“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนูรักพ่อกับแม่นะ”
เป็นคำพูดที่ฟังแล้วก็รู้สึกถึงความอบอุ่นหัวใจแต่ก็แอบแฝงไปด้วยความเศร้า
บางอย่าง แต่ถ้าหากนี่เป็นข้อความสุดท้ายจากคนที่คุณรักที่สุดก่อนที่เขาจะจากไปล่ะ มันจะเศร้าได้ถึงขนาดไหนกัน… วันนี้ dekflimอยากเล่าหนัง จะมาเล่าความรู้สึกที่ได้ดูภาพยนตร์อนิเมชันสั้นจาก Netflix ที่มีชื่อว่า....
“if anything happens I love you”
credit: https://nashuproar.org/38986/arts/a-review-of-if-anything-happens-i-love-you/
ภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องนี้มีความยาวเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้น!!!
เขียนบทและกำกับโดย คุณ Will McCormack และคุณ Michael Govier ตอนแรกที่ผมได้เห็นอนิเมชันเรื่องนี้ผมก็สงสัยนะครับว่า "มันจะสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีแค่ไหนกัน?" เพราะมันสั้นมากๆ เพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้น แต่เมื่อผมได้ลองสัมผัส ลิ้มรสชาติของอนิเมชันเรื่องนี้ จากตอนแรกที่ผมคิดว่า มันคงเป็นแค่อนิเมชัน
ธรรมดาๆเรื่องนึง แต่ปรากฏว่ามันกลับกลายเป็นเพชรเม็ดงามแห่งวงการภาพยนตร์อนิเมชันขนาดสั้นเลยทีเดียว
เรื่องย่อของอนิเมชันเรื่องนี้ บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่สูญเสียลูกสาวแท้ๆของตัวเอง จากเหตุการณ์กราดยิงภายในโรงเรียน ต้องบอกไว้ตรงนี้ว่าที่ต่างประเทศนั้นมีเหตุการณ์นี้บ่อยเอามากๆ จากการที่ผมไปหาข้อมูลอ่านข่าวต่างๆมา พบว่ามีเยอะมากๆจนผมตกใจ เพราะส่วนตัวแล้วตัวแล้วผมคิดว่าสถานศึกษาเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยจากสิ่งอันตรายต่างๆ ซึ่งตัวผู้ปกครองหรือคุณพ่อ คุณแม่ ต่างก็ไว้ใจให้ทางโรงเรียนดูแลลูกของตน แต่ไม่ว่าสถานศึกษาแห่งนั้นจะมีระบบการรักษาความปลอดที่ดีแค่ไหนก็ยังสามารถมีโอกาสเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ มันทำให้ผมฉุกคิดขึ้นได้ว่า ถ้าอย่างนั้นที่ไหนกันล่ะที่ปลอดภัยสำหรับเด็กเหล่านี้?
โดยรวมแล้วอนิเมชันเรื่องนี้สื่อออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ การนำเสนอโดยที่ไม่มี dialogue หรือบทพูดทำผมรู้สึกว่ามันทำให้ซึมซับได้ดีมากๆเลยทีเดียว การที่ได้ดูเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นผ่านภาพเหล่านั้นแล้วให้เราได้พินิจพิเคราะห์กันเอาเอง โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันทำให้ผมอินกว่าเรื่องอื่นๆที่ผมได้ดูมา ถ้าจะให้คะแนนทีมเขียนบทและผู้กำกับผมกล้าให้พวกเขาแบบ 10/10 ไปเลยครับ การลำดับภาพต่างๆ รวมไปถึงการเล่าเรื่องที่กระชับและเข้าใจได้ง่ายไม่ต้องอาศัยการตีความเยอะ เพราะในช่วงท้ายของเรื่องจะมีการอธิบายเหตุการณ์หรือสิ่งของต่างๆในฉากว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไรอย่างชัดเจนและดึงอารมณ์ของผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด สำหรับผมถ้าจะให้แนะนำว่าควรจะดูดีหรือไม่สำหรับ
"if anything happens I love you" ผมขอบอกได้คำเดียวเลยครับว่า ถ้าคุณได้ดูเรื่องนี้คุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
คำเตือน!!!
บทความหลังจากนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อหาของอนิเมชันเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้ง หากใครยังไม่ได้ดูหรือคิดจะไปดู ผมแนะนำให้ไปดูก่อนแล้วเราค่อยมาแชร์ความรู้สึกกันใน block ของผมละกันนะครับ
- ★เรื่องราวเปิดมาที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งบรรยากาศภายในบ้านนั้นไม่ค่อยจะอบอุ่นสักเท่าไหร่นัก มีแต่บรรยากาศแห่งความเศร้าคละคลุ้งเต็มไปหมด เราก็คงจะเดาๆกันได้ว่าต้องมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ๆ ซึ่งแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้ปริปากพูดคุยกันเลยแม้แต่น้อย แต่อนิเมชันก็ทำให้เราเห็นว่า จิตใต้สำนึกของทั้งคู่ต่างโทษกันไปกันมาถึงเหตุการณ์ที่ต้องเสียลูกสาวไปว่าเป็นความผิดของใครกันแน่ ในช่วงเวลาแบบนี้ผมคิดว่าเราควรจะให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อก้าวข้ามผ่านเหตุการณ์อันเลวร้าย แต่ตัวละครที่เป็นพ่อนั้น ยังไม่สามารถทำใจได้ ก็เลยหนีออกมานอกบ้านแทน ทั้งที่ตัวแม่นั้นพยายามจะชวนคุยด้วยแท้ๆ
- ★บรรยากาศในบ้านนั้นเศร้าหมองไปหมด ดอกไม้ที่เคยบานสะพรั่ง ตอนนี้กลับเหี่ยวเฉาไร้เรี่ยวแรงเหมือนกับความรู้สึกอันเจ็บปวดของคู่สามีภรรยาคู่นี้ ฉากนี้จะทำให้เห็นถึงความทรงจำต่างๆที่ผ่านมาในวันที่ลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ ซีนนึงที่คุณแม่กำลังจะซักผ้าแล้วมีเสื้อของลูกสาวติดมาด้วยทำให้ผมน้ำตาแตกเลยครับ แต่จู่ๆในขณะที่ทั้งคู่กำลังจมอยู่กับความเศร้า ก็ได้มีเพลงหนึ่งดังขึ้นมาจากห้องของลูก ทำให้ทั้งสองได้เข้ามายังห้องนี้อีกครั้ง ซึ่งผมคาดว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้เข้ามายังห้องนี้อีกครั้งหนึ่ง
- ★ฉากหลังจากนี้จะเป็นการเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านๆมาของตัวลูกสาวอันล่วงลับของพวกเขา ผมคาดว่านี่อาจจะเป็นการพูดคุยกันเองของทั้งสอง แต่อินเมชันเรื่องนี้เลือกที่จะถ่ายทอดผ่านภาพเพียงอย่างเดียว ซึ่งผมกับมองว่ามันมี impact เอามากๆเลย จนมาถึงซีนๆนึง เป็นซีนที่ลูกสาวจะต้องไปโรงเรียน ซึ่งผมคิดว่าจิตใต้สำนึกของพ่อกับแม่พยายามจะรั้งลูกสาวเอาไว้ไม่ให้ไปโรงเรียน แต่ก็นั้นแหละครับ มันเป็นแค่ความทรงจำเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว และเมื่อเหตุการณ์อันน่าสลดนั้นเกิดขึ้นก็ทำให้เรารู้ถึงสาเหตุว่าทำไมตัวของพ่อแม่นั้นถึงไม่มีความสุขเลย
credit:https://thetab.com/uk/2020/11/24/song-in-if-anything-happens-i-love-you-183880
- ★ซึ่งซีนย้อนอดีตนี้จะมีจิตใต้สำนึกของตัวลูกสาวด้วยผมเดาว่า น่าจะเป็นความรู้สึกทางบวกของทั้งคู่นะครับ เพราะหลังจากที่ทั้งคู่นั้นเดินจากไปตัวลูกสาวที่เป็นความคิดด้านบวกพยายามจะรั้งทั้งคู่เอาไว้ ซึ่งก็สำเร็จแล้วภาพสุดท้ายที่ได้เห็นก็คือภาพของดวงอาทิตย์ดวงโตที่มีรอยยิ้มของลูกสาวอยู่บนนั้น ก็เปรียบเสมือนว่าทั้งคู่ต่างก็เริ่มทำใจยอมรับเหตุการณ์นี้ได้แล้ว แต่ก็คงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ต้องใช้เวลากันต่อไป
โดยรวมภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องนี้หากใครคิดว่าจะดูดีหรือไม่ดูดี ผมแนะนำว่าให้ดูเลยครับ เพราะมันดีจริงๆ สามารถรับชมได้ทาง Netflix เลยนะครับ
credit:https://www.imdb.com/title/tt11768948/
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
