12 พ.ย. 2021 เวลา 11:18 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง...มนต์รักข้ามภพ
เขียน...CORDIA
หมวด...นิยายรักผู้ใหญ่
ตอนที่ 20
ทำโทษหนักหน่วง
เฮ้อ....
ทวีปนึกโทษตัวเองที่ทำอะไรไม่คิดให้รอบคอบมากกว่านี้ จึงถูกน้ำฝนใช้เป็นเครื่องมือให้ผัวเมียเขาทะเลาะกัน เขาต้องไปจัดการกับพยาบาลน้ำฝนให้รู้เรื่องเลย เกือบทำให้เขาหมดอนาคตแล้ว เพราะหมอธาดาเป็นหมอที่ดูแลความประพฤติและให้คะแนนการทำงานของเขา
งานเลี้ยงที่ห้องจัดเลี้ยงของโรงพยาบาลได้เริ่มขึ้นแล้ว ธาดาไม่ปล่อยให้ปรางคาดสายตา เขาอยู่ที่ไหนปรางจะต้องอยู่ที่นั่นด้วย การที่หมอธาดาพาปรางมางานเลี้ยงภายในด้วยกันวันนี้ทำให้เหมือนเป็นการประกาศเป็นนัยยะสำคัญว่าเขามีเจ้าของแล้ว เพื่อนพยาบาลของน้ำฝนต่างเกิดคำถามขึ้นมาในทันทีแล้วน้ำฝนเป็นอะไรกับคุณหมอธาดา เพราะพยาบาลน้ำฝนต่างเอาเรื่องของตนเองกับหมอธาดาไปคุยโม้ในกลุ่มเพื่อนพยาบาลด้วยกัน พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้วเธอไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน น้ำฝนปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียวมองคู่รักด้วยความอิจฉาริษยาที่ตรงนั้นมันควรจะเป็นเธอไม่ใช่เด็กร่านคนนั้น จังหวะที่ปรางเดินห่างจากหมอธาดาเพราะหิวน้ำ น้ำฝนสบโอกาสรีบเดินเข้าไปหาในทันที
"ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าหมอจะพาเด็กเลี้ยงอย่างเธอมางานเลี้ยงด้วย" ปรางหันไปมองต้นเสียง เธอไม่เข้าใจว่าเด็กเลี้ยงที่น้ำฝนหมายถึงคืออะไร แต่ก็ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ปรางจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายข่มได้เด็ดขาด
"เด็กเลี้ยงคืออะไรคงไม่รู้ แต่แหวนวงนี้คงทำให้พี่น้ำฝนเข้าใจอะไรได้มากขึ้นนะคะ" ปรางโชว์แหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้ายให้พยาบาลน้ำฝนจอมริษยาได้เห็น แววตาฉายชัดถึงความอิจฉาริษยาและโกรธที่ถูกเยาะเย้ยของน้ำฝน
ถุงกระดาษสีขาวที่เธอเห็นวันนั้นฉายชัดขึ้นมาในความคิด หมอธาดาซื้อแหวนให้ปรางงั้นเหรอ
"อย่าดีใจไปหน่อยเลย หมอซื้อของแบบนี้ให้กับผู้หญิงทุกคนไม่ใช่เฉพาะเธอคนเดียว" แม้จะโกรธมากแค่ไหนน้ำฝนยังพยายามจะเอาชนะปรางให้ได้
"งั้นหรือคะ แต่ก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่อยู่บ้านหลังเดียวกันกับพี่หมอ"
"แก อีกไม่นานหมอก็ต้องเบื่อแก"
"หึ ให้ถึงวันนั้นก่อนค่อยว่ากัน ขอตัวก่อนนะคะ พี่หมอคงจะหิวหนู เอ๊ย หิวน้ำแล้วค่ะ" ปรางยิ้มเยาะก่อนเดินจากไป ปล่อยให้น้ำฝนดิ้นพล่านที่ไม่สามารถทำอะไรปรางได้จนต้องออกมาสงบสติที่ข้างนอก
อารมณ์เริ่มสงบลงน้ำฝนจึงเดินกลับเข้ามาในงานเลี้ยงอีกครั้งกวาดสายตามองหาหมอธาดา จนเจอแต่เขานั่งอยู่กับศัตรูหัวใจของเธอ ในโต๊ะกลุ่มนั้นมีหมอนั่งอยู่หลายคนรวมถึงนักศึกษาแพทย์ทั้งสี่คนด้วย ปรางหันมามองทางนี้พอดีทำให้ทั้งคู่ประสานสายตากันต่างไม่มีใครยอมใคร น้ำฝนรำคาญและเกลียดชังที่ปรางได้ใกล้ชิดหมอธาดาไม่ห่างตัวเลย เธอคิดว่าจะใช้ให้ทวีปไปตีสนิทกับปราง แต่ทวีปก็ไม่ยอมคุยกับเธอเลยไม่เข้าใจว่าทำไมหมอหนุ่มถึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเจอเธอ
น้ำฝนมองโต๊ะที่ธาดานั่งอยู่อีกครั้งแต่ปรากฏว่าครั้งนี้เหลือเพียงหมอธาดากับปรางสองคนเท่านั้น ปรางเหมือนแกล้งยั่วโมโหน้ำฝนเอาศีรษะซบอิงอกหมอธาดา และหมอเองยังโอบกอดไว้ด้วยแทบจะเกยตักกันอยู่แล้ว เธอเกิดความหมั่นไส้ที่นายแพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลกระทำอนาจารไม่แคร์สายตาคนอื่นเลย เธอคิดจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้
"น้ำฝน มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มองหาตั้งนาน" อิ๋วเพื่อนพยาบาลของน้ำฝนเดินเข้ามาทัก
"เปล่า" เธอปฏิเสธเพื่อน พร้อมปล่อยมือที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปไว้ที่เดิม
"ทำใจเถอะแก เขามีตัวจริงแล้วแกเองก็มีไอ้พี่กอล์ฟแล้วนี่ ไป ไปนั่งโต๊ะเรากัน" อิ๋วดูออกกว่าเพื่อนคิดอะไรอยู่จึงพูดปลอบใจเพื่อนพร้อมจูงแขนน้ำฝนให้ไปนั่งที่โต๊ะ
เพราะภาพบาดตาบาดใจทำให้เธอไม่มีอารมณ์ร่วมสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้เลย จึงออกมาเดินเล่นข้างนอกและเข้าห้องน้ำ รู้สึกแค้นปรางที่เข้ามาในชีวิตของหมอธาดาและยังมาแย่งหมอธาดาไปจากเธออีก ทั้งที่เธอกับหมอทุกคนในโรงพยาบาลต่างรู้เป็นการภายในกันดี ว่าถึงขั้นไหนกันแล้ว เพราะปรางทำให้หมอธาดาเปลี่ยนไป เธอเลือกหมอเพราะอยากให้หมอพาเธอออกไปจากชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่มันคงเป็นแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว
"ไวน์หน่อยไหมครับ" แก้วไวน์ที่มีน้ำสีแดงเข้มอยู่ครึ่งแก้วถูกยื่นมาตรงหน้าเธอ น้ำฝนเงยหน้ามองปรากฏว่าเป็นหมอสไปรท์
"ขอบคุณ"
