เพื่อให้ทุกคน “เห็นภาพ” ว่าประชาชนของเขากำลังรู้สึกอย่างไร ในฐานะประเทศแรกที่จะหายไปจากแผนที่หากอุณหภูมิโลกสูงไปกว่านี้ รัฐมนตรีไซมอน โคเฟ ตัวแทนประเทศตูวาลู จึงส่งคลิปสุนทรพจน์ถึงเพื่อนสมาชิกนานาชาติในการประชุม COP26 ท่ามกลางน้ำทะเลสูงครึ่งแข้ง ซึ่งแน่นอนว่าตรงนั้นเคยเป็นแผ่นดินมาก่อน แล้วเราทุกคนเข้าใจในทันทีโดยแทบไม่ต้องฟังข้อความจากเขาด้วยซ้ำ
ตูวาลูเป็นประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิกใต้ฝั่งตะวันตก มีจำนวนประชากรทั้งหมดเพียงประมาณ 12,000 คน ผู้คนจากทั่วโลกมาเยือนพวกเขาเพื่อพักผ่อน ดำน้ำ ดูปะการัง ชื่นชมเต่าทะเล รวมถึงสหรัฐที่เคยมาตั้งฐานบัญชาการรับมือญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งตำแหน่งที่เคยเป็นฐานทัพก็คือจุดที่โคเฟยืนอยู่นั่นเอง
โลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายและทำให้ระดับทะเลสูงขึ้น ประเทศหมู่เกาะเล็กๆ ย่อมอยู่ด่านหน้าที่สุดในการรับศึกหนักหนาในครานี้ และราวกับนั่นยังไม่ร้ายแรงพอ ข้อมูลจากธนาคารโลกยังพบอีกว่าระดับทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกสูงขึ้นเร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึงสามเท่าตัว
"เรากำลังจม และคนอื่นก็เช่นกัน สาสน์จากตูวาลูถึงพวกท่านครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงวาทกรรมทางการเมือง แต่เป็นข้อความที่ดังมาจากประชาชน 12,000 คนจากทั้งแปดเกาะของเรา ส่งถึงชุมชนนานาชาติ เรากำลังร้องทุกข์ต่อท่าน และเรียกร้องเพื่อให้เราปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์สุทธิให้ได้ภายในกลางศตวรรษนี้ ขอให้เป้า 1.5 องศานั้นไม่ไกลเกินเอื้อมถึง และขอให้มีการระดมเงินทุนเพื่อช่วยชดเชยความสูญเสียและเสียหายจากวิกฤตครั้งนี้"
นานเป็นสิบปีแล้วที่ประเทศสมาชิกในสหประชาชาติมารวมตัวกันอย่างนี้ปีละครั้ง ประชุมกัน สัญญากัน และสร้างข้อตกลงร่วมกันว่าจะลดคาร์บอน ว่าจะใช้มาตราการนานาเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายศูนย์คาร์บอน แต่แล้วโลกเราก็ยังวนกลับมาที่เดิม ประเทศอุตสาหกรรมไม่ทำตามสัญญา ความสำคัญถูกผัดผ่อนออกไปเสมอเมื่อเจอวิกฤตต่าง ๆ ทั้งสงครามการเมืองและเศรษฐกิจ นานาประเทศรู้สึกว่าต้องจัดการปัญหาปากท้องก่อน เพราะมัน "ดูเหมือน" ด่วนกว่า แต่มาถึงวันนี้เรารู้แล้วว่าไม่จริงเลย
ความเสียหายในสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและถี่ครั้งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เรารู้แล้วว่าถ้าเรารอแก้เมื่อภัยถึงตัวจริงๆ วันนั้นจะสายเกินไป เราจะไม่มีระบบเศรษฐกิจให้แก้ เพราะเราจะไม่มีประเทศอีกแล้ว และเราจะอยู่ในจุด No return กล่าวคือไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว วันนี้เรายังไม่ถึงจุดนั้น แต่เราจะรอต่อไปไม่ได้
"เราต้องลงมือเดี๋ยวนี้" เซฟ เปนิว รัฐมนตรีสภาพภูมิอากาศของตูวาลูกล่าวในการประชุม COP26 เมื่อวานนี้ "นี่ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่การคาดการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต... มันคือความเป็นความตายของผู้คนมากมาย เราขอวิงวอนให้การประชุมกลาสโกลว์ครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนให้ได้ เราจะต้องไม่ล้มเหลว"
หลายวันก่อน ทุกคนเพิ่งได้ชมวิดีโอรัฐมนตรีอีกคนของเขายืนพูดอยู่ในน้ำทะเลครึ่งแข้ง เมื่อเขาบอกว่าเราจะต้องไม่ล้มเหลว มันจึงไม่ใช่แค่ประโยคสร้างพลังใจธรรมดาๆ แต่มันหมายความว่าเรา "ไม่อาจ" ล้มเหลวได้อีกแล้ว
หากอยากเข้าใจปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างรอบด้านและเข้าใจหนทางแก้วิกฤตที่ "ชัด" และ "ครอบคลุม" ที่สุด ลองอ่านหนังสือเล่มล่าสุดจากบิล เกตส์
"How To Avoid a Climate Disaster โลกต้องไม่ร้อนไปกว่านี้"
สำนักพิมพ์ Sophia
- 35
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
