แต่ตอนนี้ Business Plan กำลังถูกแทนที่ด้วย “โมเดลธุรกิจ (Business Model Canvas)” หรือเรียกย่อๆว่า BMC ที่ถูกคิดค้นโดย ดร.อเล็กซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์ (Alex Osterwalder) ที่ได้เขียนไว้ในหนังสือ Business Model Generation เมื่อปี 2010
คำถามที่น่าสนใจคือ Business Model Canvas (BMC)นี้แท้ที่จริงจำเป็นแค่ไหนกับคนทำธุรกิจ SMEs และ Start Up และโมเดลธุรกิจที่ว่านี้มีข้อดีที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง เราลองไปติดตามดูพร้อมกันเลย
🎯 ความแตกต่างของ Business Model Canvas (BMC) กับ แผนธุรกิจ Business Plan
ภาพจาก www.freepik.com
Business Plan (แผนธุรกิจ) หมายถึงแผน ระยะยาว 3-5 ปี ที่กำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจทั้งหมด ซึ่งในการจะหาข้อมูลเพื่อทำออกมาเป็นแผนธุรกิจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือมากกว่านั้น ในขณะที่Business Model Canvas (BMC) หมายถึงรูปแบบการสร้างรายได้ของธุรกิจ หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายมันคือการที่เจ้าของธุรกิจต้องตอบคำถามได้ 2 ข้อ
คือ “เราหารายได้อย่างไร” และผู้ซื้อเขา “ได้อะไรไปจากเรา” ซึ่งทฤษฎี Business Model Canvas ช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้นในการตอบทั้ง 2 คำถามนี้เพื่อให้เจ้าของกิจการสามารถปรับรูปแบบรายได้ หรือ โมเดลธุรกิจที่เหมาะสมกับความต้องการได้ในระยะเวลาอันสั้น
ดังนั้น Business Model Canvas ทำให้เห็นภาพรวมของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับโมเดลธุรกิจแบบดั้งเดิม และยังเป็นวิธีที่ทำให้คนในองค์กรสามารถระดมความคิดในการพัฒนาธุรกิจที่ง่ายยิ่งขึ้น โดย Business Model Canvas สามารถใช้ได้ตั้งแต่ Startup ที่พึ่งก่อตั้งไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ก็ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น บริษัท 3M, Microsoft, Lego, Coca Cola ฯลฯ ซึ่ง Business Model Canvas ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับแผนกลยุทธ์ของธุรกิจไปในแนวทางเดียวกัน
การวางแผนผ่าน Business Model Canvas สามารถเอาไปใช้งานได้กับทุกธุรกิจ
ทั้งนี้ Business Model Canvas (BMC) อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเป็นโครงสร้างของธุรกิจที่ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนแต่เหนือสิ่งอื่นใดการทำธุรกิจจะอาศัยเพียงแค่ทฤษฏีอย่างเดียวไม่ได้จำเป็นต้องเรียนรู้ในภาคปฏิบัติ