7 พ.ย. 2021 เวลา 12:33 • ท่องเที่ยว
ใบไม้เริงระบำ ที่คันไซ (6) .. Eikan-Do Temple ใบไม้แดงชิล ชิล อินแจแปน
ในสายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง
ใบหญ้าโดดเดี่ยวสั่นสะท้าน
ใบไม้ร่วง ร่วงหล่นล่องลอย มาจากที่ใด
ฤดูใบไม้ร่วง ได้สิ้นสุดลงแล้ง
.. บทกวีไฮกุโบราณของญี่ปุ่น ได้พรรณาถึงบรรยากาศและอารมณ์อันหลากหลายและสุนทรีของฤดูใบไม้ร่วงที่เปี่ยมสีสัน ก่อนจะร่วงโรยปลิดปลิวลงจากต้น ไปกองรวมกันราวกับพรมใบไม้ รอวันให้หิมะสีขาวโปรยปรายลงมาทักทายเป็นวัฏจักร
ว่ากันว่า … คนญี่ปุ่นนั้นผูกพันกับธรรมชาติ และมักจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านฤดูกาล ด้วยเหตุที่ว่าคนญี่ปุ่นเชื่อว่าในทุกสรรพสิ่งนั้นมีความงดงามซ่อนอยู่ ในขณะเดียวกันก็รู้ดีว่า ในความงดงามนั้นย่อมสิ้นสุดลงในวันใดวันหนึ่ง
… เช่นเดียวกับยามเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และสีสันของใบไม้ที่สวยราวกับภาพวาด.. แต่แล้ววันหนึ่งใบไม้ทั้งหมดก็จะหลุดร่วงจากกิ่งก้านลงสู่ดิน
ยามที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง ในปรากฏการณ์นี้ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โมะมิจิ” หรือ “โคโย” .. ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางธรรมชาติของฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น เป็นเวลาที่มากด้วยลีลาของสีสัน และเป็นฤดูของการท่องเที่ยวที่คึกคัก
ใช่แต่คนญี่ปุ่นเท่านั้นที่อิ่มเอมกับฤดูกาลและธรรมชาติ เราเองก็ไม่ยอมพลาดความงามของเมืองหลวงเก่าอย่างเกียวโตในช่วงเวลาที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของปี และเมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยสีสันจัดจ้านของใบไม้สีน้ำตาล แดงเข้ม และเหลืองอ่อน
จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโตส่วนใหญ่มักจะอยู่ในวัด … ที่มีชื่อโด่งดัง คือที่วัด Eikan-Do Temple หรือชื่อที่เป็นทางการว่า “วัดเซนรินจิ” (Zenrin ji Temple) ซึ่งแปลว่า "Temple in a Calm Grove"
“วัดเซนรินจิ” เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายโยโด (Jodo-shu) ที่เก่าแก่ สร้างขึ้นในยุคเฮอัน ณ พื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกียวโต .. ตัววิหารสร้างขนาบไปกับภูเขา โดยมีระเบียงไม้เชื่อมต่อกัน
วัดเออิคันโดะ … มีประวัติย้อนหลังไปถึงสมัยเฮอัน สร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. 863 โดยจักรพรรดิ์ Seiwa อันเป็นยุคที่ชนชั้นสูงของญี่ปุ่นได้บริจาคที่พำนักของตนเองให้กับพระ แล้วก็เลยนำมาสร้างเป็นวัดโดยใช้ชื่อว่า “วัดเซนรินจิ”
ต่อมาราวศตวรรษที่ 11 .. วัดนี้รู้จักในนามวัด Eikan ซึ่งเป็นชื่อของเจ้าอาวาสที่ได้ช่วยเหลือคนยากจนในยุคนั้น ดังนั้น วัดนี้จึงได้มีการเรียกชื่อว่า “วัดเออิคันโดะ” โดยเริ่มแรกวัดนี้จะเป็นวัดพุทธในนิกายชินงอน และตอนหลังก็ได้เปลี่ยนมาเป็นนิกายโยโด
เริ่มต้นความงามตั้งแต่ทางเดินเลียบรั้วเข้าสู่ตัววัด Eikando กันก่อน
การมาชมต้นเมเปิ้ลและใบไม้แดงที่วัดแห่งนี้ คุณจะไม่ได้เห็นทีละต้น แต่จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีจำนวนมากมายถึงราว 3,000 ต้น ที่มีใบทั้งสีแดง ส้ม สลับกันไปมากมายในช่วงฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสี จนได้รับฉายาว่าเป็น “วัดแห่งใบเมเปิ้ล” (Eikando in Maple leaves)
วัดแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสี เพราะเป็นจุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของการได้ยืนชื่นชมความอลังการของใบไม้แดงเหลือส้มในการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาล
บ่ายนี้ ผู้คนที่เดินทางมาเพื่อชมใบไม้แดงที่วัดนี้มีมากมาย บรรยากาศภายในวัดที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ทั้งขนาดใหญ่น้อยดูสงบ และเคร่งขรึมในเวลาเดียวกัน แต่เต็มไปด้วยสีสันแห่งใบไม้แดง
การเข้าไปชมภายในของวัดจะต้องจ่ายค่าผ่านทางก่อน และเมื่อเดินตามทางเข้ามาจะมีประตูชั้นที่สองเปิดเข้าสู่บริเวณวัด และสวนต้นเมเปิ้ล
ตั้งแต่ทางเดินเข้าไปภายในวัด ตลอดจนถึงทั่วอาณาบริเวณภายในทั้งหมด… เมื่อทอดสายตาจากด้านบนลงไป ภาพสีสันของใบเมเปิ้ลที่มีแน่นหนาด้านล่างนั้น ประหนึ่งสวรรค์บนดิน สมกับคำร่ำลือว่า ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้แดงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกียวโต
ก่อนจะลงไปที่สวนเมเปิ้ล ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตรงกลาง .. ทางวัดจัดพื้นที่ด้านบนเป็นช่องให้ถ่ายรูปสวนสวยในมุมกว้าง เป็นมุมมหาชน (คนที่ไปยืนรอถ่ายรูปที่มุมนี้เยอะมากๆ) ในการเก็บภาพสระน้ำที่ถูกโอบกอดโดยใบไม่สีสันจัดจ้าน
สระน้ำสวยงาม ตั้งอยู่กลางสวนที่มีชื่อว่า สวนโฮโจ (Hojo) .. ได้รับการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม มีทั้งลำธารเล็กๆ บ่อน้ำ และสะพานเชื่อมต่อกับส่วนที่เป็นอาคาร เป็นจุดที่มีความสวยงามที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ก่อนที่เราจะลงไปเดินและเก็บภาพในมุมต่างๆของสวนสวย เราจะพาเข้าไปชมในส่วนของอาคารหลักต่างๆของวัดที่น่าสนใจก่อนนะคะ
วัดเออิคันโดะ … มีอาคารหลักของวัดทางทิศเหนือสร้างขึ้นบนเนินเขา มีอาคารหลายหลังที่มีสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณที่สวยงาม และดูแปลกตา และมีการสร้างทางเดินเชื่อมต่อไปยังอาคารต่างๆทำให้เดินสะดวกมากๆ แต่ด้านในของวัดจะเปิดให้ชมเป็นบางช่วง
ช่วงที่เราไปเยือน วัดเปิดพื้นที่ด้านในให้เข้าไปชมเป็นการเฉพาะในฤดูช่วงใบไม่ร่วง
สิ่งที่เดินเข้ามาอย่างแรกจะเจอก็จะเป็นห้องโถง Shakado ที่จุดขายอยูตรงบานประตูที่จะมีภาพวาดสวนหินที่สวยคลาสสิกมากๆ
ศาลาไม้ชั้นเดียว มีทางเดินได้โดยรอบ ตรงกลางเปิดโล่งเป็นสวนในสไตล์ญี่ปุ่น … หลายคนเดินเข้ามาในอาคารศาลาแล้วนั่งชมความงามของสวนแบบเซนและไขปริศนาแห่งธรรม บ้างนั่งชมเฉยๆทำจิตใจให้สงบ บ้างก็ถ่ายรูป
ถัดมาเป็นห้องโถง Miedo เป็นที่ประดิษฐานของท่าน Honen ผู้ก่อตั้งนิกายโจโด .. สวนแบบเซนที่ต่อเนื่องมาเป็นช่วงๆของระยะทางที่เราเดินผ่านนั้น ไม่ได้เต็มไปด้วยดอกไม้สีสวยเหมือนสวนทั่วไปที่เราคุ้นตา แต่มีความสวยงามด้วยเส้นสายที่มองเหมือนภาพวาด เรียบง่าย และมีสไตล์
สวนสไตล์ญี่ปุ่นแบบเซน ณ มุมหนึ่งของด้านในวัด .. เส้นสายของลำต้นต้นไม้ สวนกรวด บ่อนำขนาดเล็ก การจัดวางหิน และใบไม้ที่ร่วงคลุมผืนดิน ... ล้วนประกอบเป็นภูมิทัศน์ที่น่ามอง แฝงปริศนาธรรมให้ได้คิดตีความ
ต่อมาเป็นห้องโถง Amidado ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไม้ เรียกว่า “มิคาอิริอะมิดะ” ที่สร้างขึ้นระหว่างสมัย Heian ตอนปลาย (794-1185) และต้นสมัย Kamakura
ว่ากันว่า .. เมื่อครั้งที่ท่าน Eikan กำลังทำพิธีกรรมรอบรูปปั้นของพระพุทธรูป ทันใดนั้นรูปปั้นเกิดมีชีวิตขึ้นมา และพูดว่า “Eikan ท่านช้าไป” .. หลังจากนั้นศีรษะของรูปปั้นพระพุทธรูปยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมตั้งแต่นั้นมา (ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ)
ที่ศาลาประดิษฐานพระพุทธรูป .. มีทางเดินคดโค้งตามทางลาดของภูเขาเรียกว่า"Garyou-rou" และระเบียงไม้ที่สวยคลาสสิกมาก มองเห็นใบไม้สีสันสวยงามให้ชื่นชมตลอดทาง
สถาปัตยกรรมภายในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดนั่นก็คือ “เจดีย์ทาโฮโตะ” (Tahoto Pagoda) ซึ่งเป็นเจดีย์ไม้ 2 ชั้น ที่ได้ทำการสร้างติดกับต้นไม้บนเนินเขาที่สูงจากจุดที่เรายืนมองพอสมควร …
…ว่ากันว่า สามารถชมวิวสวยๆจากด้านบนได้ แต่เราไม่ได้ขึ้นไปชมเจดีย์ด้านบน
ศาลาไม้ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป เมื่อมองจากด้านล่าง ..
ทางด้านขวามือ (เมื่อมองกลับไปยังศาลาไม้ด้านบน) ถัดจากทางเดินลงที่เป็นบันไดอิฐ มีน้ำตกเล็กๆ ประดับด้วยรูปปั้นพระพุทธรูป และรูปปั้นที่เข้าใจว่าเป็น เจ้าแม่กวนอิม
รูปปั้นขนาดใหญ่ของเจ้าแม่กวนอิม .. หันหน้าไปยังศาลาไม้ด้านบน
ถัดจากทางเดินลงจากบันไดอิฐ มีน้ำตกเล็กๆ ประดับด้วยรูปกั้นพระพุทธรูป และรูปเทพองค์อื่นๆ
เรากลับออกมาจากการเดินชมอาคารและศาลาต่างๆด้านในของวัด และเริ่มเดินไปรอบๆวัดด้านล่าง ที่มีสระน้ำ “โฮโจ” เป็นศูนย์กลาง ล้อมรอบด้วยสวนสไตล์ญี่ปุ่น ใบไม้แดง สะพานหิน และศาลาแบบญี่ปุ่น
ปลาคราฟท์ และเป็ดน้อยที่ว่ายช้าๆไปรอบๆสระ ... เป็นความเคลื่อนไหวที่ชวนมองท่ามกลางสีสันสวยๆของใบไม้สีส้มเหลืองแดงสลับลาย
ต้นเมเปิ้ลในสวน มีจำนวนมากที่ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้มแดงไปแล้ว และอยู่ในช่วงที่พีคมาก
มุมในดวงใจ ... สระน้ำที่โอบล้อมด้วยต้นเมเปิ้ลหลายสี เจดีย์บนเขาที่มองเห็นไกลๆ เป็นฉากหลังที่สวยมากๆ
… เราใช้เวลาอย่างเพลิดเพลิน เดินชม และเก็บภาพอยู่ในดินแดนทะเลสีเพลิง อันประกอบด้วยใบเมเปิ้ลหลากสีด้วยความรื่นรมย์มากมาย
ด้านหนึ่งของสวนเมเปิ้ล มีร้านชาเขียวและขนมหวานญี่ปุ่นทานกับชาเขียว ว่ากันว่า ขนมและชาเขียวของเขาอร่อยมากๆ
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา