2 พ.ย. 2021 เวลา 02:35 • ธุรกิจ
Rabbit Cash รุกตลาดสินเชื่อดิจิทัล เพิ่มช่องทางเข้าถึงแหล่งทุนให้ทุกกลุ่มในสังคม
เพราะเงื่อนไขการเข้าถึงสินเชื่อตามกฎหมายบรรดาสถาบันการเงินและธนาคารให้บริการอยู่ในปัจจุบันมีข้อกำหนดที่ค่อนข้างจุกจิกและละเอียดยิบย่อย ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ปัจจัยดังกล่าวจะกลายเป็นข้อจำกัดให้ผู้บริโภคชาวไทยจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะ “คนตัวเล็ก” ที่ไม่ได้เป็นพนักงานกินเงินเดือน แต่ทำอาชีพอิสระ หรือเป็นกลุ่มหาเช้ากินค่ำ ซึ่งเมื่อเผชิญเหตุติดขัดทางสภาพคล่องและจำเป็นต้องได้รับเงินด่วนเข้าไม่ถึงบริการเหล่านี้ จนต้องหันไปพึ่งพาบริการเงินด่วนนอกระบบแทน
เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดที่เป็นปัญหา รัชนี แสนศิลป์ชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แรบบิท แคช จำกัด จึงได้เปิดตัวการให้บริการสินเชื่อดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยชูแนวคิด “Money Rabbolution สร้างเครดิตด้วยชีวิตออนไลน์” ซึ่งจะทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายกว่าเดิม
รัชนี กล่าวว่า สำหรับสินเชื่อเงินสดแรบบิท แคช จะแตกต่างจากสินเชื่อที่มีอยู่ทั่วไปตรงที่ “ความง่าย” คือ เข้าถึงได้ง่าย และอนุมัติได้ง่าย เพราะใช้ขั้นตอนการสมัครด้วยการกรอกข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน และใช้เวลารออนุมัติเพื่อรับเงินเพียงไม่เกิน 3 นาที
สำหรับเบื้องหลังความง่ายที่ส่งผลถึงความสะดวกรวดเร็วมาจากระบบจัดการข้อมูลที่แรบบิท ระบุว่าเป็นการปฏิวัติเฉพาะของแรบบิท (Rabbit + Revolution เป็น Rabbolution) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเปลี่ยนข้อจำกัดให้เป็นโอกาส ด้วยการมุ่งใช้ข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) ในการวิเคราะห์เพื่อพิจารณาการให้สินเชื่อ โดยข้อมูลทางเลือกจะช่วยให้แรบบิท แคช ได้ชุดข้อมูลที่เรียกว่า Digital Footprint และ Behavioral Footprint ต่าง ๆ ของผู้บริโภค ซึ่งจะบันทึกพฤติกรรมและปัจจัยเงื่อนไขในชีวิตของลูกค้าที่เข้ามาขอรับสินเชื่อ
“ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่เป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ พอลูกค้ากรอกข้อมูลและแสดงความยินยอมให้เราเข้าถึง ระบบจะทำให้เรามองเห็นพฤติกรรมการส่งของ แนวโน้มธุรกิจ อัตราการเติบโตของธุรกิจ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นตัวเลขหรือปัจจัยบ่งชี้บางอย่างที่เราสามารถนำมาพิจารณาเงินกู้ได้ เป็นชุดข้อมูลที่เราสามารถนำมาประเมินบุคคลคนนั้นได้ ซึ่งข้อมูลตรงนี้ทางแรบบิทจะมีได้ก็ต่อเมื่อลูกค้าอนุญาตแล้วเท่านั้น และเป็นฝ่ายเข้ามากรอกข้อมูลกับทางแรบบิทเอง ดังนั้น จึงหมดปัญหาในประเด็นความเป็นส่วนตัว (privacy) และความปลอดภัย (security) ของผู้ใช้งาน” รัชนี กล่าว
รัชนี กล่าวว่า ข้อมูลเหล่านี้ทางแรบบิทจะนำมาใช้ในการประเมินความเสี่ยงและพิจารณารูปแบบสินเชื่อที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน ก่อนย้ำว่ากระบวนการทั้งหมดใช้เทคโนโลยีชั้นนำผ่านระบบดิจิทัลอย่างแท้จริง จึงรับประกันความเชื่อถือได้และปลอดภัยสูงสุด
ขณะเดียวกัน ข้อได้เปรียบของแรทบิท แคช อีกประการหนึ่งที่ทำให้ยืนอยู่เหนือคู่แข่งสินเชื่อดิจิทัลรายอื่น ๆ ที่มีการจับมือร่วมกับธนาคารอย่าง LINE BK, เงินทันเด้อ และ Finnix หรือกลุ่มที่พัฒนาจากบริการทางการเงิน เช่น Kashjoy ของ Jaymart ตรงที่ แรบบิท แคช เป็นบริษัทในเครือบีทีเอส ซึ่งมีธุรกิจในกลุ่มมากมาย ทำให้แรบบิท แคช สามารถเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลายที่จะเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์สินเชื่อภายใต้การได้รับความยินยอมจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การขนส่ง การประกัน การซื้อสินค้าหรือบริการ หรือ การแลกคะแนนแรบบิท รีวอร์ด เป็นต้น รวมถึงข้อมูลที่สำคัญจากพันธมิตรทางธุรกิจต่าง ๆ
