29 พ.ย. 2021 เวลา 10:00 • ท่องเที่ยว
Chapter 19 : Come And See Buriram
บุรีรัมย์ เมืองนี้เจ๋งใช่เล่น
เราได้มีโอกาสไปทำงานที่บุรีรัมย์ เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา บอกเลยว่าบุรีรัมย์ไม่เหมือนภาพที่เราคิดไว้เลย เค้าอยู่ติดประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศกัมพูชา เรียกว่าเป็นจังหวัดชายแดนเลยแหละ แต่เป็นเมืองที่ดูเจริญมาก สะอาดสะอ้าน ถนนหนทางดี และที่สำคัญคนที่นี่มีความรักในบ้านเกิดมากๆ ซึ่งเราขอชื่นชมเลย
ยอมรับว่าครั้งแรกที่คิดถึงจังหวัดบุรีรัมย์ เราคิดภาพไว้ว่าน่าจะเป็นเมืองที่ดูแห้งแล้งกันดารหน่อยๆ แต่สิ่งที่เราเห็นเมื่อเข้าไปถึงเมืองนี้คือ เมืองดูดีกว่าที่คิดไว้มาก มีโรงแรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย แค่ตอนเรา search Agoda เพื่อจองโรงแรมเราก็แปลกใจมากละที่มีตัวเลือกเยอะมาก แถมเป็นโรงแรมระดับสี่ห้าดาวเลยด้วย
เพราะที่เมืองบุรีรัมย์เค้าพยายามผลักดันให้เป็นเมืองแห่งกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชน และเค้าทำแบบจริงจังด้วยนะ บ้านเมืองเค้าถึงได้ดูเจริญมากขนาดนี้ ต้องยินดีกับคนบุรีรัมย์ด้วยที่มีพ่อเมืองเก่ง 😁👍
เราออกจากกรุงเทพฯ วันเสาร์ตอนประมาณ 8 โมงเช้า ขับมาเรื่อยๆ ถึงบุรีรัมย์ประมาณเที่ยงกว่าๆ กะลังหิวเลย พอมาถึงน้องที่รู้จักกัน เป็นคนบุรีรัมย์นามว่า "โจ๋" (ชื่อฟังดูกวนนะ แต่น้องเรียบร้อยยยยยเรียบร้อย 😁) ก็แนะนำว่าให้มาทานข้าวเที่ยงที่ร้านชื่อ มีไฮมีนา เลยพี่
มีไฮมีนา
มีไฮมีนาเป็นร้านส้มตำสุดกิ๊บเก๋ที่ตั้งอยู่กลางท้องนา concept ของร้านเหมือนว่าอยากจะเอาอะไรที่เป็นของพื้นๆ อย่างผ้าขาวม้าที่มีสีสันฉูดฉาด เครื่องจักรสานที่เป็นของท้องถิ่นมาเป็นวัสดุตกแต่งภายในร้าน ทำให้ร้านดูสวยแปลกตามาก
มีไฮมีนา
ทั้งเบาะรองนั่งและหมอนอิงก็ใช้ผ้าขาวม้าหุ้ม น่ารักมากๆเลย
รสชาติอาหารใช้ได้เลยนะ อร่อย สะอาด (ขออภัยที่ไม่มีรูปอาหาร หิวมาก 😁) บริการดี ราคาไม่แรงมาก
ที่สำคัญคือบรรยากาศของร้านที่ตั้งอยู่บนทุ่งนา ด้านหลังร้านจะมองเห็นทุ่งข้าวกว้างใหญ่สวยสบายตามาก แต่เสียดายว่าช่วงที่ไปอากาศร้อนมากๆ เข้าใจว่าทางร้านต้องการให้ลูกค้าได้บรรยากาศของทุ่งนาและธรรมชาติอย่างเต็มที่เลยไม่ทำห้องแอร์ ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะ นานๆ ทีคนกรุงเทพฯ อย่างเราจะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ ชอบๆ
มีไฮมีนา
แต่ที่ชอบสุดก็หน้าร้านนี่แหละ มีฟางข้าวที่ถูกตกแต่งให้เป็นรูปควาย 2 ตัว น่ารักมากๆ เลย ความครีเอทของเจ้าของร้านนี่ต้องยกนิ้วให้เลย 👍😁
หลังจากทานอาหารเสร็จพวกเราก็ไปทำงานกันต่อ เสร็จก็เย็นละถึงได้ check-in เข้าโรงแรม คราวนี้พวกเราพักกันที่โรงแรม Modena by Fraser ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามช้างอารีน่า โรงแรมดีมาก ใหม่ สะอาด facility ภายในห้องครบครัน
