4 พ.ย. 2021 เวลา 13:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
"Digital Divide" ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต ปัญหาใต้พรมที่ถูกตีแผ่ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Bnomics ได้พาทุกคนพูดคุยไปถึงความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความยากจนโดยรวมที่คนกว่า 700 ล้านคนทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ไปจนถึงความเหลื่อมล้ำในมิติที่ย่อยลงมาอย่างเช่น การขาดแคลนอาหาร และปัญหาด้านการเข้าถึงการศึกษา เป็นต้น
แต่เชื่อหรือไม่ ยังมีความเหลื่อมล้ำอีกมิติหนึ่งที่ได้กลายเป็นปัญหาอย่างมากในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งก็คือ ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต หรือที่รู้จักกันอีกชื่อคือการแบ่งแยกทางดิจิทัล (Digital Divide) ซี่งปัญหาดังกล่าวก็เป็นเสมือนปัญหาใต้พรมที่ได้เผยออกมาให้เห็นชัดอย่างมากในช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมา
📌 อินเตอร์เน็ต กุญแจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคมในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ที่โลกของเราได้เข้าสู่ยุคอินเตอร์เน็ตในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอินเตอร์เน็ตได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนตั้งแต่ชีวิตประจำวันของคนจำนวนมาก การดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างๆ ไปจนถึงการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวม
อย่างที่เราทราบกันดี อินเตอร์เน็ตนับว่ามีบทบาทอย่างมากในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคน ทำให้คนจำนวนมากสามารถค้นคว้าข้อมูลจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย สามารถเข้าถึงสื่อบันเทิงโดยที่แทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สามารถเชื่อมต่อกับผู้คนในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ และก้าวสู่การเป็น Global Digital Citizen ได้
เครดิตภาพ : ประชาชาติ
ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้การดำเนินธุรกิจของเหล่าบริษัทต่างๆ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้คนทั่วโลกใกล้ชิดกันมากขึ้น เปิดตลาดสามารถขายสินค้าให้กับผู้บริโภคทั่วโลก
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเพียงน้อยนิดของผลประโยชน์ที่อินเตอร์เน็ตได้มอบให้โลกในช่วงที่ผ่านมาเท่านั้น และยังคงมีผลประโยชน์อยู่อีกมากที่คงไม่มีทางกล่าวได้หมด
ในขณะที่อินเตอร์เน็ตได้นำพาให้ชีวิตของคนจำนวนมากดียิ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ด้อยโอกาส ที่ยากจน ยังคงเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต และไม่สามารถใช้พลังอันมหาศาลของอินเตอร์เน็ตมาช่วยปลดล็อคให้คุณภาพชีวิตพวกเขาดียิ่งขึ้นได้
📌 แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้…
โอกาสในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนรวยและคนจน ได้เกิดเป็นเส้นแบ่งที่ขยายกว้างมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน
นอกจากนี้ เส้นแบ่งที่ว่านี้ก็ไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่คนรวยและคนจนในประเทศใดเพียงอย่างเดียว แต่เส้นแบ่งนี้ก็ยังครอบคลุมไปถึงความแตกต่างในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของแต่ละประเทศอีกด้วย อย่างเช่น จากข้อมูลของ International Telecommunication Union ในปี 2017 ในทวีปอเมริกาเหนือ มีคนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสูงถึง 92.2% ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่ในทวีปแอฟริกาใต้สะฮะรากลับมีคนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเพียงแค่ 24.1% ของประชากรทั้งหมดเท่านั้น
ความแตกต่างในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของแต่ละประเทศอีกด้วย อย่างเช่น จากข้อมูลของ International Telecommunication Union ในปี 2017
