17 พ.ย. 2021 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
คนรุ่นใหม่มีพฤติกรรม “HENRY” รายได้เยอะ แต่ดันไม่รวย
5
เพื่อนๆ เคยเจอปัญหานี้ไหมครับ “การงานก็ดี รายได้ก็สูง แต่ไม่มีเงินเก็บเลย” ถ้าเพื่อนๆ กำลังเจอปัญหานี้อยู่ล่ะก็ aomMONEY ขอบอกเลยครับว่าเพื่อนๆ กำลังมีสภาวะพฤติกรรม HENRY แล้วล่ะ
11
HENRY หรือ High Earner Not Rich Yet ถ้าแปลความหมายตรงๆ ก็คือ “รายได้เยอะ แต่ดันไม่รวยซักที” เป็นคำที่ไว้ใช้เรียกกลุ่มคนรุ่นใหม่ชาวอเมริกันที่มีรายได้สูง แต่ไม่มีเงินเหลือเก็บ เพราะพฤติกรรมการใช้เงินที่เน้นความสะดวกสบายจนเคยชินและมีสังคมชีวิตที่หรูหรา ซึ่งถ้าลองมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ผมเชื่อว่าน่าจะมีหลายๆ คนกำลังตกอยู่ในสภาวะพฤติกรรม HENRY อย่างไม่รู้ตัว
12
แม้การที่เราจ่ายเงินเพื่อแลกกับความสบายในชีวิตจะไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ การใช้จ่ายที่เสพติดไลฟ์สไตล์ของความหรูหรา ไม่มีเงินสำรอง และขาดการวางแผนการเงินเพื่ออนาคต อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตที่ยากลำบากในอนาคตก็เป็นไปได้
7
⭐ เช็กหน่อย! กลุ่ม HENRY มีลักษณะและพฤติกรรมการใช้เงินกันอย่างไร ⭐
2
1. กลุ่ม HENRY มีรายได้สูง แต่มีเงินออมเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยจึงหยุดทำงานไม่ได้
2
เว็บไซต์ด้านการเงินอย่าง Investopedia เรียกกลุ่ม HENRY ว่าเป็นพวก ‘Working Rich’ ง่ายๆ ว่าถ้าพวกเขาหยุดทำงานก็จะไม่รวย เพราะรายได้ส่วนใหญ่หมดไปกับค่าใช้จ่ายมากกว่านำไปลงทุนเพื่ออนาคต และคนกลุ่มนี้มักจะคาดหวังการมีไลฟ์สไตล์ชีวิตแบบเดียวกับกลุ่มคนที่รวยกว่า แต่ความแตกต่างก็คือกลุ่มคนที่รวยกว่ามักจะสร้างความมั่งคั่งให้กับชีวิตของตัวเองด้วย
8
2. กลุ่ม HENRY เสพติดการใช้เงินเพื่อความสบาย และเสพติดการใช้ชีวิตหรูหรา
1
พฤติกรรมของกลุ่ม HENRY ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ เมื่อถึงวันหยุดจะต้องจองตั๋วเพื่อไปเที่ยว ต้องพักโรงแรมระดับ 5 ดาว ต้องซื้อของเพื่อตามเทรนด์ตลอดเวลา และไม่ได้คิดเยอะเรื่องการใช้เงิน ทำให้กลุ่ม HENRY คือเป้าหมายของตลาด Luxury เพราะนักการตลาดเชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีความทะเยอทะยานนั่นเองครับ
7
3. กลุ่ม HENRY ไม่ได้วางแผนการเงินสำหรับอนาคต มองการใช้เงินระยะสั้น
2
คนกลุ่มนี้จะไม่คิดเยอะเรื่องเงิน อยากได้อะไรก็ซื้อเลย และไม่วางแผนการเงินเพื่ออนาคต ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบกับชีวิตการเงินหลังเกษียณ เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเกษียณเมื่ออายุ 60 และมีชีวิตอยู่ต่ออีกราวๆ 20 ปี นั่นหมายความว่ากลุ่ม HENRY อาจจะกลายเป็นคนสูงวัยที่ไม่มีเงิน อาจจะต้องทำงานในวัย 60+ 70+ ต่อไป หรือพึ่งพาลูกหลานเพื่อหาเงินใช้ในยามชรา (ซึ่งก็ส่งผลให้ลูกหลานตั้งตัวยากขึ้นไปอีก)
3
📍 โดยพฤติกรรมของกลุ่ม HENRY ก็สอดคล้องกับที่ผลการศึกษาของศูนย์วิเคราะห์ TMB Analytics ที่เคยกล่าวไว้ว่าคน GEN Y ส่วนใหญ่ยังติดกับดักคำว่า “ของมันต้องมี” ทำให้คนเหล่านี้สูญเสียรายได้ “ปีละเกือบแสน” หรือ “1 ใน 4 ของรายได้ต่อปี”
1
เพื่อซื้อโทรศัพท์ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋า และนาฬิกา/เครื่องประดับ
2
โดยผลวิจัยยังเผยตัวเลขที่น่าตกใจอีกว่า ถ้าคิดรายจ่ายฟุ่มเฟือยของ GEN Y เป็นมูลค่ารวมๆ กัน ก็มีจำนวนมากถึง 1.37 ล้านล้านบาท ตีเป็น 13% ของ GDP ประเทศ หรือ เทียบได้กับ 8 เท่าของมูลค่าโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มหาศาลเลยนะครับ
1
ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆ คนไหนกำลังมีพฤติกรรมคล้ายกับที่กล่าวมา อย่าชะล่าใจไปนะครับ! มาค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันดีกว่า เพราะปัจจุบันประเทศไทยก็เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวแล้ว ถ้าหวังพึ่งแค่สวัสดิการของรัฐเพียงอย่างเดียว ลำบากแน่นอนครับ
6
ด้วยความปรารถนาดี
#aomMONEY
◤ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
👍 ชอบกด Like โดนใจ กด Share
และอย่าลืม ✅ See First
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดข่าวสารใหม่ ๆ ก่อนใคร
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = ◢
ติดตามความรู้ทางการเงินในช่องทางอื่นๆ ได้ที่
📌 กลุ่มกองทุนไหนดี https://bit.ly/3aOjgMl
2
สนใจโฆษณาติดต่อ :
👉 Tel: 088-099-9875 (แน้ม)
โฆษณา