12 พ.ย. 2021 เวลา 14:32 • ความคิดเห็น
รู้จักกับ “5th Freedom” อีกหนึ่งเสรีภาพทางอากาศที่น่าสนใจ ผ่านการเปิดเส้นทางใหม่ของ Scoot จากกรุงเทพ-ลอนดอน
วันนี้มีข่าวการเปิดเส้นทางบินใหม่ที่น่าสนใจของสายการบิน Scoot สายการบินต้นทุนต่ำในกลุ่ม Singapore Airlines Group (SIA) ที่ประกาศทำการบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังท่าอากาศยานลอนดอนแกตวิค ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 787 Dreamliner
สายการบิน Scoot เป็นสายการบินสัญชาติสิงคโปร์ ทำไมถึงมาทำการบินในเส้นทางระหว่างสองประเทศที่ไม่ใช่ฐานการบินของตัวเองที่จดทะเบียนไว้ได้? คำตอบคือ….เป็นเพราะมีสิ่งที่เรียกว่า “5th Freedom” ซึ่งเป็นหนึ่งในเสรีภาพทางอากาศหรือ Freedom of the air
📌ก่อนอื่นเรามารู้จักกับเสรีภาพทางอากาศกันก่อน
เสรีภาพทางอากาศหรือ Freedom of the air เป็นสิทธิเชิงพาณิชย์ที่กำหนดให้สายการบินต่างๆสามารถบินผ่านและลงจอดได้ในน่านฟ้าของรัฐอื่น โดยกำหนดไว้ใน Convention on International Civil Aviation หรือที่รู้จักกันในชื่อ Chicago Convention ที่ถือเป็นจุดกำเนิดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศหรือ ICAO ในปัจจุบัน
📌โดยมีการกำหนดเสรีภาพในการบินไว้ 9 ข้อดังนี้
- เสรีภาพที่ 1 (1st Freedom) สิทธิในการบินผ่านน่านฟ้าของรัฐอื่นโดยไม่ลงจอด
- เสรีภาพที่ 2 (2nd Freedom) สิทธิในการลงจอดทางเทคนิคในอาณาเขตของรัฐอื่น เช่นการซ่อมบำรุง เติมน้ำมัน
- เสรีภาพที่ 3 (3rd Freedom) สิทธิในการลงจอดในอาณาเขตของรัฐอื่น โดยทำการบินจากอาณาเขตของรัฐเจ้าของสายการบินนั้นๆ
- เสรีภาพที่ 4 (4th Freedom) สิทธิในการบินกลับมาลงจอดจากอาณาเขตของรัฐอื่น
- เสรีภาพที่ 5 (5th Freedom) สิทธิในการบินระหว่างสองรัฐ โดยมีต้นทางหรือปลายทางเป็นรัฐเจ้าของสายการบิน
- เสรีภาพที่ 6 (6th Freedom) สิทธิในการบินระหว่างสองรัฐ โดยแวะพักที่รัฐเจ้าของสายการบิน ซึ่งไม่ใช่การแวะพักทางเทคนิค (มีการออกเสรีภาพที่ 6 ฉบับแก้ไข คือการบินระหว่างสองจุดหมายในรัฐเดียว โดยแวะพักที่รัฐเจ้าของสายการบิน)
- เสรีภาพที่ 7 (7th Freedom) สิทธิในการบินระหว่างสองรัฐ โดยไม่เกี่ยวข้องกับรัฐเจ้าของสายการบิน
- เสรีภาพที่ 8 (8th Freedom) สิทธิในการบินเส้นทางภายในรัฐอื่น โดยมีต้นทางจากรัฐเจ้าของสายการบิน
- เสรีภาพที่ 9 (9th Freedom) สิทธิในการบินเส้นทางภายในรัฐอื่น โดยไม่เกี่ยวข้องกับรัฐเจ้าของสายการบิน
เสรีภาพทางอากาศทั้ง 9 จาก ICAO
📌สำหรับเสรีภาพที่เราคุ้นเคยกันก็คือเสรีภาพที่ 1-5 นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น