“เมื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบกันจะทำให้เราสามารถมองเห็นลูกค้าในมุมที่แตกต่าง และประเมินลูกค้าได้ในหลายมิติ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ากลุ่มที่อาจจะไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินทั่วไป สามารถได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนจากแรบบิท แคชได้ง่ายขึ้น โดยแลกกับการที่ลูกค้าไม่ต้องใช้เอกสารอย่างสลิปเงินเดือน หรือสเตทเม้นท์ หรือต้องผ่านการตรวจสอบเครดิต บูโร” รัชนี กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจว่าสินเชื่อดิจิทัลภายใต้แนวคิดของแรบบิทจะตอบโจทย์ความต้องการกับตลาดสินเชื่อดิจิทัลที่กำลังมีการแข่งขันมากขื้นในปัจจุบัน รัชนี ระบุว่า แรบบิท แคช จึงเริ่มก้าวแรกด้วยการนำร่องผสานความร่วมมือกับเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ผู้นำธุรกิจด้านการจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทย และฮิวแมนิก้า ผู้ให้บริการ HR Solutions ในการให้บริการกับกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับเคอร์รี่ ก็คือ การทดลองนำเสนอสินเชื่อเพื่อลูกค้าคนพิเศษที่มีอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้าของเคอรี่ เพื่อเป็นการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
โดยจะคัดเลือกจากกลุ่มของผู้ประกอบธุรกิจขายของออนไลน์ที่เป็นสมาชิกเคอรี่ เอ็กซ์เพรส โลยัลตี้ คลับที่มีประวัติในการจัดส่งสินค้าพัสดุกับทางเคอรี่เป็นประจำ บริษัทจะทำการประเมินผลจากข้อมูลที่ได้รับการยินยอมจากลูกค้ากลุ่มแรกนี้เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงเงื่อนไขการให้สินเชื่อก่อนจะออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะสมกับลูกค้าของเคอรี่ทุกคนสามารถใช้บริการได้ในอนาคต
วราวุธ นาถประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านคน ส่วนใหญ่ คือ ผู้ขายออนไลน์ ซึ่งมักจะมีความต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ หรือการจัดการสภาพคล่องเป็นการชั่วคราว ดังนั้น แรบบิท แคชจึงเป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่มาตอบโจทย์ให้กับลูกค้าของเคอร์รี่
“สำหรับเราถือเป็นการสร้างโอกาสที่ดี และต่อยอดการบริการ ด้วยขั้นตอนการขอสินเชื่อที่ง่าย ไม่ต้องส่งเอกสารยุ่งยาก ยิ่งลูกค้าที่มีประวัติการใช้บริการกับเคอรี่เป็นประจำจะทำให้มีข้อมูลที่มากขึ้น ซึ่งเพิ่มโอกาสในการได้รับพิจารณาสินเชื่อด้วยวงเงินสูงขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เคอรี่ยังมีแผนการตลาดที่วางร่วมกับทาง แรบบิท แคช ที่จะนำเสนอให้กับลูกค้าแต่ละกลุ่มของเราในอนาคตอันใกล้นี้” วราวุธ กล่าว
ขณะที่ความร่วมมือกับทางฮิวแมนิก้า แรบบิท แคช ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของสินเชื่อสวัสดิการพนักงานโดยความสมัครใจ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยทั่ว ๆ ไป ให้กับพนักงานของบริษัทที่ใช้บริการ HR Solutions ของกลุ่มฮิวแมนิก้า เฉพาะในกรณีที่บริษัทเหล่านั้นต้องการพิจารณาให้สินเชื่อสวัสดิการนี้เป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่บริษัทมอบให้กับพนักงานของตนนอกเหนือจากสวัสดิการอื่น ๆ ของนายจ้างเท่านั้น โดยข้อมูลของพนักงานแต่ละคนที่จะนำมาใช้ได้นั้นจะต้องผ่านกระบวนการยินยอมจากพนักงานคนนั้น ๆ อย่างเคร่งครัด ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ฮิวแมนิก้า ร่วมมือกับแรบบิท แคช เพื่อนำเสนอสินเชื่อสวัสดิการ หรือ Welfare Loan ให้บริษัทที่เป็นลูกค้าของฮิวแมนิก้า ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลทั่วไป ซึ่งถือเป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่นายจ้างสามารถมอบให้ลูกจ้างนอกเหนือจากสวัสดิการด้านสุขภาพหรือการดูแลความเป็นอยู่ด้านอื่น ๆ ของพนักงานได้
“เราได้รับผลตอบรับที่ดีเนื่องจากขั้นตอนการสมัครนั้นง่ายและรวดเร็วมาก และตอบโจทย์คนที่ต้องการสภาพคล่องเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เราจำเป็นต้องขอความยินยอมจากบริษัทที่ต้องการเข้าร่วมโปรแกรมสินเชื่อสวัสดิการกับเรา รวมถึงพนักงานของบริษัทก่อนที่จะมีการใช้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อนำเสนอสิทธิประโยชน์ดังกล่าวให้กับพนักงานได้” สุนทร กล่าว
