15 พ.ย. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
" บทเรียนจากเทวดาของอาแจ็กซ์ "
ผู้สันทัดกรณีจำนวนไม่น้อยยกให้ โยฮัน ครัยฟ์ เป็นนักเตะที่ทรงอิทธิพลที่สุดต่อวงการฟุตบอล
1
เพราะไม่เพียงแค่เป็นนักฟุตบอลที่เก่งระดับขั้นเทพ แต่ยังมีมุมมองต่อฟุตบอลเกินกว่านักเตะธรรมดาทั่วไป เขาผันตัวมาเป็นโค้ชก็ประสบความสำเร็จ
บาร์เซโลน่า ยุคใหม่ ได้รับการวางรากฐานฟุตบอลจาก โยฮัน ครัยฟ์ นี่เอง เขาเป็นตัวแทนของชาวดัตช์, อาแจ็กซ์ และบาร์เซโลน่า
ทว่าสโมสรสุดท้ายในการค้าแข้งของนักเตะเทวดา กลับเป็น เฟเยนูร์ด ร็อทเทอร์ดัม อริตลอดกาลของ อาแจ็กซ์ ทีมที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา
1
ในปี 1978 ครัยฟ์ ในวัย 31 ปีเจอมรสุม ต้องเลิกเล่นทีมชาติ ครอบครัวโดนขู่ฆ่า เขาย้ายไปเล่นในสหรัฐอเมริกา
เล่นอยู่ที่นั่น 3 ปี ในที่สุด ครัยฟ์ ก็เดินทางกลับยุโรป มีหลายสโมสรให้ความสนใจ ว่ากันว่าเขาต้องการกลับมาสัมผัสเกมฟุตบอลยุโรป เพราะต้องการเรียกความฟิต และความเฉียบคมกลับมา เพื่อหวังติดทีมชาติอีกครั้งไปลุยฟุตบอลโลก 1982
ปี 1981 เขากลับมาเลบันเต้ ทีมในลีกา 2 ในช่วงนั้น แต่ก็เล่นแค่ไม่กี่เดือน จึงกลับ อาแจ็กซ์ อีกรอบ เขากลายเป็นเหมือนพี่ใหญ่ เป็นเหมือนทหารชำนาญศึกที่มาคอยสอนประสบการณ์น้องๆ ซึ่ง อาแจ็กซ์ ก็มีทีมที่แข็งแกร่งมาต่อเนื่องอยู่แล้ว
หนึ่งในนักเตะที่เขาได้เล่นร่วมด้วย ต่อมากลายเป็นศิษย์น้อง เป็นเพื่อนที่สนิทกับเขาในช่วงชีวิตที่เหลือนั่นก็คือ มาร์โค แวน บาสเท่น "เพชฌฆาตพรายกระซิบ"
1
"ในตอนนั้น เขากลับมาในฐานะดาวดัง ผมโตมาด้วยการดูเกมของอาแจ็กซ์ ทีมยิ่งใหญ่ของเขาและในทีมชาติ มันทำให้ผมมีไฟ"
"ผมภูมิใจมากและมีความสุขมากที่เรารู้จักกันและกันเป็นอย่างดี หลังจากผมกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่อาแจ็กซ์ เราก็เป็นเพื่อนกัน และเขากลายมาเป็นครูของผมด้วย มันวิเศษจริงๆ"
2
"แต่แล้ว เขาก็ย้ายไปเฟเยนูร์ด และเราก็ต้องกลายมาเป็นคู่แข่งกัน" แวน บาสเท่น กล่าวถึงเหตุการณ์หน้าร้อนปี 1983
ครัยฟ์ กับการคัมแบ็กรอบ 2 ที่อาแจ็กซ์ ก็ไม่ได้ลงเล่นทุกนัด เป็นตัวที่ทีมขาดไม่ได้เหมือนสมัยยังหนุ่มๆ แล้ว แม้ทีมจะได้แชมป์ลีก เอเรดิวิซี่ 2 สมัยติดและดัตช์ คัพ อีก 1 สมัย
หน้าร้อนปี 1983 อาแจ็กซ์ ตัดสินใจว่าจะไม่ต่อสัญญากับ ครัยฟ์ ในวัย 36 ปีออกไป โดยมองว่าแก่เกินไป และน้ำหนักเกิน แถมสัญญาแพง แม้ว่า ครัยฟ์ จะเคยเก่ง แต่สภาพเวลานี้ ย้ายออกก็ไม่น่าจะส่งผลอะไรกับทีม
ฝ่ายบริหารของอาแจ็กซ์คิดแบบนี้ ทำให้ โยฮัน ครัยฟ์ เจ็บปวดมาก เขาต้องการอยู่กับทีมต่อ แต่เมื่อรอจนนาทีสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติม เขาจึงตัดสินใจในสิ่งที่ไม่มีใครคิด นั่นคือย้ายไปเล่นให้กับอริตลอดกาลของอาแจ็กซ์ นั่นคือ เฟเยนูร์ด