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ งานเลี้ยงไม่สนุกเหรอ" สไปรท์หวังดีเอ่ยถามขึ้นมา เขาสังเกตว่าน้ำฝนเดินออกมาข้างนอกนานมากจึงเดินออกมาดู
"ก็สนุกดี แต่พี่ไม่สนุก" เธอตอบไปตามความจริงแต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะงงกับคำตอบของเธอไหม
"แล้วแบบไหนเหรอครับที่พี่น้ำฝนจะสนุก เผื่อผมอาจจะช่วยได้" เขาถามกลับอย่างมีเลศนัย สไปรท์ยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อเห็นว่าน้ำฝนดูจะเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง
////ปิดเนื้อหา////
น้ำฝนกับสไปรท์หายไปจากงานเลี้ยงร่วมสองชั่วโมงจนเพื่อน ๆ และคนอื่นถามหากันด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะเพื่อนพยาบาลของน้ำฝนที่กลัวว่าน้ำฝนจะช้ำใจผิดหวังในความรักแล้วจะคิดสั้น ส่วนเพื่อนของสไปรท์ต่างรู้กันดีว่าเขาหายไปไหนมา น้ำฝนปลีกตัวออกมาเข้าห้องน้ำเผอิญเจอเข้ากับปรางที่มาเข้าห้องน้ำเหมือนกันจึงทำทีเป็นยืนล้างมืออยู่ข้าง ๆ
"แต่งตัวแบบนี้ก็ดูเป็นผู้เป็นคนเหมือนกันนะ เป็นของเล่นที่เขายังไม่เบื่อก็จะดูดีเป็นธรรมดาถึงเวลาที่เขาเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่ระวังจะน้ำตาเช็ดหัวเข่านะ" ปรางเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อเจอน้ำฝนพูดจาถากถางเหยียดหยาม ผู้หญิงคนนี้คงจะรักหมอธาดามากเลยสินะถึงไม่ยอมเลิกตามราวีเธอ
"ขอบคุณนะคะที่เตือน ถึงขั้นพาไปรู้จักครอบครัวถ้าจะทิ้งกันก็ไม่เสียดายหรอกค่ะ เพราะครั้งหนึ่งเคยได้เป็นตัวจริงของเขาไม่ใช่ของเล่นเหมือนพี่น้ำฝน เอ๊ย หมายถึงผู้หญิงที่ผ่านมาของพี่หมอ"
"แล้วฉันจะรอสมน้ำหน้าแก ผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนกับอีแค่ซื้อแหวนเพชรให้ อย่าหลงยกหางตัวเองไปหน่อยเลยสักวันเขาก็ต้องเลือกผู้หญิงที่คู่ควรมาเป็นสะใภ้ของแม่เขา ไม่ใช่เด็กอย่างแก" คำพูดของน้ำฝนทำปรางเจ็บจี๊ดในหัวใจ เธอเป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แม้ว่าในที่ที่เธอจากมาจะเป็นถึงลูกสาวของท่านพระยาเกรียงไกร แต่ใครเล่าจะเชื่อว่าเธอข้ามภพข้ามชาติมายังอนาคตได้
ปรางยอมเงียบสงบปากสงบคำไม่ต่อกรกับนางพยาบาลสาว ปล่อยให้น้ำฝนพูดจาแทงใจดำเธอต่อไปจนกว่าจะพอใจแล้วเดินจากไปเอง ทั้งคู่แยกกันแล้ว น้ำฝนไม่มีอารมณ์จะเดินเข้าไปในงานเลี้ยงแล้วจึงปลีกตัวออกมายังห้องพักที่จัดไว้สำหรับพยาบาลที่ต้องการพักผ่อน เธอเดินผ่านห้องห้องหนึ่งแล้วเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา น้ำฝนเผยรอยยิ้มร้ายกาจออกมาทันที
