6 พ.ย. 2021 เวลา 07:44 • คริปโทเคอร์เรนซี
รวม 5 Exchange ซื้อขายคริปโต ที่คนไทยนิยมใช้
1
“โอ๊ยยยย..อยากลงทุนในคริปโตแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ยากก็ยากไม่เห็นรู้เรื่องเลยย “ เพื่อน ๆ คนไหนที่อยากลงทุนในคริปโตแต่ไม่รู้จะทำยังไง มองไปทางไหนก็มืดมนเห็นคนอื่นโชว์กำไร แล้วตามันร้อนผ่าว อยากลงทุนบ้าง.. หรือออ ใครที่อยากเปลี่ยน Exchange โพสต์นี้จะเป็นทางเลือกให้คุณคับบบ 🤫
1
ก่อนอื่นก็ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ เพราะการลงทุนในคริปโตไม่ใช่เรื่องยาก และการจะลงทุนแต่ละครั้งก็ง่ายยย แสนง่าย เพียงแค่เราต้องเข้าใจและใช้เวลาศึกษาบ้างเล็กน้อยก็สามารถเริ่มต้นลงทุนในคริปโตได้แล้ว โดยหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการลงทุน ก็คงหนีไม่พ้นการซื้อขายบนกระดานหรือที่เราเรียกว่า Exchange โดยจะเป็นตัวกลางที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลให้กับเรา โดยที่เรายินยอมที่จะเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเป็นการแลกเปลี่ยนนั้นเอง
2
ส่วนมือใหม่ใจนักเลงที่คันไม้คันมืออยากจะเริ่มแล้วว คงบอกแอดว่า ก็ใจมันร้อน อย่าห้ามพี่ไอน้องง 😆 โอเคค่ะ แอดไม่ได้จะห้ามน้า แต่วันนี้แอดจะมาบอกข้อมูลของแต่ละ Exchange ให้ฟังกัน เอาไว้พิจารณาในการเริ่มต้นลงทุนได้ หรือมือเก๋าอยากจะเปลี่ยนที่เทรดเพราะค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าก็ได้เหมือนกัน เนื่องจากในประเทศไทยมีอยู่หลาย Exchange ให้เลือกใช้ บางครั้งเพื่อน ๆ อาจจะตัดสินใจเลือกกันไม่ได้ ก็สามารถดูจากโพสต์นี้ได้เลยยย แอดหวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยน้าาา
เอาหล่ะเหล่ามือใหม่ทั้งหลาย จงเข้ามาสู่โลกคริปโตพร้อมกันเล๊ยยย
==================================
ถ้าชอบคอนเทนต์แบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดติดตามเพจไว้นะคะ จะได้ไม่พลาดสาระดี ๆ จากเพจของเรา
.
ช่องทางการติดตามอื่น ๆ
กลุ่มไลน์ : https://line.me/ti/g2/ZbuwkCiWlD8SUzCbrjSFGg
เพจ NFT Game : Stocker gamer
1.Binance (ต่างประเทศ)
1
ถ้าให้พูดถึง Exchange ที่มีคนเล่นมากที่สุดในโลกเวลานี้ก็คงหนีไม่พ้น Binance เนื่องจากมีคู่เหรียญสำหรับลงทุนที่เยอะมากก ซึ่งมีถึง 1283 เหรียญเลยทีเดียว ทำให้ตอบโจทย์กับนักลงทุนหลากหลายกลุ่ม แถมมีฟีเจอร์ให้เลือกหลากหลาย เช่น ฟิวเจอร์ เป็นฟีเจอร์ที่เราสามารถเทรดได้แบบ Leverage หรือเป็นการคูณผลตอบแทนได้นั้นเอง ซึ่งตรงนี้ก็สามารถปรับได้ถึง 125 เท่า ถือได้ว่าเป็นขวัญใจของนักเทรดสายซิ่งเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็น Exchange เดียวที่สามารถทำได้ เพราะตอนนี้ยังไม่มี Exchange ไหนในไทยที่รองรับฟีเจอร์นี้
4
หากพูดถึงค่าธรรมเนียมก็ถูกกกแสนถูกเพราะเค้าคิดแค่ 0.1% เท่านั้น ถูกกว่าในไทยทั้งหมดเลย แต่ข้อเสียก็มีเช่นกัน เนื่องจากเป็น Exchange ของต่างประเทศทำให้กลต.ไทยยังไม่รองรับ หากเกิดปัญหาอะไรก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากทางก.ล.ต. แอดแนะนำว่ายังไม่ไม่เหมาะกับผู้เล่นมือใหม่มากนัก เพราะจำเป็นจะต้องแลกเปลี่ยนเงินไทยไปเป็นสกุลเงินดอลลาร์ค่อนข้างยากกว่าทั่วไป และมีความเสี่ยงในการถูกโกงได้เช่นกัน
Binance (กลต.ไม่รองรับ): https://accounts.binance.com/en/register?ref=H9I9RSTW
2.Bitkub (ไทย)
แหมม..ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเจ้านี้ กระแส SCB X10 ได้เข้าซื้อหุ้น 51 % มีให้เห็นทุกหย่อมหญ้าบนโลกโซเชี่ยล ไปที่ไหนก็เจอ ข่าวนี้ส่งผลให้เหรียญ KUB ซึ่งเป็นเหรียญของทาง Bitkub เอง พุ่งไปกว่า 300 % เลยค่ะ สมกับที่คุณท็อป จิรายุ ประกาศกร้าวเอาไว้ว่า “เดี๋ยวคอยดูกัน” จริง ๆ เรียกได้ว่าดูถึง 6 เดือน ดูกันจนลืมไปเลยย 🤣 แอดแซวเล่นน้าาา ก็ต้องยอมเค้าแหล่ะ เพราะนี้เป็น Exchange สัญชาติไทยอันดับต้น ๆ ที่คนไทยใช้กันเลยก็ว่าได้ ในด้านคู่เหรียญก็ไม่มากไม่น้อยเกินไปมีอยู่ที่ 49 เหรียญ และในส่วนของ App สำหรับเทรดก็ใช้งานง่าย ไม่ได้ยุ่งยาก ถือว่าออกแบบมาดี แต่ใครที่เทรดทีละหลายล้าน ก็อาจจะต้องพิจารณากันหน่อยเพราะค่าธรรมเนียมแพงกว่าเจ้าอื่นมาก
3
สมัครได้ที่ : https://www.bitkub.com/signup?ref=454263
3.Zipmex (ไทย)
.
