สีขาวดำของแพนด้ายักษ์
ช่วยพวกมันซ่อนตัวในธรรมชาติได้มากกว่าที่เราคิด
ดูเผินๆ แพนด้ายักษ์ น่าจะไม่ใช่สัตว์ที่ซ่อนตัวเก่งสักเท่าไหร่
สีขาวและดำที่ตัดสลับกัน ดูอย่างไรก็ไม่ได้เข้ากับป่าไม้สีเขียวๆ
เรื่องนี้เป็นปริศนาคาใจนักวิทยาศาสตร์มาเนิ่นนาน ว่าสีขาวและดำของแพนด้าจะช่วยให้พวกมันพรางตัวในธรรมชาติได้อย่างไร (รวมถึง สกั๊งค์ และวาฬเพชรฆาต)
แม้แต่นักวิทยาศาสตร์จากจีน ประเทศที่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันก็ยังไม่รู้ - และเพิ่งมาถึงบางอ้อกันเมื่อเร็วๆ นี้
อย่างที่เราคงพอทราบกัน สีสันบนตัวของสัตว์ถูกออกแบบมาให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่พวกมันอยู่อาศัย
โดยปกติสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่จะมีสีใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมที่อาศัย และออกทางซีดจางมากกว่าตัดกันชัดๆ อย่างขาวกับดำ
ซึ่งทำให้แพนด้า แตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ อย่างมาก
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าสีขาวและดำเหมาะสมกับพวกมันดีอยู่แล้ว
สีดำของแพนด้าเข้ากับสภาพป่าที่มีร่มเงา ทั้งยังกลมกลืนกับไม้ลำต้นสีเข้ม และเข้ากันได้กับพื้นดินและหิน
ยิ่งในฤดูที่มีหิมะตกลงมา สีขาวก็ให้พวกมันดูกลมกลืนกับผืนดินที่ถูกปกคลุมไปด้วยละอองหนาวจากฟ้า
ใบไม้ในฤดูนี้จะสะท้อนแสงออกมาเป็นสีขาวเช่นกัน ก็ยิ่งช่วยให้แพนด้าสามารถพรางตัวเข้ากับธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย
สีขาวและดำ ยังช่วยให้มองเห็นได้ยากกว่าเมื่อมองจากระยะไกล
ซึ่งการวิเคราะห์เหล่านี้มาจากการใช้มุมมอง การมองภาพด้วยตาของมนุษย์ แมว และสุนัข เข้ามาเปรียบเทียบ
นักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่า โดยส่วนใหญ่เราเห็นแพนด้าในสวนสัตว์ไม่ใช่จากภูมิประเทศจริงที่มันอยู่
นอกจากนี้ภาพถ่ายส่วนใหญ่ ก็จะเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจนในพื้นหลังที่แตกต่าง เพื่อให้ตัวสัตว์ดูโดดเด่น
และถึงเราจะมองเห็นพวกมันชัดอย่างไร เราก็ไม่ใช่เสือโคร่ง เสือดาว หมาป่า ซึ่งสัตว์ที่จ้องจะกินลูกหมีและหมีชราเป็นอาหาร
ซึ่งเป็นสายตาที่ต่างจากเรา
และถึงแม้ว่าสีของแพนด้าจะทำให้เรามองเห็นพวกมันในธรรมชาติชัดหรือไม่ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่ผ่านมา เราไม่เคยมองเห็นคุณค่าและความสำคัญของพวกมันเลย จนกระทั่งพวกมันจวนเจียนจะสูญพันธุ์
เราจึงเพิ่งริเริ่มอนุรักษ์พวกมันกัน
เป็นโชคดีที่ทางการจีนค่อนข้างเอาจริงเอาจัง และลงมือทำทุกวิถีทาง ทั้งเรื่องราวงานวิทยาศาสตร์อย่างการผสมเทียม ตลอดจนการหันกลับมาให้ความสำคัญเรื่องพื้นที่อนุรักษ์
หลังพยายามมาเนิ่นนาน ตอนนี้มีแพนด้ายักษ์เพิ่มถึง 1,800 ตัว
และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางการจีนก็ถอดแพนด้าออกจากลุ่มสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์แบบวิกฤตแล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีหลายคนแย้งว่า ยังไม่ควรวางใจนัก
ในความเห็นของทาง IUCN ระบุว่า วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำลายป่าไผ่ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของแพนด้ายักษ์ได้มากกว่า 35% ในอีก 80 ปีข้างหน้า
ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องเตรียมรับมือกันในอนาคต
ด้วยสายตาที่มากวิสัยทัศน์
#IsLIFE #GiantPanda #Extinction
Photo : New York Times
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