"ชื่อปรางหรือเปล่าคะ" นางพยาบาลคนหนึ่งเดินมาสะกิดแขนของปรางที่ยืนหันหลังให้ ปรางหันมามองด้วยความสงสัย
"ใช่ค่ะ" นางพยาบาลคนนั้นหันมองซ้ายทีขวาทีเหมือนกำลังมองหาใครสักคน
"หมอธาดาให้ไปหาที่ห้องค่ะ ตามมาค่ะ"
"เอ๊ะ!" นางพยาบาลคนนั้นไม่ปล่อยให้ปรางซักถามอะไร ฉุดข้อมือเธอให้เดินตามไปยังห้องห้องหนึ่ง ปรางสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรเพราะเธอเองก็มองหาพี่หมอเหมือนกัน ตั้งแต่เธอขอเข้าห้องน้ำพอกลับมาในงานก็ไม่เห็นเขาแล้ว
"ห้องนี้หรือคะ ทำไมเย็นจัง" อุณหภูมิในห้องนี้ติดลบ เพราะมันคือห้องดับจิตที่มีแต่ร่างกายที่ไร้ลมหายใจนอนเรียงรายนับสิบอยู่ในห้องนี้ บางศพก็นอนอยู่ในถุงนอนซิบล็อกบ้างก็มีเพียงผ้าห่มบาง ๆ คลุมกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ปรางรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกเธอรับรู้ได้ทันทีว่าที่นอนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่คนป่วยปกติแน่นอน กำลังจะหันไปถามนางพยาบาลคนที่พาเธอมาหาหมอธาดาที่นี่ แต่ไม่ทันเสียแล้วนางพยาบาลคนนั้นเดินออกจากห้องพร้อมล็อกประตูจากด้านนอก
"เดี๋ยวค่ะ! พี่! อย่าเพิ่งไป!" เสียงตะโกนของปรางไร้ความหมายเพราะเรียกอย่างไรนางพยาบาลคนนั้นก็ไม่หันกลับมาหาเธอเลย ปรางจึงหันกลับไปมองในห้องอีกครั้ง ห้องทั้งห้องเปิดไฟเพียงสองดวงเท่านั้นทำให้ภายในห้องแห่งนี้ที่ทั้งเย็นเฉียบทั้งสลัวแลดูน่ากลัว
"พี่หมอ พี่หมออยู่ในนี้หรือเปล่าคะ" ปรางส่งเสียงเรียกหาผู้เป็นสามีอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ หัวใจเธอเต้นแรงระส่ำมือบางเย็นเฉียบแต่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ผู้ป่วยที่นอนเรียงรายไม่ไหวติงยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่ใช่คนป่วยอย่างแน่นอน ปรางไม่กล้าที่จะเดินออกห่างประตูเพราะเธอกลัว แผ่นหลังชิดกับประตูมือบางข้างหนึ่งจับที่กลอนประตูไว้แน่น
ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ กลับมา ปรางรู้ตัวว่าตนเองถูกหลอกเข้าให้แล้ว นางพยาบาลคนนั้นไม่รู้จักเธอแต่ทำไมถึงกล้ามาแกล้งเธอแบบนี้หรือจะเป็นฝีมือของน้ำฝน พอคิดมาถึงตรงนี้ทำให้ปรางแค้นที่ถูกน้ำฝนแกล้งแรงแบบนี้ ใจหนึ่งก็กลัวใจหนึ่งก็โกรธ เธอหลับตานิ่งนึกถึงคุณพระคุณเจ้าที่นับถือเพื่อดับความคิดจินตนาการถึงความกลัวของตนเอง
เคร้ง!!