ทั้งนี้ ในวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมานั้นถูกขนานว่าเป็นวิกฤติที่ได้เร่งให้เกิด Digital Transformation จนทำให้เศรษฐกิจและสังคมโดยรวมเปลี่ยนผ่านเข้าสู่วิถีดิจิทัลได้รวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้แสดงให้เห็นถึงปัญหาการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตไม่เท่าเทียมกันที่ได้ทวีความรุนแรงขึ้นไปมาก
📌 วิกฤติโควิด-19 ได้ทำให้ Digital Divide กว้างขึ้นไปอีก
ยกตัวอย่างเช่น ในวิกฤติโควิดที่ผ่านมา เมื่อโรงเรียนต้องปิดตัวลงจากมาตรการล็อคดาวน์ การเรียนการสอนก็ถูกย้ายไปเป็นการเรียนออนไลน์แทน ซึ่งได้สร้างปัญหาอย่างมากให้กับนักเรียนที่อยู่ในครอบครัวที่ยากจน เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต หรือบางที อาจจะไม่มีกระทั่งคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ ทำให้นักเรียนในกลุ่มนี้ ที่โดยปกติก็นับว่าด้อยโอกาสทางสังคมอยู่แล้ว ก็ยิ่งถูกทิ้งไว้ข้างหลังเข้าไปอีก
Digital Divide ได้ขยายกว้างขึ้นระหว่างกลุ่มประเทศร่ำรวย กับกลุ่มประเทศยากจน
หรือในอีกกรณีหนึ่งก็คือ การที่บรรดาเงินช่วยเหลือจากมาตรการรัฐฯ ต่างๆ ล้วนถูกประชาสัมพันธ์และจัดสรรผ่านทางระบบออนไลน์แอพพลิเคชัน และมีเงื่อนไขว่าจะต้องลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือผ่านทางอินเตอร์เน็ต ก็กลายเป็นว่ากลุ่มคนที่ด้อยโอกาส ที่ยากจนที่สุดในสังคม ที่ไม่มีทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรืออินเตอร์เน็ต ก็ยิ่งถูกทิ้งไว้ข้างหลังเข้าไปอีก
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่า ปัญหาเรื่องการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ไม่เท่าเทียมกันที่เราเคยคิดกันว่าไม่ได้น่ากลัวหรือรุนแรงอะไรนัก กลับกลายเป็นปัญหามิติสำคัญซ้ำเติมช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนอย่างมาก และจะทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก เมื่อโลกได้เปลี่ยนผ่านจากโลกอนาล็อกเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ
การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตต่ำในกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ
ด้วยเหตุนี้ โจทย์สำคัญในการดำเนินนโยบายของภาครัฐในตอนนี้จึงได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก จากแต่ก่อนที่นึกเพียงแค่จะแก้ปัญหาด้านการศึกษา ด้านรายได้อย่างเดียวก็ไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะการแก้ไขปัญหาการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตก็เป็นหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำและป้องกันไม่ให้รุนแรงไปมากกว่านี้ได้
และแน่นอน หนึ่งในการตอบโจทย์สำคัญดังกล่าวต้องเริ่มจากการติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกเสียก่อน ซึ่งก็คือ การดำเนินการให้กลุ่มคนชายขอบ คนยากจนเหล่านี้สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต (Access) ให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยการที่ภาครัฐเองจะต้องจัดสรรอินเตอร์เน็ตฟรีให้กับประชาชนที่ยากจน หรือจัดสรรอินเตอร์เน็ตที่ราคาถูกที่ทุกคนเข้าถึงได้
และในขณะเดียวกัน ก็รวมไปถึงการให้ความรู้ในการใช้อินเตอร์เน็ต สร้าง Digital Literacy ไปจนถึง การสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเตอร์เน็ตให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น
เช่นนั้น จึงจะเป็นการการันตีได้ว่าเราจะสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง โดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
#Bnomics #DigitalDivide #ความเหลื่อมล้ำดิจิทัล #อุปสรรคพัฒนาชีวิตคน
#Bnomics #Economics #เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน
ผู้เขียน : เอกศิษฎ์ น้าวิไลเจริญ Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference :
โฆษณา