Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เด็กการเงิน DekFinance
•
ติดตาม
4 พ.ย. 2021 เวลา 02:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🎙กลับมาอีกครั้ง !!!
App war
[แอพการลงทุนในตลาด อันไหนดี อันไหนปัง+]
เมื่อก่อนเรารีวิวแค่แอพที่ลงทุนได้หลายค่าย ล่าสุดรอบนี้ เราจะรีวิวแอพ/แพลตฟอร์ม การลงทุนอื่นๆ ด้วย (อยู่แค่ในเนื้อหา) ปรับปรุงใหม่ให้อัพเดทล่าสุด
📌ก่อนจะไปถึงการรีวิว ต้องบอกก่อนว่าแอพการลงทุนมีมากมายเลย ช่องทางการซื้อก็จะแตกต่างกัน เพราะบางค่ายก็มีหลาย Product แบ่งเป็น
📍แพลตฟอร์มของแบงค์เองที่ซื้อได้เฉพาะของตัวเอง K-Wealth Plus, SCB Robo Advisor K-my funds และอื่นๆ
📍แอพการลงทุนที่เป็น Start-up ลงทุนใน ETF อย่าง Stash Away / Jitta Wealth
แอพการลงทุนที่เป็น Start-up แต่เน้นลงทุนในกองทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น Odini, Finnomena และ Finvest *มีแค่ Finvest ซื้อ Master Fund กองต่างประเทศได้ และมี Easy Invest ที่อยู่ในหลักทรัพย์ SCB ในการซื้อขายกองทุนได้หลายบลจ.
📍แอพการลงทุนสังกัดโบรค ซื้อขายผ่าน Streaming for funds (Platform กลางที่ถูกใช้ซื้อกองทุน เมื่อเปิดบัญชีกับโบรค) เช่น Nomura ifunds, Phillip Funds Supermart และอื่นๆ
เปิดบัญชีกับโบรค เพื่อซื้อขายกองทุนผ่าน Streaming for funds
📌 Platform เยอะไปหมดจะเลือกเจ้าไหนดี?
ต้องศึกษาและตอบคำถามตัวเองได้ดังต่อไปนี้
1️⃣ เราสามารถซื้อกองทุนที่เรามองหาได้หรือไม่
ต้องบอกก่อนว่า มีหลายค่ายที่ไม่สามารถซื้อกองของบัวหลวงได้ (ยกตัวอย่าง) สมมติเราชอบค่ายนี้มาก แพลตฟอร์มที่ไม่มีก็คงไม่เหมาะกับเราแล้ว หรือเราอยากที่จะลงทุนแค่กองลดหย่อนภาษี SSF/RMF แต่แอพนั้นลงได้ไม่กี่บลจ. ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่น่าสนใจ
2️⃣ ขั้นตอนในการเปิดง่ายไหม (ความสะดวกสบาย)
เดียวนี้ออนไลน์หมดแล้ว ก็คงต้องมาตัดกันที่ว่าความยุ่งยากในการเปิด หากมีแอพแบงค์อยู่แล้วเร็วขึ้นไหม บางที่เปิดเช้า เย็นอาจจะซื้อขายได้เลยด้วยซ้ำ