"ว้าย!! ไม่นะ ข้ากลัวแล้ว ฮือ" จู่ ๆ ก็เหมือนมีอะไรตกลงมากระทบกับพื้นห้องเสียงดังลั่น ปรางตกใจกลัวสุดขีดทรุดนั่งกับพื้นมือบางยกขึ้นมาปิดหน้าและหู
"ช่วยด้วย! ได้โปรดช่วยข้าด้วย พี่หมอ! ช่วยด้วย!"สองมือกำแน่นทุบประตูห้องดับจิตเสียงดังพอ ๆ กับเสียงร้องตะโกนให้คนที่ผ่านมาได้ยิน
สวรรค์เมตตามีคนเดินผ่านมาทางนี้พอดีและได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเธอแล้ว นั่นคือ ทวีป เขาดูตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นปรางถูกขังอยู่ในห้องดับจิตเธอร้องไห้จนใบหน้าสวยเลอะไปด้วยคราบน้ำตา ทวีปพยายามเปิดประตูแต่ไม่สำเร็จเขาจึงบอกให้ปรางรออยู่ตรงนี้เขาจะไปเอากุญแจมาเปิดให้
"รอก่อนนะปราง เดี๋ยวไปเอากุญแจมาเปิดให้ ใจเย็นนะ เราอยู่นี่แล้วไม่ต้องกลัวนะ"
"หมอทวีปได้โปรดช่วยปรางด้วย"
หมอทวีปหายไปไม่นานเขากลับมาพร้อมพวงกุญแจในมือพยายามหาลูกกุญแจที่ใช่เพื่อเปิดประตูช่วยปรางออกมา แม้จะสงสัยว่าทำไมปรางถึงมาอยู่ในห้องนี้ได้ พอประตูเปิดออกมาได้ปรางโผเข้ากอดหมอทวีปทันทีตัวของเธอสั่นเทาเหมือนลูกนกตกน้ำร่างกายนุ่มนิ่มผิวเนียนละเอียดนั่นเย็นเฉียบเพราะอยู่ในห้องอุณหภูมิต่ำเป็นเวลานานแถมเธอยังใส่ชุดที่เนื้อบางเบา เขากอดปลอบเธอเพียงครู่พออาการตื่นกลัวเริ่มคลายลงจึงพอปรางไปที่ห้องพัก
"ไม่ต้องกลัวแล้วนะ ว่าแต่ไปอยู่ในห้องนั่นได้ยังไงเหรอ" หมอทวีปถามขณะยื่นแก้วที่มีน้ำอุ่นให้ปรางดื่ม
"มีพยาบาลเดินมาบอกเราว่าพี่หมอให้ไปหา แล้วเขาก็ขังเราไว้ในห้องที่มีแต่ศพ" พอพูดถึงศพที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงนับสิบในห้องนั้นก็ทำให้เธอขนลุกชูชันขึ้นมาทันที
"พี่น้ำฝนเหรอ"
"ไม่ใช่ แต่คิดว่าคงเป็นเขาที่ทำเรื่องนี้"
นางพยาบาลคนนั้นเธอไม่รู้จักและไม่เคยพูดคุยด้วยเลยสักครั้ง คงไม่คิดแกล้งเธอได้แบบนี้แน่ แต่ถ้าจะบอกว่านางพยาบาลคนนี้รู้จักกับพยาบาลน้ำฝนและน้ำฝนเป็นคนสั่งให้มาหลอกเธอ แบบนี้มีความเป็นไปได้มากกว่า ปรางโกรธที่ถูกกลั่นแกล้งแล้วเธอยังหลงเชื่อสนิทใจทั้งที่มันเป็นไปไม่ได้ที่หมอธาดาจะให้คนอื่นมาตามเธอไปหาแบบนี้
"ยังหนาวอยู่เหรอ มือเย็นเฉียบเลย" ปรางตกใจในสิ่งที่หมอทวีปกำลังทำอยู่เขานั่งคุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้า แล้วยกมือเรียวขึ้นมากอบกุมมือบางของปรางที่ยังคงถือแก้วน้ำร้อนอยู่ เขาแย่งแก้วจากมือเธอไปวางที่โต๊ะข้าง ๆ ก่อนจะกลับมากุมมือเธอไว้เหมือนเดิม
"แบบนี้ดีขึ้นไหม" เสียงทุ้มที่ฟังแล้วอบอุ่นหัวใจทำให้ปรางเผลอพยักหน้ารับเบา ๆ เธอยิ้มขอบคุณเขาหากไม่ได้เขาที่เข้าไปช่วยเธอคงช็อกตายไปแล้ว ทวีปเป่าลมร้อนออกจากปากตนเองไปที่มือเย็นเฉียบของปรางเพื่อคลายความหนาวสั่น ปรางยิ้มเอียงอายที่ถูกกระทำอย่างอ่อนโยนกับผู้ชายที่ไม่สนิท หากเปลี่ยนเป็นหมอธาดาคงจะรู้สึกดีมากกว่านี้
ปัง!!
