11 พ.ย. 2021 เวลา 12:42 • ประวัติศาสตร์
• ยิ่งกว่าแฟรงเกนสไตน์!
1
พบกับการทดลองสุดสยอง ปลุกชีพคนตาย!?
แฟรงเกนสไตน์ (Frankenstein) นวนิยายที่เขียนโดยนักเขียนหญิงชาวอังกฤษ แมรี่ เชลลีย์ (Mary Shelley) นับได้ว่าเป็นหนึ่งในนวนิยายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก
นวนิยายเรื่องนี้ได้หยิบเอาเรื่องสยองขวัญไปผสมกับวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว กับแนวคิดในการปลุกชีพคนที่ตายไปแล้วโดยใช้กระแสไฟฟ้า แฟรงเกนสไตน์ได้รับการเผยแพร่ครั้งแรกในปี 1818
แต่ทุกคนเคยรู้หรือไม่ครับว่า ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่แฟรงเกนสไตน์ถูกเผยแพร่นั้น ได้มีนักวิทยาศาสตร์อยู่คนหนึ่ง ที่เขามีแนวความคิดคล้ายคลึงกับนวนิยายเรื่องนี้ นั่นก็คือการทำให้คนที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
1
แอนดรูว์ อูเร (Andrew Ure | 1778-1857) เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีชาวสกอตแลนด์ โดยอูเรมีความสนใจในศาสตร์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า กัลวานิซึม (Galvanism)
แอนดรูว์ อูเร
กัลวานิซึมเป็นศาสตร์ที่ถูกคิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีนามว่า ลุยจิ กัลวานี (Luigi Galvani) ซึ่งกัลวานิซึมคือศาสตร์ในการทำให้สิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วสามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง โดยการใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาทเพื่อให้ร่างนั้นกลับมามีชีวิต
1
ในช่วงแรก ๆ กัลวานิซึมจะทำการทดลองกับร่างของสัตว์ (กัลวานีทดลองกับกบ ส่วนนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ทดลองกับวัว รวมไปถึงแมว) ซึ่งตัวของอูเรถือว่าเป็นคนแรกที่จะทำการทดลองกับร่างของคนจริง ๆ
การทดลองของลุยจิ กัลวานี
ซึ่งร่างที่อูเรจะใช้ในการทดลองนั้น ก็คือร่างของแมธทิว ไคลเดสเดล (Matthew Clydesdale) นักโทษที่พึ่งถูกประหารชีวิตโดยการแขวนคอจากข้อหาฆาตกรรม
2
อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะสงสัยใช่ไหมว่า ทำไมอูเรสามารถนำร่างของนักโทษประหารมาใช้ทดลองได้ มันไม่ผิดหรือ?
คำตอบก็คือในตอนนั้น ทางการอังกฤษได้มีการประกาศใช้กฎหมายที่เรียกว่า พระราชบัญญัติฆาตกรรม (Murder Act) ซึ่งกฎหมายนี้อนุญาตให้สามารถนำร่างของอาชญากรที่ถูกประหารชีวิต ไปใช้ทดลองทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้
6
เมื่อทุกอย่างพร้อม ในวันที่ 4 กันยายน 1818 อูเรก็ได้ทำการทดลอง โดยมีผู้มาชมการทดลองนี้เป็นจำนวนมาก
1
ขั้นตอนการทดลองของอูเร เริ่มต้นจากเขาได้ใช้มีดผ่าตัดกรีดไปที่บริเวณปลายนิ้วมือ สะโพก คอ และส้นเท้าบนร่างไคลเดสเดล จากนั้นเขาก็นำสายไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่แทงเข้าไปในรอยกรีดดังกล่าว
1
อูเรเชื่อว่ากระแสไฟฟ้าจะเข้าไปกระตุ้นเส้นประสาทฟรีนิก (Phrenic nerve) ซึ่งจะทำให้ร่างของไคลเดสเดลขยับเขยื้อนและมีชีวิตอีกครั้ง
และถ้าการทดลองนี้ประสบความสำเร็จ วิธีดังกล่าวจะสามารถนำไปใช้กับผู้ที่เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ จมน้ำ รวมไปถึงถูกแขวนคอได้
ส่วนผลการทดลองนั้น ก็เรียกได้ว่าสร้างความอกสั่นขวัญผวาให้กับผู้ที่ชมการทดลอง นั่นก็เพราะร่างของไคลเดสเดลที่มีสายไฟเสียบเข้าไปนั้น สามารถขยับเขยื้อนยกแขนไปมา มือของไคลเดสเดลได้ชี้ไปที่ผู้ชมการทดลอง ใบหน้ายังสามารถเคลื่อนไหว ดวงตาเบิกโพลง
1
มีการบันทึกว่า ผมชมการทดลองในวันนั้นต่างพากันหวาดกลัว บางคนวิ่งหนี และบางคนก็ถึงขั้นเป็นลมสลบไปเลยก็มี
ผู้ชมการทดลองพากันวิ่งหนีและหวาดกลัว
แม้ว่าการทดลองจะสร้างความสยองขวัญเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายไคลเดสเดลก็ไม่สามารถกลับมามีชีวิตได้อีก โดยอูเรก็ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะร่างของไคลเดสเดลมีความเสียหายมากเกินไป จนทำให้ไม่สามารถชุบชีวิตได้อีก
2
นอกเหนือจากอูเร ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกหลายคน ที่พยายามทดลอง Galvanism กับร่างของมนุษย์ แต่ทั้งหมดก็พิสูจน์แล้วว่ามันไม่เวิร์ค
บรึ๊ย! สยองขวัญเป็นบ้าเลย
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา