ความโด่งดังของพิพิธภัณฑ์ส่วนหนึ่งก็มาจากผลงานระดับยอดที่จัดแสดงอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Mona Lisa, The Venus of milo, The Winged Victory of Samothrace และอื่นๆ อีกมากมายรวมแล้วกว่า 35,000 ชิ้น!
รูปสลักนี้เป็นรูปสลักของเทพ Nike เทพแห่งชัยชนะ โดยที่มาของรูปปั้นนั้นยังไม่แน่ชัด แต่นักโบราณคดีคาดว่ารูปปั้นนี้ทำโดยชาวโรดส์ (บนเกาะแห่งหนึ่งของกรีก) 200 ปีก่อนคริสตศักราช เพื่อเป็นที่ระลึกชัยชนะในสงครามบนท้องทะเล และเคยตั้งอยู่ที่ The Sanctuary of the Great Gods
นอกจากการสลักหินอ่อนที่เหมือนจริงมากๆ แล้ว ด้วยท่าเดินแบบ Counterpose ทำให้ดูเหมือนกำลังเคลื่อนไหวพริ้วไหวราวกับจะบินได้ นอกจากนี้รูปสลักนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินมากมาย เช่น Salvador Dalí อีกด้วย
Psyche Revived by Cupid's Kiss by Antonio CANOVA
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องตำนานรักของ ‘คิวปิด’ เทพเจ้าแห่งความรัก กับสาวงาม ‘ไซคี’ จาก วรรณกรรมกรีกโบราณเรื่อง The Golden Ass กันมาบ้าง แต่ในวันนี้ที่กลายมาเป็นลวดลายบนเสื้อ UT นั่นคือผลงานประติมากรรมโดย ‘อันโตนิโอ คาโนวา’ หนึ่งในประติมากรผู้ยิ่งใหญ่ในยุคนีโอคลาสสิก
Psyche Revived by Cupid's Kiss ถือเป็นผลงานประติมากรรมชิ้นเอกแห่งยุคนีโอคลาสสิก ที่ถ่ายทอดช่วงเวลาแสนโรแมนติก ที่ไซคีในอ้อมกอดของคิวปิดกำลังฟื้นจากหลับใหลด้วยจุมพิตอันอ่อนโยน เป็นรูปแกะสลักหินอ่อนที่กลับดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
ภาพหญิงงามแห่งแฟรโรนิแยร์ โดย ‘เลโอนาร์โด ดา วินชี’ หนึ่งในจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะ กับผลงานภาพวาดสตรีด้วยสีน้ำมันบนแผ่นไม้ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ภาพเหมือนของผู้หญิงโดยดา วินชี (อีกสามภาพคือ Mona Lisa, Portrait of Ginevra de' Benci และ Lady with an Ermine)
อีกหนึ่งชื่อที่คนรู้จักของภาพนี้คือ ‘Portrait of an Unknown Woman’ หรือสตรีนิรนาม เนื่องจากไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดว่าภาพผู้หญิงคนนี้คือใคร ได้แค่สันนิษฐานว่าเป็นชาวฟลอเรนซ์จากแฟชั่นเครื่องแต่งกาย และสร้อยคาดศีรษะ
แม้จะเป็นภาพนิรนาม แต่ก็มีการสันนิษฐานถึงตัวตนกันอยู่หลากหลายทฤษฎีเช่นกัน ครั้งหนึ่งเคยเชื่อว่าเป็นภาพเหมือนของ Cecilia Gallerani หนึ่งในสนมของดยุคแห่งมิลาน Ludovico Sforza แต่ก็ยังไม่มีใครยืนยันฟันธง ทำให้จนถึงปัจจุบันก็ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน