Metaverse ความเสมือนจริง ที่อยู่เหนือความสนุก
Metaverse คือ การสร้างสภาพแวดล้อมของโลกแห่งความจริงและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันจนกลายเป็นชุมชนโลกเสมือนจริง ที่สามารถผสมผสานวัตถุรอบตัวและสภาพแวดล้อมให้เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวโดยอาศัยเทคโนโลยี AR และ VR เข้ามาช่วยเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อให้กลายเป็นพื้นที่โลกเดียวกัน ทั้งนี้
- 1.AR หรือ Augmented Reality เป็นการนำเทคโนโลยีมาผสานโลกแห่งความจริงและวัตถุต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น การสร้างตัวละคร Avatar ผ่านสมาร์ทโฟน สร้างฟิลเตอร์กล้องถ่ายภาพ การเล่นเกม Pokemon Go โฮโลแกรมภาพ 3 มิติ
- 2.VR หรือ Virtual Reality เป็นการจำลองภาพให้เสมือนจริงแบบ 360 องศา โดยอาจต้องใช้อุปกรณ์เสริม คือ แว่นตา VR เพื่อจำลองการรับรู้ การมองเห็นและการได้ยินเสียงในโลกเสมือนจริง เช่น การจำลองกระโดดร่ม การขับเครื่องบิน การเล่มเกมแนวต่อสู้
VR Chat
การที่ Facebook เปลี่ยนตัวเองเข้าสู่ยุค Meta ทำให้เหรียญ Crypto นั้นมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะเหรียญที่สามารถนำไปใช้จ่ายในเกม หรือ ธุรกิจ E-commerce ต่างๆ
กลุ่มเหรียญ Crypto หลายเจ้าจะได้ประโยชน์จาก Metaverse ซึ่งเป็นแนวคิดกว้างๆ สำหรับโลกเสมือนจริงยุคใหม่ที่ผู้คนสามารถทำงาน เล่นเกม ซื้อ-ขาย บนแพลตฟอร์ม e-commerce และโต้ตอบทางสังคมได้ ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์อย่างชัดเจน คือ แพลตฟอร์มเกมออนไลน์และตลาดซื้อขายที่ใช้โทเค็น NFT เป็นของสะสมในเกม บริษัทเหล่านั้นหลายแห่งมองว่าการประกาศของ Mark Zuckerberg CEO ของ Meta เป็น อีกหนึ่งก้าวที่จะเติมเต็มการเข้าถึงตลาดทุน และเป็นความสำเร็จในการต่อยอดจากความสนุกไปสู่การลงทุนของพวกเขา Zuckerberg ทำให้หลายๆคน ที่ไม่เคยได้ยินถีงเรื่องของ Metaverse เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น และกระตุ้นความสนใจในการสร้างมูลค่าและทำธุรกิจในโลกสเมือนที่สร้างขึ้นจากโมเดลเกม "Play to Earn" หรือการเล่นเกมออนไลน์ที่สามารถสร้างรายได้พร้อมกับความสนุกในเวลาเดียวกันผ่านระบบ Blockchain และ NFT ได้
📌 การผลักดันโลกสเมือนนั้นจะยิ่งผลักดันให้เกมส์และ NFT เติบโตมากขึ้น
Decentraland เป็นตัวอย่างของโลก Metaverse ซึ่ง Decentraland เป็นชุมชนออนไลน์ที่ผู้ใช้สามารถสร้างอวาตาร์ของตนเองและโต้ตอบได้ มันเรียกตัวเองว่าเป็น "โลกเสมือนจริงแห่งแรกที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของ"
Decentraland โดยมีสกุลเงินโทเค็นว่า MANA
Decentraland มีโทเค็นของตัวเองที่เรียกว่า MANA ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 225% นับตั้งแต่การประกาศของ Meta เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โทเค็น MANA นั้นใช้เพื่อซื้อที่ดินบนโลกเสมือนจริง
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาก็มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าไปสร้างโครงการและสินทรัพย์ในโลกสเมือนอย่างต่อเนื่อง ในเดือนมิถุนายน ที่ดินใน Decentraland ถูกซื้อโดย Republic Realm หรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัล ไปได้มากกว่า 900,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และในเดือนเดียวกัน บริษัทรับประมูลบ้านอย่าง Sotheby's ยังได้ซื้อบ้านบน Decentraland พร้อมกับการเปิดแกลเลอรีเสมือนจริงใน “Voltaire Art District” ของ Decentraland เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการประมูลภาพ NFT อีกด้วย
โทเค็นของ Decentraland ไม่ใช่เพียงโทเค็นเดียวที่ได้รับความสนใจจาก Metaverse โทเค็นอื่นๆ อย่างเช่น SAND ของ The Sandbox, ENJ ของ Enjin Network, WILD ของ Wilder Worlds และโทเค็น TLM ของ Alien Worlds ยังได้รับความสนใจไม่แพ้กัน และราคาก็ได้ขยับขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
ซึ่งโทเค็นเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานอยู่บนระบบนิเวศ ของ blockchain และ Smartchain ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Binance Smartchain หรือ Solana และอาจเป็นหนึ่งในแรงผลักดันการใช้งานของเหรียญ เหล่านี้ในอนาคต
Solana หนึ่งในโทเค็นที่ทำงานอยู่บนระบบนิเวศ ของ blockchain
📌 Metaverse จะถูกใช้งานในด้านอื่นๆ ที่มากกว่าการเล่นเกมส์
จริงๆแล้ว Metaverse ไม่ได้เน้นเรื่องเกมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเน้นปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ เช่นการพูดคุยกันใน VR meetings apps (Workplace), ออฟฟิศเสมือนจริงที่ออกแบบมาเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่ว่าแต่ละคนจะอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน เหมือนกับการประชุมงานผ่าน video call ทั่วไปแต่จะมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Social space (Horizon) โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ครูปแบบใหม่ที่สามารถทำให้เราพูดคุยกับเพื่อนแบบนั่งข้างๆกันได้ แม้ว่าตัวเราจะอยู่คนละประเทศ โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างหน้าตาตามความต้องการของเราได้อย่างอิสระ และเข้าร่วมทำกิจกรรมต่างๆกับผู้คนทั่วโลกได้แม้ว่าจะอยู่ไกลกันก็ตาม และ VRChat วีดีโอเกมจำลองผ่าน VR ที่สามารถเล่นได้หลายคน โดยใน VRChat ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละครเป็นของตัวเองและพูดคุยกับผู้คนภายในเกมได้ ซึ่งต่างล้วนมีจุดประสงค์ในการสร้างปฏิสัมพันธ์ สำหรับคนที่อยู่ห่างไกลให้เหมือนอยู่ใกล้กัน ในอนาคตเราอาจะได้เห็นการลองเสื้อผ้าเสมือนจริงก่อนสั่งซื่อมาใช้งานจริงผ่านทางออนไลน์
ล่าสุด Tinder ได้ออกมาพูดถึงแนวคิดที่จะออกแบบการออกเดตเสมือนจริงด้วยร่างอวตาร ในเวอร์ชั่นที่ปรับปรุงล่าสุด Tinder ได้มุ้งเน้นเพื่อให้ธุรกิจเข้าสู่ Metaverse มากขึ้นโดยการ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บนแอปฯ โดยใช้ชื่อว่า ‘Explore’ ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้คนมีปฎิสัมพันธ์กันมากขึ้น ผ่านประสบการณ์ในการตอบโต้ (interactive experiences) และ การแชทแบบเรียลไทมส์, การพูดคุยที่จะนำไปสู่เรื่องราวใหม่ๆ ตามความสนใจของแต่ละบุคคล ผ่านซีรีส์ ‘Swipe Night’
Tinder
นอกจากนี้แล้ว Tinder ยังมีแผนที่จะเปิดตัว Tinder coin เป็นสกุลเงินดิจิตอลเพื่อใช้จ่าย add on ภายในแอพของสมาชิก เช่น Boost, Super Like และยังมีการเปิดตัวการขายสินค้าบนโลกเสมือน (Virtual Goods) และ เปิดตัวบริการแบบ ‘จ่ายตามจริง’ สำหรับฟีเจอร์ See Who Likes You
จะเห็นได้ว่าโอกาสการใช้งานของ Metaverse ในด้านต่างๆยังมีอีกมาก ซึ่งยิ่งมีการใช้งานที่มากขึ้นใน Metaverse การพัฒนาและการใช้งานของเหรียณสกุลเงินดิจิทัลก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้จะเป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นของทั้งตลาด Metaverse AR/VR รวมทั้งสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ
#Metaverse #Meta #Facebook #Cryto #Ethereum #Binance #Solana #MANA #Decentraland #NFT #Tinder
ผู้เขียน : กุลเชษฐ์ เสงี่ยมพงษ์ Tech & Innovation Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Website : https://www.bnomics.co
Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube : https://www.youtube.com/bnomics
Twitter : https://twitter.com/bnomics_co
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference :
- 31
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