เส้นทาง กรุงเทพ-สิงคโปร์ ทำการบินโดยการบินไทย
- บินผ่านน่านฟ้ามาเลเซีย เป็นการใช้เสรีภาพที่ 1
- บินจากกรุงเทพ ลงจอดที่สิงคโปร์ เป็นการใช้เสรีภาพที่ 3
- บินกลับจากสิงคโปร์ ลงจอดที่กรุงเทพ เป็นการใช้เสรีภาพที่ 4
- ถ้าระหว่างทางต้องลงจอดเพื่อซ่อมบำรุงหรือเติมน้ำมันที่มาเลเซีย ก็จะเป็นการใช้เสรีภาพที่ 2
สำหรับเสรีภาพที่ 5 นั้น ตัวอย่างที่เป็นข่าวใหญ่ในวันนี้คือสายการบิน Scoot ที่เปิดเส้นทางจากกรุงเทพสู่ลอนดอน โดยเที่ยวบินนี้เดินทางออกมาจากสิงคโปร์ แวะพักที่กรุงเทพ ก่อนบินต่อไปยังลอนดอน และเมื่อเป็นการใช้เสรีภาพที่ 5 แล้ว สายการบินสามารถให้ผู้โดยสารขึ้นและลงที่จุดพักได้ หมายความว่าสายการบินจะสามารถขายบัตรโดยสารได้ทั้ง สิงคโปร์ - กรุงเทพ/กรุงเทพ - ลอนดอน รวมถึง สิงคโปร์ - ลอนดอน โดย Scoot ก็เคยทำการบินลักษณะนี้แล้วในช่วงก่อนการแพร่ระบาดในเส้นทาง สิงคโปร์-กรุงเทพ(ดอนเมือง)-โตเกียวและโอซาก้า
ลงที่ LGW ไม่ใช่ LHR
โดยการใช้เสรีภาพที่ 5 นั้นแพร่หลายมาอย่างยาวนาน ในปัจจุบันก็มีสายการบินใช้กรุงเทพเป็นจุดแวะพักก่อนจะบินต่อไปยังจุดหมายอื่นๆ อาทิ
- สายการบิน KLM ทำการบินจากอัมสเตอร์ดัม แวะพักที่กรุงเทพ ก่อนจะบินต่อไปยัง ไทเป ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ มะนิลา
- สายการบิน Emirates, Ethiopian, Turkish Airlines ทำการบินจากฐานการบินของตนเอง แวะพักที่กรุงเทพ ก่อนจะบินต่อไปยังฮ่องกง
การบินไทยในอดีต ก็มีการใช้เสรีภาพที่ 5 หลายเที่ยวบิน ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพ-ไทเป-โซล/กรุงเทพ-การาจี-มัสกัต/กรุงเทพ-โซล-ลอสแอนเจลิส/กรุงเทพ-เอเธนส์-โรม เป็นต้น
ในส่วนของเสรีภาพข้อท้ายๆ เช่น การบินระหว่างสองรัฐที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐเจ้าของสายการบิน หรือการบินเส้นทางภายในรัฐอื่นนั้น พบได้มากในกลุ่มประเทศที่มีการเปิดเสรีการบินแบบเต็มตัว เช่น ในกลุ่มสหภาพยุโรป….ถ้าใครนึกไม่ออกให้ลองดูเครือข่ายการบินของสายการบิน Ryanair แล้วจะเห็นภาพได้ทันที
ฐานการบินของสายการบิน Ryanair ที่มีกระจายอยู่ทั่วยุโรป ทั้งๆที่เป็นสายการบินสัญชาติไอร์แลนด์
ทั้งนี้ การจะเปิดเส้นทางบินใหม่นั้น ไม่ได้มีแค่เสรีภาพทางอากาศที่ต้องคำนึง กล่าวคือ ไม่ใช่แค่เข้าเสรีข้อใดแล้วจะสามารถทำการบินได้ แต่ยังขึ้นอยู่กับสิทธิการบิน การจัดสรรเวลาบิน(Slot) นโยบายของประเทศปลายทาง นโยบายระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความตกลงระหว่างประเทศทั้งแบบทวิภาคี/พหุภาคี เป็นต้น
โฆษณา