1 พ.ย. 2021 เวลา 09:33 • ความคิดเห็น
8 ด่านอรหันต์ แห่งวงการนักสะสม... 💕💕
วันก่อนผมไปเจอบทความในเฟสบุ๊ค อ่านแล้วหัวเราะครับ นอกจากจะได้หัวเราะแล้ว น้ำตาก็ไหลมาพร้อมๆ กันด้วย…😭😭😭
บอกเลยใครไม่อยู่ในวงการ มีหรือจะเข้าใจเรา เรื่องจริงจากคนที่ “เจ็บมาเยอะ”
ที่อ่านจบแล้วจะรู้ว่า... อยากจะขายไตมาซื้อมันไม่ใช่แค่คำพูดเล่นๆ !!!
อรหันต์ด่านที่ 1 ของมันต้องมี
นับตั้งแต่โลกใบนี้ บัญญัติคำว่า “Limited” ขึ้นมา วงการนักสะสมก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะความสัมพันธ์ของคำว่า Limited นั้น มันแปรผันตรงกับคำว่า “สงคราม” แห่งการแย่งชิงทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด (หรือถูกทำให้มันจำกัด) ที่แม้นมีเงิน ก็ใช่ว่าจะหากลับมาได้ซะทีเดียว
นั่นหมายถึงว่า ถ้าพลาดแล้ว คือพลาดเลย แบบนั้น ใครจะไปยอม!!! ศาดดดดด🤬🤬🤬
1
อรหันต์ด่านที่ 2 ของดีมักมาตอนที่ไม่มีตังค์💸💸💸
ถ้าเปรียบกับการลงทุนลงหุ้น มันมักจะเกิดจังหวะที่หุ้นตัวที่เรารัก หล่นฮวบจนน่าจะรีบช้อนซื้อไว้ แต่...ติดตรงที่เรามันไม่มีตังค์พอดี…ปั๊ดโถ่ว!!! แล้วของชิ้นนั้น มันก็จะวนเวียนอยู่ในหัวเรา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า 🤪🤪 และจบลงที่มีคนอื่นคว้ามันไปต่อหน้าต่อตา ฮือ.....
3
อรหันต์ด่านที่ 3 ของออกไม่เคยตรงปก😡😡
รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจ ว่าไอ้ภาพโปรโมท มันต้องทำให้สวยตะเตือนไต กระต่ายน้อยที่พร้อมจะเป็นเหยื่ออย่างเราๆ กันอยู่แล้ว แต่ก็แอบหวังในใจอยู่เสมอ ว่าของจริงที่ได้สัมผัส จะสวยงามยิ่งกว่าภาพโปรโมท... ทั้งที่ความจริงแล้ว โอกาสที่จะเป็นอย่างนั้น ช่างน้อยนิดเสียนี่กระไร พอๆ กับถูกล็อตเตอรี่นั่นแหละ
2
อรหันต์ด่านที่ 4 มาม่าที่ไม่ใช่แค่ดราม่า
“แดกมาม่า” 🍜🍜🍜ที่ใครหลายคนคิดว่าเราพูดเล่น จะรู้กันไหมว่า มันคือเรื่องจริง (โว้ย!!!) T_T
อันความหิวนั้น ยัดมาม่าลงไปก็หาย
ความเหนื่อยนั้น แค่นอนตื่นมาแล้วก็หาย... แต่
“ของที่มันต้องมีนั้น” จะแดกจนอิ่ม หรือจะนอนกี่ตื่น ถ้าไม่ซื้อเอาไว้ มันก็ไม่มีทางหาย อยากได้เข้าใจใช่มั๊ยยย???
