10 พ.ย. 2021 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
"ฝากเงินไว้ในบัญชีหุ้น แต่ไม่ต้องซื้อ-ขายหุ้น" ทางเลือกเก็บเงิน นอกจากฝากธนาคาร
จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น กับเหตุการณ์ “เงินหายปริศนา” ถูกตัดบัญชีผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตโดยไม่รู้ตัว ล่าสุดนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ (ดีอีเอส) ก็ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากผู้ใช้บริการ ที่ชอบซื้อของออนไลน์ และเผลอให้ข้อมูลส่วนตัวกับมิจฉาชีพ จึงทำให้เงินที่ฝากไว้ในธนาคารถูกโจรกรรมนั้น
1
จึงทำให้หลายคนเกิดคำถามขึ้นว่า “นอกจากการฝากเงินในธนาคารแล้ว เรายังสามารถเก็บเงินไว้ที่ไหนได้อีกบ้าง?” เพื่อมองหาทางเลือกอื่นๆ ซึ่ง aomMONEY ก็หาคำตอบมาให้แล้วครับ
หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจ ก็คือการ “ฝากเงินไว้ในบัญชีหุ้น” นั่นเอง
หลายคนเข้าใจว่า การเอาเงินไปฝากไว้ในบัญชีหุ้น มันคือการลงทุนและต้องเผชิญกับความเสี่ยง แต่จริงๆ แล้วเราสามารถ “ฝากเงินไว้เฉยๆ” ได้ครับ ผ่านโบรกเกอร์ต่างๆ ที่เค้าให้เปิดบัญชีหลักทรัพย์เพื่อซื้อ-ขายหุ้น นั่นแหละ เพียงแต่เราไม่ต้องทำการซื้อ-ขายเท่านั้นเอง
1
ก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับบัญชีซื้อ-ขายหุ้น กันก่อนครับ ว่ามีกี่ประเภท
👉 1. บัญชีวางเงินล่วงหน้า (Cash Balance)
เป็นบัญชีที่เหมาะสำหรับมือใหม่ หลักการง่ายๆ ก็คือ ถ้าเรามีเงินในบัญชี้นี้เท่าไหร่ ก็สามารถซื้อหุ้นได้เท่านั้น
1
👉 2. บัญชีเงินสด (Cash Account)
สำหรับบัญชีแบบนี้ลักษณะจะคล้ายๆ บัตรเครดิต คือเราสามารถสั่งซื้อหุ้นได้ก่อน แล้วค่อยจ่ายทีหลัง โดยโบรกเกอร์จะพิจารณาวงเงินจากหลักฐานทางการเงิน รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้ของเรา และเราจะต้องวางเงินประกัน 20% ของวงเงินที่ต้องการจะเทรด หรือ 20% ของวงเงินอนุมัติ
1
👉 3. บัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Credit Balance Account)
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “บัญชีมาร์จิ้น” เหมาะกับนักลงทุนระดับมือฉมัง เพราะเป็นเหมือนการยืมเงินโบรกเกอร์มาซื้อหุ้น ดังนั้นทางโบรกเกอร์จะมีหลักเกณฑ์/ข้อกำหนด มากกว่าบัญชีประเภทอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนผิดนัดชำระนั่นเอง
2
[แล้วบัญชีหุ้นแบบไหนที่ฝากเงินได้?]
บัญชีหุ้นที่เราสามารถฝากเงินไว้เฉยๆ ก็ได้ คือข้อ 1.บัญชีวางเงินล่วงหน้า (Cash Balance) ครับ โดยเราจะได้รับดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน เช่นเดียวกับที่ฝากเงินในธนาคารเลย แต่อัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละผู้ให้บริการ โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ราว 0.40-0.45% ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ธนาคาร เฉลี่ยอยู่ที่ 0.25%
ดอกเบี้ยเงินฝากในบัญชี Cash Balance จะถูกคำนวณภาษีเช่นเดียวกับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร คือถ้ามากกว่า 20,000 บาทต่อปีขึ้นไป จะต้องเสียภาษี 15% ครับ
1
[สภาพคล่องเป็นยังไง? สู้การฝากออมทรัพย์ได้มั้ย?]
สำหรับการฝากเงินไว้ในบัญชีหุ้น Cash Balance นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วคือ
- ถ้าทำรายการก่อน 12.00 น. เงินก็จะเข้าในวันทำการถัดไป
- แต่ถ้าทำรายการหลัง 12.00 น. เงินจะเข้าใน 2 วันทำการถัดไป (บางแห่งอาจยึดเวลา 15.00 น.)
- ส่วนการถอน จะสามารถทำได้แค่ในวันและเวลาทำการเท่านั้น
2
และมักจะมีการกำหนดขั้นต่ำเมื่อทำรายการ เช่น ต้องฝาก-ถอน มากกว่าครั้งละ 3,000 บาทขึ้นไป ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 50 บาท
2
นั่นหมายความว่า การฝากเงินในบัญชีหุ้น Cash Balance อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการสภาพคล่องสูง หรือต้องใช้เงินฉุกเฉิน เพราะถ้าเป็นคนกลุ่มนี้ aomMONEY แนะนำว่า การฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์จะตอบโจทย์มากกว่าครับ เพราะสามารถถอนได้ตลอดเวลา และไม่มีขั้นต่ำเมื่อทำรายการ
1
จะเห็นได้ว่า เรามีผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เลือกหลากหลาย ซึ่งสิ่งสำคัญคือ ต้องเลือกให้ตรงกับจุดประสงค์การใช้งาน ส่วนดอกเบี้ยเงินฝาก แม้จะแตกต่างกัน แต่ก็ไม่มากนักเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อของไทย ซึ่งถ้าใครต้องการผลตอบแทนที่ดี หรือให้เงินเติบโตมากที่สุด ก็จำเป็นต้องลงทุนควบคู่ไปด้วยครับ
#เงินหาย #เงินหายจากบัญชี
#ธนาคาร #ออมเงิน #รัฐบาล
#IssueUpdate #aomMONEY
◤ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
👍 ชอบกด Like โดนใจ กด Share
และอย่าลืม ✅ See First
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดข่าวสารใหม่ ๆ ก่อนใคร
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = ◢
1
ติดตามความรู้ทางการเงินในช่องทางอื่นๆ ได้ที่
📌 กลุ่มกองทุนไหนดี https://bit.ly/3aOjgMl
สนใจโฆษณาติดต่อ :
👉 Tel: 088-099-9875 (แน้ม)
โฆษณา