31 ต.ค. 2021 เวลา 13:09 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ร่างทรง (The Medium)
บทวิเคราะห์หลังดูจบ EP.1
เรื่อง ย่าบาหยันกับคำสาปแช่ง
Spoiler Alert !!!
จะเล่าถึงเนื้อหาและฉากสำคัญในหนัง และวิเคราะห์ตามความเข้าใจของตัวเอง อาจจะไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์
จะแยกหัวข้อและมีฉากที่สื่อถึงความหมายเดียวกันนะครับ
1.ย่าบาหยัน
ร่างทรงของย่าบาหยันในหนัง จะสืบทอดละส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นไม่ต่างจากการถ่ายทอดDNAในสายเลือดมากนัก ทั้งการมีประจำเดือนเป็นเวลานานและเจ็บป่วยซึ่งเหมือนกับโรคชนิดนึงที่อยู่ในสายเลือด ที่คนในครอบครัวต้องเจอ โดยอ้างว่าคืออาการของผู้ถูกเลือกเป็นร่างทรง และคนที่จะเป็นร่างทรง ต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น
ปัจจุบันเป็นป้านิ่ม ซึ่งจากคำพูดของป้านิ่มเขาแทบไม่เคยเจอย่าบาหยันเลย และไม่เคยรับรู้การมีตัวตนชัดเจนของย่าบาหยันเลย ใช้แค่”ความรู้สึก” “ความเชื่อ” และยอมรับกับสิ่งที่เชื่อ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อว่าย่าบาหยันมีจริง มันทำให้เกิดการก่อตัวของคนที่เชื่อ และกลายเป็นร่างทรงที่มีชื่อเสียงมากในหมู่บ้าน
แต่จะมีถึงสองครั้ง ที่วิญญาณเข้าสิงแล้วกล่าวว่าตัวเองเป็นย่าบาหยัน
ฉากที่ป้านิ่มถามว่าเป็นใคร ผีที่สิงมิ้งก็อ้างว่าเป็นย่าบาหยัน จนทำให้ป้านิ่มนิ่งไปพักนึงและค่อยถามใหม่ เพราะลึกๆป้านิ่มเขาไม่แน่นอนและชัดเจนเรื่องการมีอยู่ของย่าบาหยันเลย
อีกฉากนึงคือ ที่ป้าน้อยถูกสิงซึ่งก็อ้างว่าเป็นย่าบาหยันเหมือนกัน แต่ดันปักธูปกลับหัว ทำให้ความน่ากลัวยิ่งทวีคูณมากขึ้น
แต่เมื่อมิ้งเข้ามาหาป้าน้อยในฉากสุดท้าย ป้าน้อยกลับพูดด่าและไล่วิญญาณที่อยู่กับมิ้งซะงั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นคิดว่าจะเป็นวิญญาณร้ายฝั่งเดียวกัน
ย่าบาหยันมีจริงไหม?
สรุปที่ผมเข้าใจ
ชื่อย่าบาหยัน เป็นชื่อที่คนในอดีตตั้งขึ้นมา เพื่อเรียกแทนวิญญาณในหมู่บ้านตัวเอง และแต่งตั้งว่ามีผีที่ชื่อย่าบาหยันคอยปกปักรักษาคนและหมู่บ้านนี้ไว้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าวิญญาณตัวไหนคือป้าบาหยัน และหาคนจะมาเป็นร่างทรงหรือเป็นผู้สื่อกลางคนกับวิญญาณ ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
เช่นโดยการทำพิธีรับขันธ์ เหมือนเปิดประตูรถให้และอยู่ที่วิญญาณไหนจะมาเป็นตัวนั่งแต่ไม่ถึงกับบังคับร่างคนนี้ ซึ่งวิญญาณดีหรือไม่ดีอยู่ที่จิตและความคิดของคนนั้น นั่นแหละคือตัวบังคับต่างหาก
(รายละเอียดของการเลือกร่างทรงจะพูดในEP.ต่อไปนะครับ)
ซึ่งง่ายๆเลย ย่าบาหยันไม่มีตัวตน มีแค่ชื่อ จึงทำให้ผีที่เข้าร่างจะอ้างตัวว่าเป็นป้าบาหยัน เพื่อเย้ยถึงความเชื่อของหมู่บ้านว่าคือวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์ และสามารถสั่งการชาวบ้านได้ด้วย เช่นตอนที่ป้าน้อยสั่งคนของสันติให้ทำพิธีใหม่อีกรอบ อาจจะเป็นเจตนาของผีที่อยู่ในร่างป้าน้อยก็ได้
(แต่ถ้าคิดอีกแบบ อาจจะเป็นตัวเดียวกันที่เข้าร่างมิ้งในฉากที่ป้านิ่มถามว่าเป็นใครก็ได้! ดูจากท่าทางและน้ำเสียงในการพูด) แต่ถ้าคิดแบบนึงอีก วิญญาณตัวนี้อาจจะเป็นย่าบาหยันจริงก็ได้ คือวิญญาณสายเทา ช่วยคนและฆ่าคนแล้วแต่เจตนา แต่สำหรับผม ตีความไปทางไม่มีจริงมากกว่า
แต่ทำไมถึงจะไล่วิญญาณในตัวมิ้งล่ะ?
2.คำสาปแช่ง
รู้ไหม ว่าการสาปแช่งเป็นพลังงานอย่างนึงเป็นการกำหนดชะตาชีวิตของคนที่โดนสาปตามความเชื่อ
เช่น ขอให้คนนั้นตายไม่ดี สิ่งที่ทำให้คนที่โดนสาปแช่งตายไม่ดี ตามความเชื่อเกิดจากวิญญาณเป็นคนทำ เช่นผีผลัก ผีบังตา รวมถึงวิญญาณเจ้ากรรมนายเวร
ทีนี้ย้อนกับไปฉากสุดท้ายที่วิญญาณในร่างป้าน้อยกับมิ้งเผชิญหน้ากัน อาจเกิดจากการสนองคำสาปแช่งที่เป็นพลังงานอย่างนึงให้กับตนเอง(หมายถึงวิญญาณตัวนั้นๆ) คือวิญญาณจะแย่งกันเพื่อทำให้ครอบครัวยะสันเทียะตายไม่ดี ตามคำสาปแช่งให้เป็นจริง!
ฉากที่รูปปั้นโดนตัดหัว อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่า คำสาปแช่งใกล้เป็นจริงแล้ว จงหมดศรัทธากับย่าบาหยัน เพราะมันไม่มีตัวตนจริงๆ จึงทำให้ป้านิ่มสิ้นหวังและหมดศรัทธากับย่าบาหยัน เพื่อขัดขวางจิตใจและความตั้งใจที่จะขับไล่วิญญาณร้าย เพราะมันอาจจะเป็นพลังงานอย่างนึงที่วิญญาณร้ายพ่ายแพ้
สรุปตามความเข้าใจส่วนตัวคือ แก่นหลักของหนังอยู่ที่ตะกูลมานิต ยะสันเทียะ มากกว่า ร่างทรงแค่เป็นตัวซับพอร์ตคำสาปแช่งให้เป็นจริง และย่าบาหยันก็เป็นแค่ The Medium ของวิญญาณอีกที
ชื่อหนังผมว่าผู้กำกับต้องการให้คนดูไขว้เขว และสนใจในเรื่องร่างทรงของย่าบาหยัน
จนสุดท้ายมันไม่ใช่เรื่องหลัก เหมือนประโยคที่ว่า...
“รถคันนี้สีแดง”
โฆษณา