ช่วง 20 กว่าปีหลัง คู่แข่งชิงความสำเร็จหลักๆ ของอาแจ็กซ์คือพีเอสวี ก็จริง แต่ในเรื่องความรู้สึกเป็นศัตรูอย่างรุนแรงแล้ว มันคือคู่ระหว่าง อาแจ็กซ์-เฟเยนูร์ด เสมอมา
การย้ายไปอยู่กับ เฟเยนูร์ดของ ครัยฟ์ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนักเตะแห่งร็อทเทอร์ดัม ก็มองว่า ครัยฟ์ นอกจากจะมาจากคู่อริแล้ว ยังมองว่ามาขำๆ อาศัยชื่อเสียงเก่าๆ หากิน คงไม่ได้จริงจังอะไร
"โยฮัน คือมิสเตอร์อาแจ็กซ์ เขาย้ายมาเฟเยนูร์ด ก็เพราะอาแจ็กซ์ ไม่ได้ยื่นข้อเสนอให้นั่นแหละ นักเตะหลายคนมีปัญหาเรื่องนี้ในตอนแรก" ซาค โทรสท์ กองหลังตัวหลักของเฟเยนูร์ด เปิดเผยถึงความรู้สึกตอนแรก
ความรู้สึกของแข้งเฟเยนูร์ด ก็อย่างหนึ่ง แต่อีกอย่างคือตัวของ โยฮัน ครัยฟ์ เขาเอาจริงเอาจังมาก ตั้งเป้าที่จะพิสูจน์ว่าอาแจ็กซ์คิดผิด
1
ในการกลับมาเข้าแคมป์ซ้อมกันวันแรก แต่ละคนไม่รู้จะทำตัวยังไง หรือคาดหวังอะไรที่ได้เจอกับนักเตะใหม่อย่าง โยฮัน แต่ผลการทดสอบร่างกายในวันนั้น เขาคือคนที่ฟิตที่สุด ... ในวัย 36 ปี
1
ช่วงซัมเมอร์ระหว่างพักร้อน โยฮัน ครัยฟ์ ตีเทนนิสทุกวัน และเมื่อเข้าแคมป์ซ้อม เขาเป็นคนนำทุกๆ คนออกวิ่ง 6 กิโลเมตรในทุกๆ เช้าผ่านป่า มันคือภาพของความเอาจริงเอาจังมุ่งมั่น
"มันน่าเหลือเชื่อ ร่างกายเขาไม่มีไขมันแม้แต่ออนซ์เดียว เขาโฟกัสไปที่ชัยชนะ แน่นอน ผมมองออกว่าเขาต้องใช้ความพยายามแค่ไหน แต่คุณต้องการอะไรล่ะในวัย 36 ปี?"
1
"ยอมรับเลย มันว้าว มากๆ แป้บเดียวทุกคนก็แฮปปี้กับเขาและทุกคนยกย่องเขา"
เป้าหมายของ ครัยฟ์ คือการเล่นให้เฟเยนูร์ด เพื่อเผชิญหน้ากับ อาแจ็กซ์
ใช้เวลาเล็กน้อยกว่าที่ เฟเยนูร์ด จะอ้าแขนรับแนวทาง รูปแบบการเล่นของเขา และเมื่อสองทีมเจอกันครั้งแรกในลีก เดือนกันยายน 1983 อาแจ็กซ์ ก็ทุบ เฟเยนูร์ด 8-2
1
อาแจ็กซ์ นำก่อนถึง 3-0 แต่ เฟเยนูร์ด ก็ไล่มาเป็น 2-3 กำลังลุ้นประตูตีเสมอ แต่แล้วพอโดน 4-2 ก่อนทำให้ยุบ สุดท้ายแพ้เละ
จริงๆ แล้วก่อนโดน 4-2 เกมสูสีด้วยซ้ำ เฟเยนูร์ด สามารถครองเกมได้ มีโอกาส แต่ปิดไม่ลง และอาแจ็กซ์ ก็มีจอมสังหารอย่าง มาร์โค แวน บาสเท่น ซึ่งทำแฮททริกได้ในวันนั้น
ฝ่ายบริหารของอาแจ็กซ์ยิ้มออก พวกเขาคิดว่าพวกเขาคิดถูกแล้ว อาแจ็กซ์ Move On จาก โยฮัน ครัยฟ์ ไปแล้ว
ซาค โทรสท์ บอกว่าหลังจบเกม โยฮัน ครัยฟ์ เข้ามากระตุ้นเพื่อนร่วมทีม
"โยฮัน บอกผมว่า ไม่ว่าแพ้ 0-1 หรือ 2-8 มันก็แต้มเท่าเดิมนั่นแหละ"
1
ในความจริงแล้ว เฟเยนูร์ด ยังอยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้วิถีแห่งโยฮัน เกมนี้เจอกันตั้งแต่ต้นซีซั่น มันเร็วไปหน่อย ส่วนอาแจ็กซ์ นั้นได้อานิสงค์ที่เขาทิ้งไว้ให้อยู่แล้ว เลยสบายๆ
"เวลาคุณดู โยฮัน เล่นฟุตบอล คุณก็ประทับใจอยู่แล้ว แต่เมื่อคุณลงเล่นร่วมกับเขา มันน่าเหลือเชื่อ ในตอนแรก มันยากสำหรับคนอื่นๆ ที่จะเข้าใจโยฮัน เพราะเขาไม่ได้คิดล่วงหน้า 1-2 ขั้น แต่เขาคิดล่วงหน้า 3-4 ขั้น"
ขณะที่อาแจ็กซ์ มี 2 ขุนพลหนุ่มอย่าง แวน บาสเท่น และ โรนัลด์ คูมัน ทางฝั่งเฟเยนูร์ด เองก็มีเช่นกัน
1
รุด กุลลิท กำลังห้าวหาญสุดขีด เขาเล่นร่วมกับ โยฮัน ครัยฟ์ ช่วยกันพาเฟเยนูร์ด ไร้พ่าย 14 นัดติดต่อกัน
เมื่อทั้งคู่มาดวลกันอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 1984 ที่ร็อทเทอร์ดัม ตอนนั้น ขั้วอำนาจก็เปลี่ยนไปแล้ว เพราะก่อนนัดนี้ เฟเยนูร์ด ก็เขี่ยอาแจ็กซ์ ตกรอบบอลถ้วย
เวลาแห่งการล้างแค้นมาถึง ต่อหน้าแฟนบอล 58,000 คนใน เดอ ไคป์ เมื่อ รุด กุลลิท ทำประตูแรก และ ครัยฟ์ ทำประตูที่สอง ให้ เฟเยนูร์ด ถล่มอาแจ็กซ์ 4-1 บอร์ดบริหารหัวเราะไม่ออกอีกต่อไป
โยฮัน ครัยฟ์ มองออก อาแจ็กซ์ นั้นมีคุณภาพนักเตะที่ดีกว่าก็จริง แต่ตอนนี้ เฟเยนูร์ด มีการเล่นเป็นทีมที่เหนือกว่า การเคลื่อนไหวสอดประสานกัน ขณะที่อาแจ็กซ์ เล่นด้วยความสามารถเฉพาะตัว ไม่มีระบบ ไร้แบบแผน และขาดผู้นำที่แท้จริง
ฤดูกาลนั้น จบลงด้วยการที่ เฟเยนูร์ด ทำดับเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
พวกเขาได้แชมป์ลีกเอเรดิวิซี่ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี และได้แชมป์ ดัตช์ คัพ มาครองด้วย หลังห่างหายไป 4 ปี
หลังจบฤดูกาล โยฮัน ครัยฟ์ ก็อำลาสังเวียนหญ้า เขาแขวนสตั๊ดในวัย 37 ปี
นักเตะและทีมเฟเยนูร์ด ที่เคยตั้งข้อสงสัยในตัวเขาเมื่อ 1 ปีก่อน กลับรู้สึกว่า เขาคือผู้นำของทีม
ครัยฟ์ เข้ามาปรับโครงสร้าง ปรับปรุงแนวทางการเล่นให้เฟเยนูร์ด เดินสู่เส้นทางใหม่ เขาบอกว่า หน้าที่ของเขาจบแล้ว เฟเยนูร์ด ไม่จำเป็นต้องมีเขาก็เดินหน้าต่อไปได้แล้ว
1
แต่เขาคิดผิด เมื่อเขาอำลาทีม เลิกเล่น นักเตะเฟเยนูร์ด ยังรู้สึกว่าขาดหายอะไรไปบางอย่าง
อาแจ็กซ์ กลับมาทวงบัลลังก์ คืนได้อีกครั้ง และมันต้องใช้เวลาอีกถึง 9 ปี กว่า เฟเยนูร์ด จะได้แชมป์ลีกครั้งต่อไป
2
ส่วน โยฮัน ครัยฟ์ เอง ความเป็นอริกับทีมเก่าก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะเพียง 1 ปีให้หลังคือปี 1985 เขาก็กลับสู่อาแจ็กซ์ ไปรับบทผู้จัดการทีม
1
ระหว่างช่วง 3 ปีนี้ ครัยฟ์ นำทีมคว้าแชมป์ดัตช์ คัพ 2 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ อีก 1 สมัย
1
สำหรับตัวเขาแล้ว การย้ายไป 1 ปีที่ เฟเยนูร์ด คือการสั่งสอนบทเรียนให้กับอาแจ็กซ์ อย่างเพียงพอแล้วนั่นเอง
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
1
โฆษณา