13 พ.ย. 2021 เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Asset allocation ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง
2
แน่นอนว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงและความผันผวน การกระจายความเสี่ยงจึงมักเป็นคำแรกๆ ที่หลายคนต้องเคยผ่านหูมาบ้างอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่มาก ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการกระจายความเสี่ยงหรือ Asset allocation กันครับ
การกระจายความเสี่ยงคือการที่ลดความผันผวนของการลงทุนด้วยการกระจายการลงทุนไปในหลากหลาย “สินทรัพย์” โดยที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่า Asset allocation คือการกระจายลงทุนใน “หุ้น” โดยกระจายในทุกอุตสาหกรรมหรือกระจายไปในหลายประเทศ ซึ่งไม่ถูกต้องนัก
เพราะยังคงเป็นสินทรัพย์เพียงชนิดเดียวคือ หุ้น เท่านั้น หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหุ้นทั่วโลกมีผลตอบแทนตกต่ำพร้อมกันจะทำให้พอร์ตการลงทุนของเราร่วงหล่นอย่างรุนแรง เรียกได้ว่า เวลาขึ้นอย่างเร้าใจเวลาลงต้องปาดน้ำตาเลยครับ
การหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ขึ้นสุดลงสุดแบบนี้ นั่นก็คือการกระจายความเสี่ยงครับ โดยกระจายไปลงทุนทั้งใน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ตราสารหนี้และอื่นๆ โดยจะแบ่งอัตราส่วนตามแบบประเมินความเสี่ยง (TSI Risk Profile Questionnaire) ซึ่งสามารถประเมินได้จาก https://www.set.or.th/education/th/online_classroom/risk.html
ซึ่งมีประโยชน์มากๆ ในการกระจายความเสี่ยงแบบง่ายๆ อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ พี่ๆ ไปประเมินกันดูครับ
จากข้อมูลของ Novel Investor จะเห็นได้ว่าเขาได้ทำการติดตามผลตอบแทนของการลงทุนแต่ละรูปแบบในช่วง 15 ปี ที่ผ่านมา โดยที่ AA (Asset allocation) ใช้อัตราส่วน 15% หุ้นขนาดใหญ่, 15% หุ้นต่างประเทศ, 10% หุ้นขนาดเล็ก, 10% หุ้นตลาดเกิดใหม่, 10% REITs, 40% พันธบัตรคุณภาพดี และปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนทุกปี
จะเห็นได้ว่าหุ้นและ REITs มีความผันผวนสูง ข้อดีคือผลตอบแทนสูงแต่เมื่อถึงเวลาขาดทุนก็เจ็บหนักเช่นเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับ AA แล้ว จะสังเกตได้ว่าการกระจายความเสี่ยงนั้นจะไม่หวือหวาเท่าไรนัก เนื่องจากคล้ายกับนำทุกสินทรัพย์มาเฉลี่ยผลตอบแทนกัน ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ตัวเลขผลตอบแทนในช่วง 15 ปี ที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 7% ต่อปี ถือว่าไม่น่าเกลียดเลยทีเดียวครับในการวางแผนความมั่งคั่ง
แต่แน่นอนว่าการกระจายความเสี่ยงก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากจะเปรียบง่ายๆก็เหมือนกระโดดอยู่บนเตียง ยิ่งเตียงนุ่มเท่าไรความสูงของการกระโดดก็ยิ่งทำได้น้อยลงเท่านั้นแต่เมื่อกระโดดพลาดก็ไม่เจ็บตัวมากนัก ยังนอนหลับได้สบาย
เช่นเดียวกันกับการกระจายความเสี่ยงหากมีสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงน้อยอยู่มาก ผลตอบแทนก็จะต่ำแต่ความผันผวนก็จะต่ำไปด้วย กลับกันหากมีสินทรัพย์ที่ผันผวนสูงในสัดส่สนที่มากขึ้นย่อมมีผลตอบแทนที่ดีขึ้นแต่มาพร้อมกับการแบกรับความเสี่ยงและต้องมีความสามารถที่สูงด้วยครับ
ดังนั้นไม่ว่าจะลงทุนสไตล์ใดก็ตามสิ่งสำคัญคืออย่าประเมินตัวเองสูงเกินไปและต้องรู้จักตัวเองดีพอว่ามีนิสัยอย่างไร นอนหลับได้หรือไม่หากขาดทุนเกิน 20% ลองชั่งน้ำหนักดูนะครับ และอย่าลืมประเมินความเสี่ยงที่รับได้แบบง่ายๆ ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ด้วยนะครับ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่วยปรับอัตราส่วนการลงทุนได้ดีทีเดียว ขอบคุณมากครับ
"การลงทุนมีความเสี่ยง แต่หากมีความรู้มากขึ้นก็สามารถลดความเสี่ยงได้นะครับ"
1
โฆษณา