เสียงประตูดังลั่นจนร่างบางสะดุ้งสุดตัวมือบางถูกดึงออกจากมือของเขาอย่างฉับพลันเพราะคนที่เปิดประตูเข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหน
"พี่หมอ/หมอธาดา"
ดวงตาแข็งกร้าวของธาดาบ่งบอกว่าอารมณ์ของเขาเดือดจัดพร้อมปะทะ ธาดาไม่พูดอะไรเพราะสิ่งที่เขาเห็นมันอธิบายได้ทุกอย่างแล้ว จึงปรี่เข้าไปหาทวีปที่กำลังลุกขึ้นยืน แต่ไม่ทัน
โครม!
แรงถีบของธาดาบวกกับอารมณ์โกรธจัดทำให้ร่างของทวีปลอยไปปะทะกับโต๊ะทำงานที่อยู่ห่างออกไปสองเมตรแล้วโต๊ะก็ไถลออกไปอีก ปรางอึ้งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอตั้งสติไม่ทันกว่าจะเรียกสติของตนเองได้ทวีปก็ถูกรัวหมัดใส่ที่ใบหน้าขาวไปหลายหมัดแล้ว หมอผู้ชายอีกสามสี่คนวิ่งกรูเข้าไปดึงร่างของหมอธาดาออกมาอย่างทุลักทุเล
"ปล่อยกู! กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าปรางเป็นเมียกู มึงก็ยังเสือกมายุ่ง อย่ายุ่งกับเมียกู!" ธาดาสติขาดผึง เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์และสติสัมปชัญญะได้อีกต่อไปเมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นภาพบาดตาบาดใจตรงหน้า ในคราแรกเขามองเห็นปรางกำลังนั่งอยู่บนเตียงโดยมีผ้าห่มคลุมกายเอาไว้แต่มือของเธอเหมือนมีมากกว่าสองมือ แต่พอตั้งใจมองจึงรู้ว่าปรางไม่ได้อยู่ในห้องนี้คนเดียว
"พี่หมอคะ มันไม่ใช่แบบนั้นเลยนะคะ หมอทวีปเขาช่วยหนูไว้" ปรางพยายามอธิบายให้เขาฟังแต่ดูท่าธาดาจะหูดับไปชั่วขณะเพราะเขาไม่สนใจสิ่งที่เธอพยายามจะบอกเขาเลย ธาดาตรงปรี่เข้ามากระชากข้อมือบางเข้าหาตัวเองดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองดวงหน้าของเมียรักด้วยความชิงชังผิดหวัง
"ไม่ต้องพูด! กลับบ้าน!" เขากึ่งลากกึ่งจูงปรางไปที่รถยนต์ของตนเองที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลด้วยความโกรธขึ้งขัง หัวใจของเขาบัดนี้มันแตกเป็นชิ้นจนละเอียดป่นปี้เมื่อเข้าไปเห็นภาพที่ทำให้ปวดใจมือบางที่แสนหวงแหนถูกผู้ชายหน้าละอ่อนกุมไว้แล้วสายตาของปรางที่มองมันด้วยความเขินอายไหนจะรอยยิ้มน้อย ๆ ที่ปรางยิ้มให้มันอีก เขาไม่กระทืบมันให้ตายคาตีนก็บุญหัวมันเท่าไรแล้ว