เย็นนั้นพวกเราออกมาทานอาหารเย็นกันที่ร้าน 2Bars ซึ่งน้องโจ๋เจ้าถิ่นเป็นคนแนะนำอีกแล้ว 😁
2Bars
ร้านนี้ก็เก๋อีกแล้ว เป็นเหมือนร้านลับอะไรประมาณนี้ ทางเข้าเป็นประตูที่ดูละไม่รู้เลยว่ากำลังเดินเข้าร้านอาหาร พอเข้าไปด้านในก็จะต้องขึ้นบันไดไปชั้น 2 ถึงจะเจอตัวร้าน หัวค่ำคนยังไม่มาก แต่พอเริ่มดึกบอกเลยคึกคักมากๆ มีดนตรีเล่นสดด้วย เสียงดังกำลังดีไม่ถึงกะหนวกหู ยังพอคุยกันได้รู้เรื่อง ระหว่างทานอาหารไปก็นั่งคุยโน่นนี่กันไป
โจ๋เล่าให้ฟังว่ามีโอกาสเข้าไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ และเริ่มต้นชีวิตการทำงานที่นั่น แต่พอนานวันไปก็เกิดความรู้สึกว่าชีวิตที่อยู่กรุงเทพฯ มันเหนื่อย มีแต่ความเร่งรีบ และตัวเองเริ่มมีความคิดว่าอยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิดตัวเอง
พอดีที่บ้านพอจะมีที่ทางเลยกลับมาทำรีสอร์ตเล็กๆไว้รับนักท่องเที่ยว โชคดีว่าทำเลอยู่ไม่ไกลจากสนามช้างอารีน่าเท่าไหร่ ก็เลยมีโอกาสได้ต้อนรับทีมนักกีฬาเยาวชนบ้าง นักกีฬาที่มาเก็บตัวแข่งบ้าง ซึ่งเวลามาทีนึงก็จะพักกันเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว ทำให้มีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ
ถึงแม้ช่วงนี้จะยังเจอมรสุม Covid ทำให้นักท่องเที่ยวหดหายไปมาก แต่ก็ยังพออยู่ได้เพราะกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักกีฬานี่แหละ
ตรงนี้เราว่าสิ่งที่พ่อเมืองบุรีรัมย์เค้าปูทางไว้มันค่อนข้างยั่งยืนเลย การที่จะทำให้เมืองเป็นเมืองแห่งกีฬาและการท่องเที่ยวได้มันต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย ทั้งนโยบายที่ดี การวางแผนที่ดี และการสื่อสารที่ดี เพื่อให้ได้รับความร่วมมือจากประชาชน
โจ๋เล่าว่าหากใครมีปัญหาสามารถปรึกษาพ่อเมืองได้เสมอ ซึ่งเค้ายินดีรับฟังพร้อมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อคนเริ่มเห็นว่าจังหวัดมีการพัฒนาปรับปรุง เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามา รายได้เริ่มมา ก็ยินดีให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆที่จังหวัดจัดขึ้น นี่แหละเค้าเรียกลงมือทำจริง ไม่เอาแต่พูด 👍 จบวันนี้ดีกว่า 😁
เช้าวันอาทิตย์ หลังจากเสร็จธุระปะปังที่ต้องมาทำแล้ว เราก็ไปแวะเที่ยวที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ซึ่งเราอยากไปมากกกก
เราเคยไปเที่ยวนครวัดนครธมที่กัมพูชาเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วและชอบมากๆ มันเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกยุคโบราณเลย
มันมีความทึ่งในความอัศจรรย์ของสิ่งก่อสร้างที่เกิดจากฝีมือคนสมัยก่อน และทึ่งในความศรัทธาของคนยุคนั้นที่ก่อให้เกิดงานสถาปัตยกรรมที่เป็นมรดกให้กับโลกได้ขนาดนี้ พอครั้งนี้ได้มาบุรีรัมย์ซึ่งก็มีงานสถาปัตกรรมที่คล้ายกัน งานนี้เราจะพลาดไม่ได้แน่ๆ
