Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Open education system
•
ติดตาม
11 พ.ย. 2021 เวลา 12:20 • การศึกษา
การรู้จักและเข้าใจตนความแตกต่างระหว่างบุคคล
ความแตกต่างระหว่างบุคคล
-มนุษย์มีความแตกต่างกันทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ทางด้านร่างกาย เช่น สีผิว สีของนัยน์ตา สีผม ความสูงของร่างกาย ฯลฯ ทางด้านจิตใจ เช่น เจตคติ การจูงใจ อารมณ์ ฯลฯ ในการเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ควรศึกษาถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
ความแตกต่างระหว่างบุคคล
ความแตกต่างระหว่างบุคคล มี 2ประเภท
1.ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Inter –individual differences) หมายถึง ความแตกต่างทางลักษณะและคุณสมบัติต่างๆ ระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ความแตกต่างนี้อาจเป็นความแตกต่างทางเชาวน์ปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ หรือความแตกต่างชนิดอื่น
2. ความแตกต่างภายในตัวบุคคล (Intra –individual differences) หมายถึง บุคคลแต่ละบุคคลมีความแตกต่างภายในตัว เช่น นักเรียนบางคนมีความสามารถทางคณิตศาสตร์สูง แต่อาจมีความสามารถทางภาษาต่ำ
ความแตกต่างระหว่างบุคคลเกิดจากปัจจัยที่ส่าคัญ 2 ประการ คือ พันธุกรรม (Genetics) และสิ่งแวดล้อม (Environment)
1.พันธุกรรม (Genetics) หมายถึง สิ่งที่ได้รับถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ และสิ่งที่ถ่ายทอดจะส่งต่อไปยังลูกหลานรุ่นต่อๆ ไปด้วยวิธีการสืบพันธุ์
-เมื่อเกิดการปฏิสนธิเกิดขึ้น นิวเคลียสของไข่และอสุจิจะรวมกันในไข่ประมาณ 24ชั่วโมง ภายในนิวเคลียสของไข่และอสุจิจะประกอบด้วยโครโมโซม (Chromosomes) ของแต่ละฝ่าย ฝ่ายละ 23 โครโมโซม หลังจากนั้นโครโมโซมของทั้งสองฝ่ายจะมารวมกันได้ 46 โครโมโซม 23 คู่โดย 22 คู่แรก เรียกว่า ออโตโซม (Autosome) เป็นโครโมโซมที่ควบคุมลักษณะและหน้าที่ของร่างกาย ส่วนคู่ที่ 23 เรียกว่า โครโมโซมเพศ (Sex chromosome)
-ผู้หญิงจึงมีโครโมโซม 22 คู่ + XX
-ผู้ชายจึงมีโครโมโซม 22 คู่ + XY
1.1การศึกษาการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ฟีโนไทป์(Phenotype) และ จีโนไทป์ (Genotype)
1.1.1 ฟีโนไทป์ (Phenotype) คือลักษณะที่ปรากฏให้เห็นภายนอกซึ่งเป็นผลมาจากยีน เช่น ความสูง สีผิว สีตา สีผม ฯลฯ
1.1.2 จีโนไทป์ (Genotype) คือลักษณะของยีนที่อยู่ภายใน จะอยู่กันเป็นคู่ๆแทนยีนที่ควบคุมลักษณะเด่น (Dominant Genes) และใช้อักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็กแทนยีนที่ควบคุมลักษณะด้อย (Recessive Genes)เช่น TT, Tt และ tt แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
1.1.2.1 พันธุ์แท้ (Homozygous) คือ ลักษณะของจีโนไทป์ที่มียีนทั้งคู่เหมือนกัน ซึ่งอาจเป็นยีนที่มีลักษณะเด่นทั้งคู่ เช่น TT, RR หรือแสดงลักษณะด้อย เช่น tt, rr
1.1.2.2 พันธุ์ทาง (Heterozygous) คือ ลักษณะของจีโนไทป์ ที่มียีนทั้งคู่แตกต่างกัน ยีนที่ต่างกันจะมี 2 ลักษณะ คือ ยีนที่มีลักษณะเด่นและยีนที่มีลักษณะด้อย โดยมียีนแสดงลักษณะเด่น 1 ยีน และแสดงลักษณะด้อย 1 ยีน เช่น Tt, Rr ฯลฯ
ลักษณะต่างๆ ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
1.2.1 ลักษณะทางกาย (Physical Characteristics)พันธุกรรมในการกำหนดลักษณะทางกาย เช่น สีผิว ใบหน้า สีของนัยน์ตา
1.2.2 โรคทางกายบางชนิด (Disease) เช่น โรคเบาหวาน โรคโลหิตไหลไม่หยุด
1.2.3 ความพิการทางสมอและปัญญาอ่อน (Brain Damage)
โครงสร้างของโครโมโซมที่ผิดปกติอาจท่าให้สมองพิการและสามารถถ่ายทอพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการดาวน์ (Down’s syndrome)
-กลุ่มอาการนี้เกิดจากโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1โครโมโซม ท่าให้มีโครโมโซมทั้งหมด 47 โครโมโซม
1.2.4 ความผิดปกติทางจิต (Mental Disorder) โรคจิตที่ได้รับความสนใจว่าเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมมากที่สุด คือ โรคจิตเภท (Schizophrenia) และโรค
อารมณ์แปรปรวน (Affective Disorders)
1.2.4.1 โรคจิตเภท (Schizophrenia) หมายถึง บุคคลที่มีพฤติกรรมผิดปกติจากความหลงผิด มีการรับรู้ที่คลาดเคลื่อน ประสาทหลอน บุคคลจะแสดงอารมณ์ไเหมาะสมกับเหตุการณ์ขณะนั้น
1.2.4.2 โรคอารมณ์แปรปรวน (Affective Disorders) หมายถึง บุคคลที่มีความผิดปกติทางอารมณ์ บางครั้งมีอารมณ์เศร้า หดหู่ และอาการเพ้อคลั่งสลับกัน
สภาพเเวดล้อม
2.สิ่งแวดล้อม (Environment) หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น อุณหภูมิ แสง เสียง อาหาร ยา การออกก่าลังกาย ฯลฯ และสิ่งแวดล้อมภายใน เช่น ระดับฮอร์โมน เพศ อายุ ฯลฯ
2.1 สิ่งแวดล้อมก่อนคลอด (Prenatal Environment)บุคคลเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา อิทธิพลทางร่างกายและอารมณ์ของมารดามีผลต่อลูกในครรภ์
2.1.1 การรับประทานอาหารของมารดา หากมารดาขาดสารอาหารอาจท่าให้ทารกมีความบกพร่องทางสมองหรือร่างกายมีการเจริญเติบโตผิดปกติ อารมณ์ไม่มั่นคง ขาดสมาธิ สุขภาพอ่อนแอ
2.1.2 สุขภาพของมารดา สุขภาพของมารดามีผลมากที่สุดต่อทารกในครรภ์ มารดาที่มีน้่าหนักตัวน้อยหรือมากเกินไป มีโรคประจ่าตัว โรคติดเชื้อ โรคเรื้อรัง หรือโรคติดต่อร้ายแรงเช่น โรคเอดส์ สามารถถ่ายทอดจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ได้
2.1.3 ยาและรังสีต่างๆ เช่น Thalidomide ที่ใช้รักษาอาการอักเสบทางผิวหนังหรือมะเร็งบางชนิด ถ้าใช้ในระหว่าง 3เดือนแรกของการตั้งครรภ์จะท่าให้ทารกในครรภ์มีกระดูกแขนขาไม่สมบูรณ์หรือพิการได้
2.1.4 แอลกอฮอล์และบุหรี่ มารดาตั้งครรภ์ที่ดื่มแอลกอฮอล์บ่อยครั้งและในปริมาณที่มาก แอลกอฮอล์จะท่าลายพัฒนาการทางร่างกายและสมองของทารกในครรภ์ ส่วนการสูบบุหรี่หากมารดาตั้งครรภ์สูบบุหรี่จะส่งผลกระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจและภาวะเคมีในเลือดของทารกในครรภ์
2.1.5 อายุของมารดา ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 30ปี ประสิทธิภาพของฮอร์โมนและสรีระต่างๆ ลดลงจะมีความเสี่ยงต่อความผิดปกติของทารกในครรภ์สูงกว่าหญิงวัยเจริญพันธุ์ซึ่งมีอายุระหว่าง 21 –30ปี2.1.6 อารมณ์ของมารดา อารมณ์ของมารดาขณะตั้งครรภ์มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์โดยเฉพาะพัฒนาการทางอารมณ์ของทารก
2.2 สิ่งแวดล้อมขณะคลอด (Perinatal Environment) ขณะคลอดร่างกายหรือสมองทารกอาจได้รับอันตรายเนื่องจากการคลอดผิดปกติ เช่น การใช้เครื่องมือช่วยคลอด การบีบรัดของช่องคลอด หรือความผิดปกติจากท่าคลอด
2.3 สิ่งแวดล้อมหลังคลอด (Postnatal Environment) ได้แก่ บ้าน โรงเรียน สื่อมวลชน สถานภาพทางสังคม ศาสนา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และระดับการศึกษา
2.3.1 ครอบครัว ครอบครัวเป็นรากฐานเบื้องต้นของการสร้างชีวิตมนุษย์ ครอบครัวที่อบอุ่นไปด้วยความรัก ความเข้าใจ การยอมรับ การยกย่อง ความมีเหตุผล
2.3.1.1 การเลี้ยงดูแบบปกป้องมากเกินไป (Over protection) ลักษณะของครอบครัวแบบนี้จะรักลูกและทะนุถนอมมากเกินไปจนทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้แก่เขา มองเขาเป็นเด็กเล็กๆ ตลอดเวลา
2.3.1.2 การเลี้ยงดูแบบไม่ยอมรับ (Rejection) ลักษณะของครอบครัวแบบนี้ บิดามารดาขาดความพร้อมที่จะรับผิดชอบ ท่าให้ไม่ต้องการลูกที่จะเกิดมาส่งผลต่อบุคลิกภาพที่แสดงออกแบบก้าวร้าว โกรธ ต่อต้านสังคม มีความระแวงไม่ไว้ใจผู้อื่น
2.3.1.3 การเลี้ยงดูแบบอัตตาธิปไตย (Authoritarian) ลักษณะของครอบครัวแบบนี้เป็นการเลี้ยงดูเปี่ยมด้วยความรัก คอยสนับสนุน แนะแนวทางแบบเข้มงวดกวดขันจากบิดามารดา
2.3.1.4การเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย (Laissez -faire) ลักษณะของครอบครัวแบบนี้ บิดามารดาให้ความเป็นอิสระแก่ลูกมากเกินไป มุ่งแต่การทำงานหารายได้ให้แก่ครอบครัว จึงชดเชยความรักให้แก่ลูกโดยให้เงินทองและวัตถุที่ลูกต้องการ
2.3.1.5 การเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย (Democracy) ลักษณะครอบครัวนี้เป็นการเลี้ยงดูโดยใช้เหตุผล บิดา มารดา ลูก และสมาชิกทุกคนในครอบครัวมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
2.3.2 โรงเรียน คุณครูและเพื่อนๆ จึงมีอิทธิพลกับพฤติกรรมของเด็ก โดยคุณครูจะต้องเป็นผู้ให้ความรู้ อบรมสั่งสอน ปลูกฝังจิตส่านึกคุณธรรมจริยธรรม
-สื่อมวลชน ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต ภาพยนตร์ นิตยสาร ฯลฯสื่อมวลชนมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลง การปลูกฝัง ลบล้าง เสริมสร้างเจตคติหรือพฤติกรรมบางอย่างของมนุษย์ทั้งทางบวกและทางลบ
-ความสัมพันธ์ระหว่างพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อมจะมีบทบาทในการควบคุมลักษณะของบุคคลที่แสดงออกมาให้เห็น (Phenotype) ของยีนแตกต่างกันในแต่ละลักษณะบางลักษณะ
สรุป
พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมมีความส่าคัญอย่างมากในความแตกต่างระหว่างบุคคล แต่พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์กันในลักษณะพึ่งพาอาศัยกัน จึงทำให้แต่ละบุคคลมีรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ สติปัญญา บุคลิกภาพ และสุขภาพ แตกต่างกันออกไป
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย