกสมรสของพระองค์กับพระนางแคทเทอรีนนั้นไม่ถูกต้อง เนื่องจากแต่ก่อน พระนางแคทเทอรีนเคยอภิเษกสมรสกับพระเชษฐาของพระองค์มาก่อน
สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 7 (Pope Clement VII)
แต่ถึงอย่างนั้น สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 7 ก็ไม่ทรงยอมให้มีการหย่าร้าง พระเจ้าเฮนรีที่ 7 จึงทรงไปไกลกว่านั้น โดยพระองค์ทรงแยกองค์ออกจากคริสตจักรคาทอลิก เป็นการยืนยันว่าคริสตจักรไม่มีอำนาจเหนือกว่าอำนาจของกษัตริย์อังกฤษ
3
ในที่สุด พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ทรงอภิเษกสมรสอย่างลับๆ กับพระนางแอนน์ โบลีนในเดือนมกราคม ค.ศ.1533 (พ.ศ.2076) ทำให้พระเจ้าเฮนรีที่ 8 และ “โทมัส แครนเมอร์ (Thomas Cranmer)” อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอบิวรี ถูกตัดออกจากคริสตจักรคาทอลิก
1
ด้วยเหตุนี้ ทำให้เกิดการก่อตั้ง “คริสตจักรแห่งอังกฤษ (Church of England)”
แต่ในไม่ช้า พระนางแอนน์ โบลีนก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 อีกต่อไป เนื่องจากพระองค์ไม่สามารถให้พระประสูติกาลพระราชโอรส
ในปีค.ศ.1533 (พ.ศ.2076) พระองค์ทรงให้พระประสูติกาลพระราชธิดา นั่นคือ “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I)” แต่พระองค์ก็ทรงแท้งพระราชโอรสในเดือนมกราคม ค.ศ.1536 (พ.ศ.2079)
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I)
เมื่อถึงจุดนี้ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ทรงคิดว่าความสัมพันธ์ของพระองค์จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง พระองค์ไม่ทรงโปรดพระนางแอนน์ โบลีนอีกต่อไป โดยในเวลานั้น พระองค์ก็ทรงมีความสัมพันธ์กับนางกำนัลของพระนางแอนน์ โบลีนถึงสองคน โดยหนึ่งในนั้น คือสตรีที่ชื่อ “เจน ซีมัวร์ (Jane Seymour)” หรือภายหลังคือพระนางเจน ซีมัวร์นั่นเอง
ในขณะเดียวกัน พระนางแอนน์ โบลีน ก็ทรงขัดแย้งกับ “โทมัส ครอมเวลล์ (Thomas Cromwell)” หัวหน้าคณะรัฐมนตรี โดยเรื่องที่ขัดแย้ง หลักๆ ก็คือเรื่องของนโยบายต่างประเทศและเรื่องการเงินของพระเจ้าเฮนรีที่ 8
1
นักประวัติศาสตร์บางคนก็เชื่อว่าครอมเวลล์ อาจจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้พระนางแอนน์ โบลีนถูกประหาร
โทมัส ครอมเวลล์ (Thomas Cromwell)
ในท้ายที่สุด พระนางแอนน์ โบลีนก็ถูกกล่าวหาว่ามีชู้กับข้าราชสำนัก ซึ่งข้าราชสำนักที่ถูกกล่าวหา หลายคนก็ถูกทรมาน บังคับให้สารภาพ
นอกจากนั้น พระนางแอนน์ โบลีนยังถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์กับพระพี่น้องของพระองค์เอง รวมทั้งยังถูกข้อหาใช้เวทมนต์คาถาต่อพระเจ้าเฮนรีที่ 8 อีกด้วย
1
พระนางแอนน์ โบลีนทรงถูกนำไปคุมขังที่หอคอยแห่งลอนดอน ก่อนจะถูกนำขึ้นศาล พิจารณาคดีในวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ.1536 (พ.ศ.2079) และถูกตัดสินว่ามีความผิด ให้ประหาร
พระนางแอนน์ โบลีนถูกประหารในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ.1536 (พ.ศ.2079)
1
การสวรรคตของพระนางแอนน์ โบลีน เป็นการเปิดทางให้พระเจ้าเฮนรีที่ 8 อภิเษกสมรสกับพระนางเจน ซีมัวร์ ซึ่งภายหลังจากที่พระนางแอนน์ โบลีนสวรรคตไม่ถึงสองสัปดาห์ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับพระนางเจน ซีมัวร์
โฆษณา