3️⃣ การบริการต่างๆ และโอกาสในการพัฒนาต่อของแอพ เช่น มี DCA หรือไม่ หากมี DCA ขั้นต่ำสูงกว่าที่อื่นหรือเปล่า หรือได้เฉพาะบางกองหรือเปล่า ต้องโทรเช็คก่อน ฟังก์ชั่นอย่างอื่นเช่นทำได้หลายพอร์ต มีข้อมูลข่าวสารบทวิเคราะห์ได้หรือเปล่า (ขึ้นอยู่กับความต้องการแต่ละคน) หรือหากเป็นคนที่จัดพอร์ตไม่เป็นอยากได้ Robo Advisor จัดพอร์ตให้ กูรูจัดพอร์ตให้ ก็มีหลายเจ้าให้เลือก
4️⃣ ระบบเสถียรไหม ซึ่งเด็กการเงินเชื่อว่าทุกอันที่ยกมา ระบบค่อนข้างเสถียรแม้จะมี error บ้าง
5️⃣ มีการบริการหลังการขายที่ดี
📍แอพที่มีให้ซื้อกองมากที่สุด
คงหนีไม่พ้น Nomura ifunds / Phillip Funds Supermart ขณะที่ Easy Invest / Finnomena ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน
📍เรื่องขั้นตอนการเปิดบัญชี
Easy Invest ก็ง่ายมาก หากมีแอพธนาคาร SCB อยู่แล้วก็เปิดบัญชีง่ายมาก หรือพวก Finnomena, Finvest ก็ขึ้นชื่อว่าไว ส่วนแอพอื่นๆ เดียวนี้ก็ผันเป็นออนไลน์และอนุมัติไวหมดแล้วเช่น Nomura ifunds, Phillip funds supermart
📍เรื่องฟังก์ชั่นต่างๆ ในแอพ
Robo advisor/มีคนเลือกให้ ก็มีของ K-Wealth PLUS, Nomura i-wealth, Odini, SCB Robo advisor, Finnomena อันนี้คงต้องวัดกันที่คนเลือก วิธีการเลือก ผลตอบแทนย้อนหลังว่าใครเด่น
📌Snapshot แต่ละแอพแบบสั้น ๆ
🖊Finnomena จะมีให้สร้างแผนการลงทุน และดูว่ามันเป็นไปได้ไหมที่จะถึงเป้าหมายการลงทุนด้วยความเสี่ยงของเรา เหมือนมีพอร์ตจำลองมาให้ โดย Finnomena เองก็จะมีพอร์ตมาให้เลือกเยอะมาก ที่เป็นของ Guru Port ที่เด่นดังก็คือพอร์ตที่จัดโดย อดีตนักวิเคราะห์แถวหน้าของวงการอย่าง Andrew Stotz มีพอร์ตที่จัดโดยทีม Finnomena หรือจัดโดยบางบลจ. ก็มีเช่นกัน
🖊Easy Invest มีฟังก์ชั่นให้เล่นเยอะมาก สามารถซื้อได้ทั้งกองทุน ฝากเงินพักไว้ก่อนในส่วนของบัญชีเงินสด (ให้ดอกเบี้ยด้วย) สามารถซื้อขายผ่านบัญชีนี้ได้เลย แถมมีให้ซื้อหุ้นกู้ หุ้นต่างประเทศ (US / HK) แล้วก็แลกเงินในแอพได้ด้วยก่อนซื้อ คือครบจบ ติดอยู่อย่างเดียวของแอพนี้คือเรื่องของการ DCA ที่มีขั้นต่ำ 2,000 ต่อกอง ใครที่เงินน้อยอาจจะซื้อได้ยากหน่อย ตัว
🖊K-Wealth PLUS
ลงทุนเริ่มต้น 10,000 สำหรับก้อนแรก และ 1,000 บาทสำหรับครั้งถัดไป มีการปรับพอร์ตอัตโนมัติ ไม่ต้องทำอะไรเลย เปิดบัญชีง่ายออนไลน์ได้เลย ผลตอบแทนทำได้ค่อนข้างดี ก็เลือกระดับความเสี่ยง เงินที่ต้องลงทุน เป็นอันจบ
.
🖊Finvest
เป็นแอพการลงทุนที่ให้ลงทุนทั้งในกองทุนไทยและกองทุนต่างประเทศ เป็นจุดขายเขาเลย ปัจจุบันซื้อขายทั้งกองทุนไทยและต่างประเทศรวมกัน 34 กองทุนแล้ว ข้อดีคือการลง Master Fund หรือกองทุนต่างประเทศตรง จะเป็นการลดการเสียค่าธรรมเนียมสองต่อ ยกตัวอย่าง หากเราซื้อกองทุนในไทยที่ลงทุนในกองต่างประเทศ เราก็จะเจอค่าธรรมเนียมในส่วนของ Front-end / ค่าธรรมเนียมรวม TER สองต่อ ตั้งแต่กองต่างประเทศ และกองในไทยด้วย (บางครั้งกองในไทยเจรจาจนได้ Rebate ค่าธรรมเนียมบางส่วนคืนด้วยนะ อันนี้ให้อ่านได้ใน Factsheet) ข้อเสียคือต้องลงทุนขั้นต่ำ 30,000 บาทขึ้นไป ใครเงินน้อยก็เป็นอันจบ
🖊Nomura i-wealth
เป็นแพลตฟอร์มลงทุนตามแผนการลงทุน จะแตกต่างกับ Nomura ifunds คนละส่วนเลย เพราะอันนี้คือมีเลือกมาให้แล้ว โดยจริงๆ เขามีหลายแผนเลือกมาให้ หรือเราจะตั้งเป็นเป้าหมายของเราก็ได้ แล้วก็จะมีจัดกองมให้ ตามผลตอบแทนและความเสี่ยงที่อยากได้ ในส่วนนี้ก็ไม่ต่างกับพวก Robo advisor เจ้าอื่น โดยรวมแล้วต้องลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท ทั้งในครั้งแรกและครั้งต่อไป (ควรลงประมาณ 20,000 บาท เพื่อจะได้ลงครบทุกกองตามแผน เพราะแต่ละกองมันมีขั้นต่ำของมันเอง ถ้าลงน้อย เขาเลือกมา 5 กอง เราอาจจะซื้อได้แค่ 2-3 กอง แต่เขาพยายามให้ผลตอบแทนไม่ต่างกันมาก)
🖊Jitta Wealth
เน้นลงทุนใน ETF โดยเฉพาะ มีให้เลือกตั้งแต่
Global ETF ที่จะมีแยกเป็นสามแผน พอเพียง (หุ้น 20% บอนด์ 80%) คาดหวังผลตอบแทน 4% และสมดุล (หุ้น 50% บอนด์ 50%) คาดหวังผลตอบแทน 6% และเติบโต (หุ้น 80% บอนด์ 20% คาดหวังผลตอบแทน 8% ในส่วนอันนี้จะลงทั้งหุ้น หุ้นกู้ พันธบัตรเลย
Thematic DIY เป็นการเลือก Thematic ETF ตามชื่อเลย คือเลือกด้วยตัวเอง ก็จะมี ETF มาให้เลือกเช่น Fintech, Esport, Vietnam, India และอื่นๆ
Thematic Optimized สำหรับคนไม่อยากเลือกเอง ก็ลงใน Thematic ETF เหมือนกัน
โดยทั้งสามแบบจะลงทุนใน ETF ที่ค่าธรรมเนียมต่ำราว 0.5% ชูจุดเด่นว่าการประหยัดค่าธรรมเนียมช่วยให้เงินงอกเงยมากๆ ในระยะยาวจริงๆ ขั้นต่ำในการลงทุนคือ 100,000 บาท
🖋Stashaway
แพลตฟอร์มน้องใหม่ มาจากต่างประเทศ ลงทุนใน ETF เหมือนกัน แนวเดียวกับ Jitta แต่เขาก็จะคัดเลือกกอง ETF มาแล้ว โดยอันนี้สามารถแยกแผนได้ และเงินน้อยก็ลงทุนได้ เพราะเขาลงแบบเศษหุ้น (Fractional shares) ให้ มี Target asset allocation ถ้าสัดส่วนเกินขาด ก็ปรับพอร์ตให้ มีพอร์ตให้เลือกตามระดับความเสี่ยงทั้งหมด 12 พอร์ต
🖋ttb smart port
ลงทุนตามความเสี่ยงเหมือนกัน เขาก็จะมีพอร์ตจำลองมาให้เลือก สามารถดูบทควาย้อนหลังได้ ว่ามีกี่ประเภท โดยค่ายนี้ชูจุดเด่นว่าบริหารร่วมกับ Amundi กองทุนระดับ Top จากยุโรป โดยแอพนี้อาจจะติดตามว่าไปลงทุนในไหนอยากหน่อย ต้องเข้าไปดู Factsheet ของพอร์ต ซึ่งจะไม่รายงาน Real-time จะมี Lag time เหมือน Factsheet กองทุนเลย ซึ่งเราต้องไปหามาหน่อย ไม่ได้ดูจากแอพได้เลย ข้อดีคือเร็วๆ นี้ อาจจะกำลังคลอดตัวพอร์ต SSF/RMF ออกมา ถือว่าเป็นจุดเด่นในตลาดตอนนี้ได้เลย
🖋Wealthmagik
ซื้อขายได้ 19 บลจ. มีหลายแผนหลายพอร์ตได้ สามารถดูแบบพอร์ตเดียวได้ มีแพลตฟอร์มซับพอร์ต ทั้งในแง่ของข้อมูล การคำนวณเป้าหมาย และอื่นๆ
📌สรุปสุดท้ายใครชนะอะไรบ้าง!!