"โอ๊ย! เจ็บนะ" เธอเจ็บข้อมือที่ถูกบีบอย่างแรงแล้วยังถูกลากถูไถจนขาพันกันเธอใส่รองเท้าส้นสูงที่ไม่คุ้นชินเอาเสียเลยมันเกือบพาเธอล้มหน้าคะมำมาหลายรอบแล้วในยามที่เดินปกติแต่นี่ถูกแรงกระชากลากจูงมาตลอดทางกว่าจะถึงรถยนต์ใช้เวลาหลายนาทีทำได้แต่ประคองขาและเท้าที่เจ็บหนักมาที่รถไม่ให้ล้ม เมื่อมาถึงรถยนต์ธาดาใช้แรงกระชากประตูรถอย่างแรงแล้วเหวี่ยงร่างบางเข้าไปในรถ ไม่สนใจว่าศีรษะเธอจะโขกหรือร่างจะกระแทกกับอะไรตรงไหนหรือไม่
ภายในรถเงียบปรางเองไม่กล้าปริปากพูดจากลัวว่าหากเธอเปล่งเสียงที่ไม่เข้าหูเขาจะยิ่งทำให้ธาดาโกรธขึ้นมาอีกจึงสงบปากสงบคำมาตลอดทาง ระหว่างทางขับรถเขาพยายามระงับอารมณ์โกรธของตนเองแต่ก็ทำไม่ได้ในเมื่อภาพจำยังลอยวนเวียนกวนใจไม่จางหาย
เมื่อมาถึงบ้านไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ๆ ร่างบางของปรางถูกกระชากออกมาจากตัวรถแล้วถูกยกขึ้นพาดบ่า ร่างสูงใหญ่ของหมอธาดาในยามปกติเธอรู้สึกอบอุ่นสบายใจแต่ในยามนี้ช่างน่ากลัวจนเธอไม่กล้าเข้าใกล้ ปรางร้องไห้มาตลอดทางแม้จะพยายามกลั้นเสียงสะอื้นแต่ก็เล็ดลอดออกมาให้ได้ยินอยู่ดี ร่างบางถูกเหวี่ยงเป็นรอบที่สองแต่เป็นบนเตียงนุ่มแต่ก็ทำให้เธอจุกไม่น้อยเลย
"พี่หมอฟะ ฟังหนูก่อน ได้โปรดมันไม่ใช่อย่างที่พี่เห็นเลย" เธอพยายามอธิบายรัวเร็วเสียงสั่นเครือเพราะกลัวว่าจะไม่ได้พูด
"แล้วมันยังไง! หายไปด้วยกันนานสองนานหรือมันมากกว่าที่เห็น ห๊ะ!"
"มะ ไม่ใช่"
"หึ อยากมีผัวเด็กมากใช่ไหม แค่ผมคนเดียวมันทำให้คุณสุขไม่พอใช่ไหม" ปรางกลัวจนพูดไม่ออก ธาดาในเวลานี้เหมือนอสุรกาย เขาย่างสามขุมเข้ามาส่วนเธอถดกายหนีชิดหัวเตียงแต่ขาเรียวถูกกระชากกลับมาอยู่ในท่านอนหงายแล้วมีร่างสูงใหญ่คร่อมทับข้อมือทั้งสองข้างถูกรวบไว้บนศีรษะเธอส่ายหน้าจนผมยาวดกดำสะบัดไปมาบนหมอนนุ่ม
"ไม่ หนูกลัว ฮึก ม่าย!!"
การกระทำต่ำช้าเธอคิดว่าเกิดมาชาตินี้จะไม่มีวันพบเจอแต่มันกำลังเกิดขึ้นกับเธอ โดยผู้ชายที่เธอรักทำมันปากร้อนชื้นของเขาดูดขบเม้มจนเกิดรอยแดงไปตามซอกคอไหล่เนินอกลามเลียลงมายังเต้างามทั้งสองข้างด้วยอารมณ์ดิบเถื่อนเยี่ยงสัตว์ มันเจ็บมากกว่าจะรู้สึกดี น้ำตาแห่งความเสียใจน้อยใจพังทลายไหลรินนองหน้าจนหมอนนุ่มเปียกปอนเป็นวงกว้าง มือและนิ้วของเขาบีบขยำทั่วตัวเธอเจ็บจนนิ่วหน้าแต่เขาก็หากสนใจไม่
โฆษณา