ด้านรัชนี กล่าวเสริมว่า แรบบิท แคช เพิ่งเริ่มทดลองการให้สินเชื่อกับพนักงานของฮิวแมนิก้าและพนักงานในเครือของบีทีเอสกรุ๊ปก่อน และมีแผนตั้งใจจะขยับขยายเปิดให้ลูกค้าทั่วไปใช้งานในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า
ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนหลักที่แรบบิท แคช นำมาใช้คือ เงินจากพันธมิตรและผู้ถือหุ้นเป็นหลัก ขณะที่รายได้ คือ ส่วนต่างดอกเบี้ย
โดย คาซึมาซะ โอชิมา กรรมการบริหารและประธานฝ่ายการเงิน บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจกับแรบบิท กรุ๊ปมาตั้งแต่ปี 2558 อิออนพร้อมให้การสนับสนุน แรบบิท แคช ด้วยการร่วมลงทุนในฐานะผู้ถือหุ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยอิออนจะนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในฐานะผู้นำในการให้บริการสินเชื่อรายย่อยในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียเพื่อสนับสนุนการเติบโต รวมถึงการให้แหล่งเงินทุนในต้นทุนที่ต่ำด้วยความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม AEON Financial Service ประเทศญี่ปุ่น และให้บริการด้านการดำเนินงานบางส่วนให้กับแรบบิท แคช
ขณะเดียวกัน เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องของตนเองที่จะทำให้มีระเบียบวินัยทางการเงินมากขึ้น รัชนี กล่าวว่า ทางแรบบิทแคชจะมีระบบเตือนและติดตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าพลาดหรือหลงลืมเวลากำหนดชำระหนี้
“เรามีการดำเนินการแบบ step by step ในการเตือนลูกค้า ขณะเดียวกัน ความต่างของเรา คือ การคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำแบบรายวัน สมมติกู้ไปหมื่นหนึ่ง จ่ายภายใน 3 วัน เราก็เสียดอกเบี้ย 3 วัน แล้วถ้าจำเป็นต้องใช้ก็มากู้ใหม่ แรบบิทอยากจะลองให้โอกาสดูก่อน แล้วก็มาดูว่าถ้าหนี้เสียเยอะมากจะปรับอย่างไรกันต่อไป เราเชื่อว่า อย่างน้อยการที่ช่วยให้คนเข้าถึงแหล่งทุน ทำให้มีสภาพคล่องมากขึ้น ช่วยให้มีความสามารถในการบริหารจัดการสภาพคล่องของตนเองแบบยืดหยุ่นได้ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ หรือตัดปัญหากู้เงินมาสำรองล่วงหน้าเผื่อไว้ต้องใช้แล้วต้องเสียดอกเบี้ยไปเรียบร้อยแต่ปรากฏว่าไม่จำเป็นต้องใช้แล้วในภายหลัง” รัชนี กล่าว
รัชนี อธิบายว่า ทุกคนเข้าใจและยอมรับว่าถ้ากู้แล้วต้องจ่าย ดังนั้น การมีระบบที่แสดงให้เห็นว่ากู้ได้ใช้คืนอย่างไรอย่างชัดเจนน่าจะช่วยให้คน ๆ หนึ่งต้องคิดวางแผนการใช้จ่ายของตนอย่างดี และระมัดระวังรอบคอบมากขึ้น และหวังให้โครงการที่แรบบิท แคช สร้างขึ้นมานี้ ช่วยทำให้คน ๆ หนึ่งมีระเบียบวินัยทางการเงินและการใช้จ่ายมากขึ้น
นอกจากนี้ แรบบิท แคช ยังมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนคนไทยให้ก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19
คาดการณ์ว่าจะปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าได้ไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 ล้านบาทในปีแรกและอีก และ 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2023
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือ และสร้างโอกาสให้กับธุรกิจรายย่อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า ที่ขาดแหล่งเงินทุนสนับสนุน รวมถึงผู้ที่รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ในการสมัครขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินทั่วไป
“เป้าหมายสูงสุดของการร่วมมือครั้งนี้ คือ ทำให้แรบบิท แคช เป็น Digital Lending ที่อยู่เคียงข้างคนไทยในทุกกลุ่ม เพราะโปรแกรมเราตั้งใจที่จะอยู่กับคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน” รัชนี กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามสตอรี่ดี ๆ จาก The Story Thailand ได้ตามช่องทางเหล่านี้
Instagram:
LINE TODAY: TheStoryThailand
#TheStoryThailand #เดอะสตอรี่ไทยแลนด์ #สตอรี่ดีๆ
โฆษณา