3 พ.ย. 2021 เวลา 12:07 • ปรัชญา
7 กลยุทธ์​ในการบริหารคนแบบโจโฉ
หากจะกล่าวถึงหลักการบริหารคนของผู้นำในสามก๊ก โจโฉถือว่าเป็นคนที่มีศาสตร์​และ​ศิลป์​
ในการบริหารคนที่ยอดเยี่ยมเป็นลำดับต้น ๆ
ของสามก๊ก
ความหมายของคำว่า ''​การบริหาร''​ แบบง่ายๆ คือ
การใช้คนให้เหมาะสมกับงาน เพราะการบริหารคือการมอบหมายหน้าที่ให้คนอื่นทำงานแทนตน
ผู้บริหารไม่จำเป็นต้องทำทุกสิ่งทุกอย่าง​ด้วยตัวเอง
แต่เป็นการใช้ศาสตร์​และ​ศิลป์​ในการทำให้
ลูกน้อง ทำงานสำเร็จตามเป้าหมายที่วางเเผนกันเอาไว้
และการจะเป็นผู้บริหารที่ดีได้นั้น ตัวผู้บริหารเองจะต้องทำให้ลูกน้องเกิด (TRUST)​ หรือความเชื่อใจให้ได้ก่อน
เพราะถ้าลูกน้องเกิดขาดความไว้เนื้อเชื่อใจ
ในตัวผู้บริหาร ก็จะเกิดการเสียสมดุลในการปกครอง เเละทำให้เป้าหมายที่วางแผนเอาไว้นั้นล้มเหลวเอาได้
.
''​เพราะถ้าบริหารคนไม่ได้ ก็บริหารงานไม่สำเร็จ''
.
แล้วอะไรคือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้โจโฉพาวุยก๊กขึ้นเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ ?
วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 7 กลยุทธ์​ที่โจโฉ
ใช้ในการบริหารคน
เพื่อให้ทุกท่านสามารถนำเอาไปพลิกแพลง
และปรับใช้กันได้ครับ
.
.
- กลยุทธ์​ที่ 1 โจโฉรู้จักให้โอกาสคน
ในสายตาของคนอื่นอาจจะมองว่าโจโฉนั้นเป็นกังฉินครองเมือง เป็นทรราช เป็นคนโหดเหี้ยม
จนได้รับฉายามาหลากหลายมากมาย
แต่ในสายตาของลูกน้องโจโฉคือผู้นำที่แท้จริง
เพราะหลักการบริหารคนของโจโฉนั้นแยบยลและเรียบง่าย
โจโฉไม่สนวิธีการไม่ว่าคุณจะเป็นคนดีหรือคนเลวสูงต่ำหรือดำขาวแค่ไหนขอให้ทำงานให้สำเร็จเป็นอันพอ ถ้าทำสำเร็จก็พร้อมตบรางวัลให้อย่างงาม ซึ่งตรงกับวลีที่เราเคยได้ยินกันมาคือ
1
''​จะแมวขาวหรือแมวดำไม่สำคัญ ขอเพียงจับหนูได้ก็ถือว่าเป็นแมวที่ดี''​
ด้วยแนวคิดแบบนี้จึงไม่น่าแปลกใจทำไมแคว้น
วุยก๊ก ถึงมีแต่คนเก่งๆหลายคนมาสวามิ​ภักดิ์ต่อโจโฉ
- กลยุทธ์​ที่ 2 โจโฉเป็นคนใจกว้าง
''​ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร''
เมื่อครั้งที่เตียวสิ้วยอมสวามิภักดิ์​และให้โจโฉยกเข้ามาในเมืองได้แล้ว โจโฉก็เกิดรู้สึกเหงาใจอยากได้นางบำเรอมาเทคแคร์​ให้ตัวเองสักหน่อย
เผอิญดันไปพบกับสาวรูปงามคนหนึ่งเข้า​ก็เกิดอาการถูกอกถูกใจจึงได้ถามคนใช้ว่าแม่นางผู้นี้ชื่อแซ่อะไร ?
คนใช้จึงบอกว่าแม่นางคนนี้ชื่อนาง เจ๋าซือ เป็นภรรยาม่ายของเตียวเจและยังเป็นอาสะใภ้ของ
เตียวสิ้ว
แต่โจโฉก็ไม่สนใจ... ค่ำคืนนั้นก็ได้ทำการเผด็จ​ศึกกับนางเจ๋าซืออย่างสมใจอยาก...
เมื่อเตียวสิ้วรู้เรื่องก็โกรธโจโฉเป็นอย่างมาก
จึงวางแผนกับกาเซี่ยง ส่งทหารไปลอบฆ่าโจโฉ
อาศัยจังหวะที่โจโฉกำลังเมามันกับแม่มายคนงาม
ทัพของเตียวสิ้วก็ถล่มคนของโจโฉยับเยินจนทำให้ลูกชายคนโตอย่าง โจงั่ง, โจอันบิ๋น ที่เป็นหลานชายและองครักษ์​อย่าง เตียนอุย ล้วนตายทั้งสิ้นและสร้างความแค้นใจให้กับโจโฉเป็นอย่างมาก
ภายหลังต่อมาโจโฉกับอ้วนเสี้ยวรบกัน ทั้งสองฝ่ายจึงต่างส่งคนไปเจรจาเกลี้ยกล่อมเตียวสิ้วให้มาอยู่ด้วย เพื่อไม่ให้มีศัตรูเพิ่ม แต่เตียวสิ้วก็ยังระแวงอยู่เพราะเคยสร้างความคับแค้นใจให้กับ
โจโฉ
ขณะที่เตียวสิ้วยังลังเลอยู่ กาเซี่ยงก็เดินเข้ามาฉีกหนังสือของทางฝ่ายอ้วนเสี้ยวและไล่ทูตที่มาส่งสารกลับไป และโน้มน้าวใจให้เตียวสิ้วไปเข้ากับโจโฉย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
และในภายหลังเตียวสิ้วก็ตัดสินใจไปเข้ากับโจโฉ
และได้รับการแต่งตั้งเป็นนายพลส่วนทางกาเซี่ยงนั้นได้เป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของโจโฉ
เห็นกันไหมครับถึงแม้ว่าเตียวสิ้วจะเคยเป็นศัตรู
คู่อาฆาต​กันมาก่อน แต่โจโฉรู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวมได้เป็นอย่างดี
ให้ความสำคัญกับการรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งมากกว่าความแค้นส่วนตัว
เพราะใจกว้างจึงรวบรวมคนเก่งเข้ามาทำงานได้มากมาย เพราะใจกว้างจึงทำให้ผู้คนใต้บังคับบัญชาทำงานได้อย่างเต็มความ​สามารถ
''​อยู่ที่ไหนไม่แคบ ถ้าอยู่อย่างคนใจกว้าง
อยู่ที่ไหนก็ไม่กว้าง ถ้าอยู่อย่างคนใจแคบ''
ดังนั้นแล้วมาเป็นคนใจกว้างกันดีกว่าครับ...
- กลยุทธ์​ที่ 3 โจโฉให้ความสำคัญกับ​ผู้คน
หากจะกล่าวว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้โจโฉสร้างแคว้นเว่ยให้เป็นอาณาจักรที่​ยิ่งใหญ่
และน่าเกรงขามที่สุด ?
สิ่งนั้นไม่ใช่อื่นใด แต่เป็น ''​คน''​ ครับ
''​ฟางแค่เส้นเดียวดึงทีเดียวมันก็ขาด แต่หากนำมามัดรวมกันหลายๆเส้น จะดึงให้ขาดทีเดียวก็คงมิง่าย''​
เฉกเช่นเดียวกันกับตัวของโจโฉเองจะไม่มีทาง
ประสบความสําเร็จ​สร้างแคว้นเว่ยให้ยิ่งใหญ่
ได้เลย หากเขาไม่คอยแสวงหาคนเก่งมีฝีมือมาช่วยงาน
''​เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ยิ่งใหญ่ได้นั้น ล้วนไม่ได้มา จากคนๆเดียว หากแต่เป็นการร่วมแรง​ร่วมใจกันมากกว่า''
ไม่ว่าจะเป็น ซุนฮก กุยแก กาเซี่ยง เทียหยก
สุมาอี้ แฮหัวเอี๋ยน แฮหัวตุ้น โจหยิน เคาทู เตียนอุย ลฯล ล้วนเป็นบุคคลสำคัญ​ที่โจโฉได้มาช่วยทำการใหญ่ทั้งสิ้น และอีกหนึ่งคนที่แม้โจโฉให้ความสำคัญอย่างมาก ไม่แพ้ใครอื่น คือ กวนอู
ถึงแม้สุดท้ายจะไม่ได้กวนอูเข้ามาเป็นพวก
แต่โจโฉก็ยังเทคแคร์​ดูแลอย่างดีเสมอ
แล้วผลลัพธ์​ของการให้ความสำคัญกับ​คนของ
โจโฉมีดีอย่างไร?