3
อรหันต์ด่านที่ 5 ของเราที่ต้องเกรงใจเขา
เงินก็เงินเรา บ้านก็บ้านเรา แต่ทำไม การจะเอาของสะสมซักชิ้นเข้าบ้าน ถึงต้องลักลอบแอบเมีย แอบแม่กันด้วยวะ หือ!!! ยังไม่นับกับที่ต้องมารบกับปัญหาดราม่าครอบครัว ที่มูลค่าของสะสมของเราถูกด้อยค่า แปลงหน่วยเปรียบเทียบไปเป็นค่าแพมเพิสลูก หรือกระเป๋าชาแนลเมีย ทำกันแบบนี้ได้ลงคอได้ยังไง
2
อรหันต์ด่านที่ 6 ซื้อแพงขายถูกเป็นเรื่องธรรมดา
ไอ้ที่โม้ๆ กับเพื่อนว่า ตัวนี้ซื้อมาไม่กี่บาท ตอนนี้ราคาพุ่งไปไกลแล้ว... มันเป็นแค่ฉากหน้าครับ หันหลังมานี่ แผลเหวอะเลย ก็ไอ้ตัวที่ราคาพุ่งๆ มันมีซักประมาณ 1 ตัวได้ ส่วนไอ้ที่ราคาตกวันตกคืนนั้น มีอีกประมาณ 100 ตัว แต่ทำไงได้ ก็เราถือคติ “ไม่ขาย คือไม่ขาดทุน” เพราะเราคือนักสะสมยังไงล่ะ!!! (ยิ้มทั้งน้ำตา)😭😭
4
อรหันต์ด่านที่ 7 ฝ่าฟันสังคมแห่งโลกทุนนิยม
“ถ้าไอ้ที่สะสมอยู่เนี่ย เอาเงินไปลงทุนทำอย่างอื่น ป่านนี้รวยไปแล้ว” คือ... กรูไม่ได้อยากรวยไง กรูอยากสะสม กรูชอบแบบนี้ กรูชอบเก็บ… จะบอกว่าการซื้อของสะสมมันก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งนะเฟ้ย มันคือการลงทุนทางด้านจิตใจ
“ที่พวกทุนนิยมอย่างแก จะไม่มีวันเข้าใจ รู้ไว้ซะ”
2
อรหันต์ด่านที่ 8 รู้ว่าเขาหลอกแต่ยอมใจให้หลอก
แม้ถูกคนที่เรารักหักหลัง แต่ก็พร้อมจะยอมเจ็บซ้ำๆ แล้วเริ่มต้นกันใหม่ได้เสมอ มันคือหนทางสู่การเป็นนักสะสมมืออาชีพนั่นเอง.... ไหนมรึงบอกว่า limited ไงฟระ!? แล้วไหงผลิตออกมาเพิ่ม หรือแค่ย้อมสี ก็ออกมาเป็นรุ่นใหม่เฉย... แต่ถามว่าซื้อมั๊ย? ตอบเลยว่า “พี่ไม่เคยพลาด” 🤣🤣🤣
2
“เมื่อต่อมอยากได้มันทำงานแล้ว ยากนักที่จะต้านทาน”
2
ผมเองเคยหน้ามืดควักเงินซื้อแสตมป์ (อากรแสตมป์) นับเป็นแสตมป์ดวงที่แพงที่สุดเท่าที่เคยซื้อ คือ อาการแสตมป์ค่านา ราคา 1 เฟื้องครับ
“ใครรู้เค้าก็สรรเสริญผมใหญ่เลยครับ”
4
อากรแสตมป์ค่านา 1 เฟื้อง
ออกใช้เพื่อเป็นการจัดเก็บภาษี “ค่านา” มีใช้ในสมัยรัชกาลที่ 5 และเลิกใช้ในต้นสมัยรัชกาลที่ 8 มีพระปรมาภิไธยย่อ จปร อยู่ในช่องด้านซ้าย ส่วนช่องด้านขวาจะแสดงราคา
1
อากรค่านา ประกอบด้วยราคา 1 เฟื้อง (Fuang), 1 สลึง (Salung), 2 สลึง (2 Salung), 1 บาท (Baht), กึ่งตำลึง (½ Tamlung) และ 1 ตำลึง (Tamlung)
Cr. เพจเพื่อนกัน ในวงแสตมป์
โฆษณา