31 ต.ค. 2021 เวลา 12:10 • สุขภาพ
โรคแพนิคคือ ?
หลายคนคงตั้งคำถามว่าจริง ๆ แล้ว โรคแพนิค คือ อะไร และเป็นโรคเดียวกันกับโรควิตกกังวลหรือไม่ วันนี้ Allwell จึงอยากมาไขข้อข้องใจว่า โรคแพนิค เป็นโรคที่เกิดจากความกังวลที่ไม่มีสาเหตุ ซึ่งจะแตกต่างจากโรควิตกกังวลที่จะมีสาเหตุมาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น งาน ครอบครัว สุขภาพ เป็นต้น
โรควิตกกังวลจะไม่แสดงอาการทางร่างกาย เป็นความเจ็บป่วยทางใจ ซึ่งต่างจากโรคแพนิคที่เมื่ออาการแพนิคกำเริบ ก็จะมีอาการทางกายแสดงออกมา เช่น ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ร้อนวูบวาบ เป็นต้น
โรคแพนิค เป็นโรคที่เกิดจากฮอร์โมนลดหรือเปลี่ยนแปลงกระทันหัน ทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ ระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของร่างกายในหลายๆ ส่วน จึงทำให้เกิดอาการหลายอย่างร่วมกัน ซึ่งอาจมีสาเหตุมาทั้งจากทางร่างกาย เช่น กรรมพันธุ์ การใช้สารเสพติด หรือความผิดปกติของฮอร์โมน
ส่วนทางจิตใจก็อาจมีสาเหตุมาจากการผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิต ซึ่งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือเสียสมดุลของสารเคมีในสมองได้ โดยเฉพาะในวัยเด็กที่มีโอกาสเป็นโรคแพนิคได้มากกว่า เช่น ถูกทอดทิ้ง ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกข่มขืน
#มันแย่นะคะสำหรับคนที่เคยผ่านจุดนี่มาและไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหรือไม่เป็น
อาการหลักๆที่คนเป็นโรคนี้จะแสดงออกมา มักเกิดจากความเคลียด ความวิตก ความกลัว
1.ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
2.หายใจไม่ออก หายใจติดขัดรู้สึกเหมือนขาดอากาศ
3.หวาดกลัวอย่างรุนแรงจนทำให้ร่างกายขยับไม่ได้
4.เวียนศีรษะหรือรู้สึกคลื่นไส้
5.มือสั่น หรือตัวสั่น รวมทั้งมีเหงื่อออกตามร่างกาย
6.รู้สึกหอบและเจ็บหน้าอก
7.รู้สึกร้อนวูบวาบ หรือหนาวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
8.เกิดอาการเหน็บที่นิ้วมือหรือเท้า
9.วิตกกังวลหรือหวาดกลัวว่าตนเองจะเสียชีวิต
10.กังวลว่าจะมีเหตุการณ์อันตรายเกิดขึ้น
11.หวาดกลัวและพยายามหลีกเลี่ยงสถานที่หรือสถานการณ์อันตรายที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัวในอดีต
12.รู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมสิ่งต่างๆในชีวิตได้ รวมทั้งกลัวว่าตัวเองจะเป็นบ้าหรือเสียสติ
นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคแพนิคส่วนมากมักมีอาการของโรคกลัวที่ชุมชนร่วมด้วย ส่งผลให้ไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว กลัวการเดินทางคนเดียว กลัวสถานที่บางแห่ง หรือกลัวสถานการณ์ที่หลีกหนีจากผู้คนได้ยาก ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ป่วยกลายเป็นคนที่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านหรืออยู่แต่ในอาคารตลอดเวลา ซึ่งโรคแพนิคนอกจากจะส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยแล้ว ยังอาจนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่ส่งผลเสียโดยตรงต่อตัวผู้ป่วยเช่นกัน ได้แก่
มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล และมีความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นมากกว่าผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารายอื่นๆ
มีอาการติดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และใช้สารเสพติด
เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยารักษาโรค
มีปัญหาทางการเงิน เนื่องจากต้องจ่ายค่ารักษา
ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ต้องพึ่งพาผู้อื่นในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก
มีปัญหากับที่ทำงานหรือกับทางโรงเรียน หรือกับคนรอบข้าง
สรุป
โรคแพนิคคืออาการป่วยทางจิตใจที่อาจจะไม่ได้สร้างอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็นับว่าส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ป่วยอย่างมาก เนื่องจากผู้ป่วยอาจกลัวการเข้าสังคม รวมไปถึงอาการแพนิคจะไปลดความมั่นใจในการใช้ชีวิตของผู้ป่วย ทำให้ไม่กล้าออกไปไหน และถ้าอาการรุนแรงก็อาจจะทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคทางจิตอื่นๆได้อีกเช่นกัน
การรักษาก็มีสองวิธีหลัก
การรักษาด้วยจิตบำบัด
การรักษาด้วยยา
อาหารที่ผู้ป่วยโรคแพนิคควรหลีกเลี่ยง
1.กาแฟ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้งหลาย การได้รับคาเฟอีนอาจทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล กระสับกระส่าย และอาจทำให้ผู้ป่วยโรคแพนิคมีอาการกำเริบขึ้นได้
2.แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือ ความวิตกกังวล กระสับกระส่าย และนอนไม่หลับมากกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพมากขึ้นไปอีก
3.ลูกอมขนมหวาน อาหารที่มีน้ำตาลสูงอาจส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลียหลังจากรับประทานได้ เนื่องจากของหวานจะไปเพิ่มน้ำตาลในเลือด ร่างกายจึงต้องปล่อยอินซูลินออกมา เพื่อปรับระดับน้ำตาลให้ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นภาวะน้ำตาลต่ำจนทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและกระตุ้นให้อารมณ์เปลี่ยนแปลงในที่สุด
4.อาหารแปรรูปและครีมเทียม เช่น ไส้กรอก เค้ก อาหารทอด และอาหารมันๆ ทั้งหลาย ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ซึมเศร้าหรือวิตกกังวลได้เช่นกัน
#สังคมสมัยนี้นั้นอยู่ยากดังนั้นการดูแลตัวเองและได้รับการดูจากคนรอบข้างก็เป็นการช่วยเสริมสร้างเกราะได้เช่นกัน
โฆษณา