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือตอนที่โจโฉได้กวนอูเข้ามาอยู่ด้วย โจโฉให้ทั้งทรัพย์สิน​เงินทองให้ทั้งชื่อเสียงและเลี้ยงดูอย่างดี
ถึงแม้สุดท้ายกวนอูจะลาโจโฉกลับไปหาเล่าปี่
แต่ภายหลังในศึกผาแดงโจโฉพ่ายแพ้แก่พันธมิตรซุนเล่าอย่างยับเยิน จนถูกไล่ต้อนไปเจอเข้ากับกวนอู แต่กวนอูกลับฆ่าโจโฉไม่ลงเพราะคิดถึงบุญ​คุณ​ของโจโฉที่เคยมีให้แก่ตัวเอง
เราเห็นกันไหมครับว่าการให้ความสำคัญกับ​คนมีข้อดีอย่างยิ่ง ขนาดกวนอูที่มั่นอกมั่นใจสัญญากับขงเบ้งว่าถ้าฆ่าโจโฉไม่ได้จะเอาหัวตัวเองเป็นประกันพอเจอเข้าจริงกลับทำไม่ลงเพราะคิดถึงบุญ​คุณของโจโฉ
- กลยุทธ์​ที่ 4 โจโฉใช้ใจแลกใจ
"ใจแลกใจ ใช้ไม่ได้กับทุกคน"
แต่ไม่ใช่กับโจโฉเพราะหลายครั้งที่โจโฉมักให้ใจคนอื่นไปก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็น เล่าปี่ กวนอู
งำเต๊ก อุยกาย บังทอง ลฯล
ถึงแม้ทุกคนที่กล่าวมาจะหักหลังโจโฉแต่โจโฉก็แสดงถึงความจริงใจที่มีให้กับทุกคน
ถึงแม้จะโดนหลายคนหักหลังแต่ที่โจโฉใช้ใจแลกใจไปนั้นเป็นการสร้างแบรนด์​ สร้างภาพ​ลักษณ์​ให้กับตัวเอง จึงไม่แปลกใจทำไมใครหลาย ๆ คนอยากมาเข้าด้วยกับโจโฉ
คุณผู้อ่านครับ...
ถึงแม้เรารู้ว่าใจแลกใจใช้ไม่ได้กับทุกคน แต่ขอให้เรายึดมั่นใช้ใจแลกใจไปต่อเถอะครับ
ถึงแม้จะไม่ได้ผลดีในเร็ววัน แต่ในระยะยาวนี่คือการสร้างแบรนด์ที่ดี สร้างภาพลักษณ์​ที่ดีให้กับตัวเราเองครับ
1
- กลยุทธ์​ที่ 5 โจโฉมองขาดอ่านคนออก
ผู้บริหารที่ดีนั้นนอกจากจะต้อง เก่งงาน เก่งคิด
แต่มีแค่ 2 เก่งนี้ยังไม่เพียงพอเพราะยังต้อง เก่งคน อีกด้วย
ถึงแม้จะไม่มีความสารถในการทำงานนั้น หรือคิดวางแผนแก้ปัญหาด้วยตนเอง แต่ถ้า ''​เก่งคน''​
ก็สามารถหาคนที่เก่งงานและเก่งคิด มาช่วยคิด ช่วยทำให้งานนั้นสำเร็จได้ เพราะฉะนั้น​แล้วการเก่งคนจึงเป็นหัวใจของการบริหาร
ดังเช่นโจโฉที่ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นนักรบที่เก่งกาจเท่ากวนอู ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีไอคิวที่ฉลาดเหมือนกับขงเบ้งแต่ทักษะที่เขามีคือ
''​การเก่งในการบริหารคน''
กวนอูถึงแม้จะเป็นนักรบที่เก่งกาจไร้เทียมทาน แต่สุดท้ายก็ตายแบบจุดจบไม่สวยเพราะ ''​ไม่เก่งคิด''​
ขงเบ้งแม้จะเก่งรอบด้านแต่ในด้านการ ''​เก่งคน''​
เขายังไม่เด็ดขาดเท่าโจโฉ เพราะการบริหารของ
ขงเบ้งนั้นทุกอย่างต้องผ่านการประเมินด้วยตัวเองเสียส่วนใหญ่ก่อนจะถึงมือลูกน้อง จึงไม่แปลกใจทำไมถึงตรากตรำทำงานหนักจนตัวตาย
แต่กลับกันโจโฉบริหารลูกน้องด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจให้อำนาจในตัวลูกน้อง ถึงจะมีล้มเหลวบ้างแต่ก็ให้โอกาสแก้ตัว ทำให้เหล่าทหารและเหล่าที่ปรึกษาที่ต่างโนเนมได้มีโอกาสแสดงฝีไม้ลายมืออยากที่จะทำการใหญ่กับโจโฉ
"เพราะการบริหาร คือ การทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น"
- กลยุทธ์​ที่ 6 โจโฉยึดถือวินัยอย่างเคร่งครัด
อ้วนเสี้ยวบริหารราชการหล่ะหลวม ส่วนท่านนั้นเข้มงวดกวดขัน นี่ก็ชนะอีกแล้ว...