เมื่อก่อน Zipmex ถือว่าเป็นขวัญใจสายเทรดสุด ๆ เนื่องจากไม่มีค่าธรรมเนียมในการเทรด ทำให้คนที่ชอบเทรดวอลุ่มสูง ๆ นั้นสบายตัวกันไปเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ทาง Zipmex ปรับอัตราค่าธรรมเนียมใหม่แล้วน้าา เป็น 0.1 - 0.2 %
.
Zipmex ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับนักลงทุนคริปโตสายออม โดยผลตอบแทนที่ได้จะสูงกว่าฝากเงินแบบปกติ ใครมีเงินเย็นแต่ไม่รู้จะทำอะไรก็มาฝากที่นี้ได้น้าา เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Exchange สัญชาติไทยที่กำลังมาแรงขณะนี้เลย เนื่องจากเค้าเพิ่งเปิดผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Zlunch เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและเปิดโอกาสให้กับนักลงทุน โดยใครก็ตามที่อยากได้เหรียญใหม่ ๆ ที่เป็นต้นสาย มีอัตราการเติบโตสูงก็สามารถเข้ามาใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ เพียงแค่ซื้อเหรียญ ZMT มาฝากไว้เท่านั้น ก็มีสิทธิ์ในการเข้าร่วมโปรเจกต์ใหม่ ๆ ได้แล้วค่าา
4.Satang pro
.
ถ้าเทียบด้านอายุของ Exchange ในประเทศไทย ทาง Satang ก็คือพี่ใหญ่สุด ไม่น้อยหน้า เนื่องจากเป็นผู้บุกเบิกวงการสกุลเงินดิจิทัลในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2017 เรียกได้ว่าเป็นรายแรกและผู้บุกเบิกกระดานเทรดเงินดิจิตอลของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ทำให้มีประสบการณ์ด้าน Blockchain ยาวนานที่สุดในประเทศไทย จุดเด่นหลัก ๆ ของเค้าเลยก็คือ ค่อนข้างเป็นมิตรกับ Exchange อันดับ 1 ของโลกอย่าง Binance เพราะเค้าจะไม่คิดค่าธรรมเนียมหากเราต้องการฝาก-ถอนเหรียญที่มาจาก Binance ถ้าใครต้องการนำสกุลเงินดิจิตอลเข้ามาในไทย เจ้านี้ก็ถือว่าน่าสนใจเหมือนกัน แต่เนื่องด้วย Volume การเทรดต่อวันไม่ได้เยอะมาก อาจจะทำให้เวลาเราตั้งออเดอร์ในการซื้อขายจะค่อนข้างรอนานเลยค่ะ
5.Bitazza
มาถึง Exchange สุดท้ายกันแล้วน้าาา กับ Bitazza โดยเจ้านี้เคลมตัวเองว่าเป็น Broker เดียวที่สามารถส่งคำสั่งซื้อและขายของลูกค้าไปยังศูนย์ซื้อขายต่างๆ ทั่วโลกได้ ในขณะที่ Exchange อื่น ๆ จะจับคู่ซื้อขายได้เฉพาะภายในระบบตัวเอง ดังนั้นเพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลในเรื่องของสภาพคล่องของเจ้านี้เลยเพราะการที่เค้าจับมือร่วมกับศูนย์ซื้อขายต่างๆ ทั่วโลก ทำให้ Exchange นี้มีสภาพคล่องที่สูงพอสมควร อีกทั้ง Bitazza ก็มีเหรียญเป็นของตัวเองที่ชื่อว่า BTZ Token ซึ่งใครก็ตามที่ถือเจ้าเหรียญนี้สามารถมีส่วนร่วมในการโหวตเกี่ยวกับเหรียญที่จะเข้ามาในอนาคตได้อีกด้วย แต่ข้อเสียก็คือจะมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าเจ้าอื่น ๆ อยู่เหมือนกัน
1
ถ้ามาถึงตรงนี้แล้วเพื่อน ๆ ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกใช้ Exchange ไหน แอดก็แนะนำว่าให้ไปลองใช้ให้หมดนั้นแหละค่ะ เผลอ ๆ ได้ใช้หมดนั้นเลยด้วยน้าาา 😅
สมัครได้ที่ : https://bitazza.com/signup?aff=1KXT5N
โฆษณา