พอขับรถมาถึงเขตอุทยาน ก็จะเจอกะร้านขายของที่ระลึกมากมาย ซึ่งก็ซบเซาไปมากเพราะนักท่องเที่ยวน้อยลง
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
เดินไต่เขาไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอกับบันไดทางขึ้นตัวปราสาท
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
เห็นชัดๆ เต็มตาละ ปราสาทหินพนมรุ้งสวยอลังการมากๆ เลย แม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากเท่ากะที่กัมพูชา
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
เดินขึ้นไปข้างบนละมองลงมา อูววว สูงเหมือนกันนะ 😬
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นหนึ่งในปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา ประกอบไปด้วยโบราณสถานสำคัญ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
คำว่า "พนมรุ้ง" มาจากภาษาเขมร "วนํรุง" ซึ่งแปลว่าภูเขาใหญ่
ปัจจุบันปราสาทหินพนมรุ้งกำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา
ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกด้วย (ข้อมูลจาก wikipedia)
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
วันที่ไปโชคดีที่คนไม่เยอะมาก มีโอกาสได้ถ่ายรูปกันเต็มที่เลย
แม้อากาศจะร้อนและอบอ้าว แต่พอเข้าที่ร่มก็จะเจอกะลมเย็นสบายที่พัดมาเรื่อยๆ ช่วยให้หายเหนื่อยจากการเดินขึ้นมาได้พอสมควร
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
ด้านในตัวปราสาทจะมีกลิ่นมูลค้างคาวที่ฉุนหน่อย แต่ก็เพิ่มความขลังดี 😬
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
ตรงนี้มีรูปปั้นวัวซึ่งเป็นพาหนะของพระศิวะด้วย กลับมากรุงเทพฯ แล้วเพิ่งมีคนมาบอกว่า คนเค้านิยมมาขอพรกะน้องวัวตัวนี้ด้วย พลาดเลยเรา 🥴
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
ถ่ายมุมไหนก็สวยจริงๆ
หลังจากซึมซับกับสถานที่กันพอสมควรแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันละ เราใช้เวลาพอๆ กะขามา อ้อ มีแวะทานข้าวแถวเขาใหญ่อีกทีนึง เย็นนั้นถึงบ้านก็ประมาณ 6 โมงเย็น
สนุกดีนะ ทริปบุรีรัมย์ 2 วัน 1 คืน ได้ไปเมืองที่อาจจะไม่ค่อยได้มีโอกาสไป และที่สำคัญได้ไปปราสาทหินพนมรุ้งที่อยากไปมาตั้งนานแล้วด้วย ถือว่า mission accomplished 👌 (เสียดายว่าคราวนี้มีเวลาน้อยเพราะมาทำงาน)
ดีใจที่ได้เห็นเมืองอย่างบุรีรัมย์พัฒนาได้มากขนาดนี้ มีสนามกีฬาที่ได้มาตรฐานระดับโลกอย่างสนามช้างอารีน่าไว้จัดกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา
มีโรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่กำลังจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยว
มีคนท้องถิ่นที่มีความภูมิใจในจังหวัดของตัวเอง และอยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง ทุกอย่างรวมกันทำให้ทุกวันนี้บุรีรมย์มีความเจริญได้อย่างที่เห็น เยี่ยมมากค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ 😊
โฆษณา