นี่เป็นอีกหนึ่งข้อที่กุยแกวิเคราะห์ข้อดี-ข้อด้อย 10 ประการของ​โจโฉกับอ้วนเสี้ยว
เมื่อครั้งที่โจโฉรบกับอ้วนเสี้ยวโจโฉมีกำลังพลเพียงแค่ 70,000 คน แต่อ้วนเสี้ยวมีถึง 700,000 คน แต่โจโฉก็สามารถ​พลิกเอาชนะได้อย่างเหนือชั้น
สาเหตุ​หลักที่อ้วนเสี้ยวพ่ายแพ้ยับเยินขนาดนี้เพราะเป็นคนโลเลไม่กล้าตัดสินใจ และปกครองกองทัพแบบหล่ะหลวม ทั้งที่ตัวเองมีที่ปรึกษา​ระดับหัวกะทิอยู่ตั้งมากมายทั้ง กุยแก ซุนฮก เขาฮิว เตียนห้อง จอสิว ลฯล
แต่ตัวเองกลับเป็นคนหย่อนนอกระแวงในมีคนเก่งให้ใช้แต่กลับไปเชื่อพวกขี้ประจบสอพลอ​
จนทำให้คนเหล่านั้นท้อแท้หมดกำลังใจ หลายคนทิ้งอ้วนเสี้ยวไปอยู่กับโจโฉ ส่วนคนที่จงรักภักดี ไม่ตายก็ถูกจับเข้าคุก หลังจากนั้นมากองทัพก็ระส่ำระส่ายเละเทะไม่เป็นท่าจึงต้องพ่ายแพ้ให้แก่ทัพโจโฉ
ทุกคนลองคิดเล่นๆดูกันนะครับ ถ้าสมมุติ​เราเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วทำตัวแบบอ้วนเสี้ยว ปล่อยปละละเลย ไม่เข้มงวดกับงานที่ทำ เอาแต่ใจ ไม่ยอมเปิดใจรับฟัง เอาแต่เชื่อลูกน้องที่ประจบสอพลอ​
ถ้าเราเป็นแบบนี้ธุรกิจที่เราทำจะไม่เจ๊งเอาหรอ ?
จริงไหม​ครับ...
- กลยุทธ์​ที่ 7 โจโฉเป็นคน win - win
ข้อนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ ทุกคนที่เข้ามาอยู่ช่วยทำการใหญ่โจโฉล้วนเลี้ยงดูอย่างดีทุกคน และถ้ายิ่งทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย
แล้วหล่ะก็โจโฉพร้อมเปย์ไม่อั้นเพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์​ของโจโฉ
ลองคิดดูสิครับ ถ้าเราทำงานแทบตายแต่มีเจ้านายที่ขี้เหนียว ขี้งก จ่ายนิดเดียว ทำห้าล้านให้ห้าร้อยแบบนี้ใครมันจะไปทนไหวหล่ะครับ จริงไหมครับ ?
.
.
[และนี่คือ 7 กลยุทธ์​ใน​การบริหาร​คนแบบโจโฉ]​
.
.
''​สุดท้ายนี้ผมหวังว่าบทความนี้อาจเป็นประโยชน์​ต่อทุกคนไม่มากก็น้อยครับ''​
.
หากคุณชอบบทความที่มีสาระดีๆเพื่อนำไปปรับใช้ได้ในชีวิต
.
ก็สามารถ​ติดตามได้ทาง Facebook และ Blockdit
ชื่อเพจ​ ''​บทความ​ของนาย​ติง​ลี่''​ กันได้เลยครับ
.
#ขอขอบคุณ​สำหรับทุกคำติชมครับ
และอย่าลืมรักษาสุขภาพ​กันด้วยนะครับผม ❤️
โจโฉ สามก๊ก ๑๙๙๔
โฆษณา