🏆ยืน 1 One Stop Service for Investment ให้กับ Easy Invest ที่ลงทุนได้ทั้งกองทุนรวม หุ้นกู้ และหุ้นต่างประเทศ แถมแลกเงินได้ในแอพ แล้วก็มีบัญชีไว้พักเงินแยก ครอบคลุมที่สุดแล้ว
🏆ยืน 1 เรื่องบทวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร คือ Finnomena มีบทวิเคราะห์มากมายทั้งที่ exclusive สำหรับลูกค้า เชิญผู้จัดการกองทุนชื่อดังมาพูด เช่นจาก Templeton สำหรับลูกค้าที่ลงพอร์ต หรือรายการ The Opportunity (FB Live) ข่าวสารหรือบทความต่างๆ จากเพจดัง ก็เข้าถึงได้ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้า
🏆 ยืน 1 เรื่องซื้อขายได้หลายบลจ. อันนี้ยกให้ Phillip และ Nomura แต่ต้องบอกก่อนนะว่าในความเป็นจริง เราก็ซื้อกันเฉพาะบลจ. ใหญ่ๆดังๆ นั่นแหละ เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องเลือกแอพการลงทุนที่ซื้อได้ทุกบลจ. ขอแค่มีบลจ. เด่นๆดังๆ หรือที่สนใจก็เพียงพอแล้ว
📌คำถามที่ถูกถามบ่อย
📍เปิดบัญชีที่ไหนดี?
คำตอบ: เปิดที่ไหนก็ได้เอาที่สะดวก จะมีหลายเจ้าหลายบัญชีก็ทำได้ หากต้องการแยกชัดเจน ว่าพอร์ตนี้ลดหย่อน พอร์ตนี้ลงทุนประมาณนี้ หรือแต่ละพอร์ตมีวัตถุประสงค์อะไร แต่การมีพอร์ตเดียวไปเลยก็เป็นเรื่องดี เราจะมองภาพพอร์ตเราเป็นภาพเดียวกันจัดสรรพอร์ตมันก็ง่ายซึ่งหลายคนมักมีปัญหานี้ ติดตามยากและปรับพอร์ตลำบาก
📍จำเป็นต้องเปิดบัญชีต่างหาก เพื่อมาเปิดบัญชีกองทุนไหม?
คำตอบ: ไม่จำเป็น เอาบัญชีที่มีอยู่ก็ได้ เอาเป็นว่ามีเงินในบัญชี หรือใส่เงินเข้าสะดวก เพื่อง่ายต่อการตัดเงินเข้าบัญชีกองทุนหรือฝากถอน
Facebook 👉
https://www.facebook.com/DekFinance101
FB Group 👉
https://www.facebook.com/groups/2881645572091138
Blockdit 👉
https://www.blockdit.com/dekfinance
17 บันทึก
13
15
17
13
15
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย