มีการศึกษายืนยันแล้วว่าการใช้ยา alendronate ที่รักษาโรคกระดูกพรุนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ถึง 36% การศึกษานี้จัดทำโดย Rikke Viggers และคณะจาก Aalborg University Hospital ประเทศเดนมาร์กเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ของการใช้ alendronate กับความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวานในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ภายในประเทศ จากนั้นได้รับการเผยแพร่ในงานประชุม European Association for the Study of Diabetes ครั้งที่ 57 (EASD จัดขึ้นวันที่ 27 กันยายนถึง 1 ตุลาคม ค.ศ. 2021 จัดขึ้นผ่านระบบออนไลน์)
ความเสี่ยงลดลง 53% เมื่อใช้ต่อเนื่องนาน 8 ปี
เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานกระดูกจะหักง่าย บ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ของสภาวะสมดุลของน้ำตาลในเลือดกับ bone metabolism จากการศึกษาล่าสุดในสัตว์ยังชี้ให้เห็นว่าการปรับเปลี่ยนเซลล์กระดูกด้วย osteoporosis drug ส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อีกด้านหนึ่งการใช้ยาในกลุ่ม bisphosphonate เช่น alendronate ซึ่งเป็นยาตัวเลือกแรกสำหรับโรคกระดูกพรุน จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกหัก
|------------------------------------------|
📌เกาะติดข่าวสาร และข้อมูล เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ได้ง่าย ๆ เพียงดาวน์โหลด! https://bit.ly/3AdzTeY 📲
The all in 1 application for Healthcare professionals.
📰 Medical News, Journals & research summary
👨🏽🎓 CPE/CME/CMTE/CPD
🎥 Medical Talk VDO
📲 Download for free now!
💛ทุกดาวน์โหลดคือกำลังใจในการทำงาน ขอบคุณค่ะ💛
|------------------------------------------|
Viggers และคณะคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 654,352 คน (อายุเฉลี่ย 66.7 ปี เป็นเพศชาย 55.1%) โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยที่วินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อายุ 50 ปีขึ้นไปภายในประเทศเดนมาร์กตั้งแต่ ค.ศ. 2008 - 2018 จำนวน 163,588 คน และกลุ่มควบคุมที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน และจับคู่เพศ/อายุกับกลุ่มผู้ป่วยจำนวน 49,764 คน จากนั้นตรวจสอบความสัมพันธ์ของการใช้ alendronate กับความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยใช้ข้อมูลวินิจฉัยก่อนออกจากโรงพยาบาล National Danish Patient Registry และข้อมูลสั่งจ่ายยาของ Health Service Prescription Registry
กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีสัดส่วนการสูบบุหรี่หนัก ดื่มแอลกอฮอล์หนัก เป็นโรคอ้วน ตับอ่อนอักเสบ hyperthyroidism, hypothyroidism หรือใช้ glucocorticoid เมื่อคำนวนโดย Charlson Comorbidity Index (CCI) แล้วมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (P all < 0.01) นอกจากนี้สัดส่วนของรายได้และผู้ที่แต่งงานแล้วในกลุ่มโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (P all < 0.01)
เมื่อปรับตัวแปรกวนที่ข้างต้นโดยใช้ logistic regression analysis แบบมีเงื่อนไข พบว่าคนที่ได้รับ alendronate เสี่ยงจะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ต่ำกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ถึง 36% (adjusted odds ratio (aOR) 0.64, 95%CI 0.62 - 0.66) และคนที่ใช้ alendronate มานานกว่า 8 ปี ความเสี่ยงจะลดลงถึง 53% (0.47, 0.40 - 0.56)
ความสามารถในการยับยั้งอาการของโรคขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ
เมื่อตรวจสอบตามระยะเวลาที่ใช้ alendronate โดยแบ่งออกเป็นไม่เกิน 6 เดือน, 0.5 - 1.9 ปี, 2 - 3.9 ปี, 4 - 5.9 ปี, 6 - 7.9 ปี และ 8 ปีขึ้นไป จากการเปรียบเทียบกับผลลัพธ์ในคนที่ใช้ไม่เกิน 6 เดือน พบว่าความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ลดลงตามระยะเวลาที่ใช้ยา
- ค่า aOR 0.5 - 1.9 ปี เท่ากับ 0.94, 95%CI 0.87 - 1.02
- ค่า aOR 2 - 3.9 ปี เท่ากับ 0.87, 95%CI 0.80 - 0.95
- ค่า aOR 4 - 5.9 ปี เท่ากับ 0.79, 95%CI 0.72 - 0.88
- ค่า aOR 6 - 7.9 ปี เท่ากับ 0.89, 95%CI 0.79 - 1.00
- ค่า aOR 8 ปีขึ้นไป เท่ากับ 0.84, 95%CI 0.74 - 0.95
หมายความว่าตัวยาให้ประสิทธิภาพตามปริมาณที่ได้รับ (P trend = 0.027)
อัตราการครอบครองยา (medication possession ratio; MPR) เมื่อแยกออกเป็น น้อยกว่า 0.5, 0.5 - 0.8 และมากกว่า 0.8 ค่า aOR เมื่อเทียบกับ MPR ได้แก่
- น้อยกว่า 0.5 เท่ากับ 0.93 (95%CI 0.82 - 1.05)
- 0.5 - 0.8 เท่ากับ 0.90 (0.82 - 1.05)
- มากกว่า 0.8 เท่ากับ 0.90 (0.80 - 1.00)
อัตราข้างต้นแสดงให้เห็นว่ายิ่งทำตาม medication compliance ได้ดีมากเท่าใด ความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ก็จะยิ่งลดลง
จากผลลัพธ์ดังกล่าว Viggers สรุปว่า "จากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการใช้ alendronate มีผลป้องกันการเริ่มเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ได้รับ และอาจจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อปฏิบัติตาม medication compliance ได้ดีขึ้น"
นอกจากนี้ยังระบุถึงอนาคตไว้ว่า "จากการศึกษา ยังไม่เข้าใจแน่ชัดถึงกลไกการป้องกันดังกล่าว สมมติฐานหนึ่งคือ alendronate ช่วยลดการอักเสบและ oxidative stress ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะดื้อต่ออินซูลิน (insulin resistance) ในอนาคตพวกเราต้องการศึกษาความสัมพันธ์ของ alendronate กับ glucose metabolism ในด้านความไวต่ออินซูลิน (insulin sensitivity) bone index และการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มคนสุขภาพดี ผู้ป่วยภาวะก่อนเป็นเบาหวาน และผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องพิจารณาว่า alendronate เป็นวิธีรักษาที่ดีที่สุดสำหรับโรคกระดูกพรุนในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 หรือไม่"
ดูข่าวเเละบทความทางการเเพทย์ทั้งหมดที่เรามี ฟรี! ได้ที่ >> https://bit.ly/3AdzTeY <<📲
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
