16 พ.ย. 2021 เวลา 06:12 • ดนตรี เพลง
[รีวิวอัลบั้ม] An Evening With Silk Sonic - Silk Sonic
สองเกลอพลิ้วไหว
รีวิวอัลบั้ม] An Evening With Silk Sonic - Silk Sonic
-นี่อาจจะเป็นงานเพลง dream collaboration ครั้งนึงในชีวิตของใครหลายคนเลยก็ได้ การโคจรกันของสองนักร้องนักแร็ปที่เฟี้ยวฟ้าวที่สุดในวงการเพลงอาร์แอนด์บี-โซล ขอพูดถึงคนนี้ก่อน Anderson .Paak ที่ผมชื่นชอบชื่นชมในความสามารถเสมอมา น้อยคนจะรู้ว่าแกโลดแล่นอยู่ในวงการมานานพอสมควร ออกอัลบั้มมาได้ 4 ชุดแล้ว ถ้าย้อนไปดูในเพจ ผมได้รีวิวอัลบั้มแกเกือบทุกอัลบั้ม ยกเว้นอัลบั้มแรกที่ผมฟังอยู่ห่างๆไม่ได้มีเวลาย้อนไปรีวิวจริงจัง
-สิ่งที่ผมค้นพบเลยคือแกเป็นคนที่โคตรมีพรสวรรค์ แร็ปก็ไฟลุก ตีกลองเทพด้วย แต่ยังไม่ป็อปูล่าร์พอ เพราะเพลงของแกค่อนข้างเฉพาะทางมากกว่า Bruno Mars ที่อื้อหือปล่อยเพลงไหนปุ๊บ เตรียมฮิตได้เลย ห้างร้านเตรียมแอดเพลงพี่บรูโน่ในเพลย์ลิสต์ได้เลย ลูกค้าเดินห้างเพลิน ทานอาหารอร่อยแน่ แต่ตอนนี้ก็เริ่มจะเบื่อเหมือนกัน 24K Magic, That’s What I Like เปิดวนจนเป็นเพลงที่ไม่รู้จะเปิดอะไรพอๆกับ Shape of You อ่ะครับ ต่อให้เพลงของบรูโน่จะฮิตก่อนการมาของ TikTok ผมเชื่อว่า ยังมีคนใช้ 2 เพลงนี้มาเต้นอยู่เลยละมั้ง
-ปฏิเสธไม่ได้แหละว่าพรสวรรค์เฮียบรูโน่แกมากล้น แต่สาเหตุนึงที่เพลงแกถูกเปิดวนมากขนาดนี้คงหนีไม่พ้นการห่างหายจากการปล่อยผลงานเนี่ยแหละ ถึงแกจะแมสสัดๆ แต่แกมีอัลบั้มน้อยกว่าเฮียแอนดี้ด้วยซ้ำ ก่อนที่แกจะคัมแบ็คไซด์โปรเจคต์นี้ ทิ้งช่วงจาก 24K Magic ตั้ง 5 ปีเข้าไปแล้ว เรียกได้ว่าแกเน้นความเนี๊ยบแบบคิดแล้วคิดอีกก่อนจะปล่อยอะไรออกมามากพอสมควร เมื่อนักร้องนักแร็ปสรรพประโยชน์กับนักร้องสายเนี๊ยบมาเจอกัน มันเลยเป็นคู่หูคู่ฮาที่มั่นใจได้ว่า รวมกันมันส์กว่าแน่นอน
-เรื่องของการวางแผนปล่อยซิงเกิ้ลเพื่อแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักคู่หูคู่ใหม่ก็เป็นไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอนมากๆ ซุปตาร์คนไหนที่คิดจะฟอร์มวง ต้องดูเกมส์ของคู่นี้ไว้เป็นตัวอย่างเลย เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรก Leave The Door Open รู้เลยว่าคู่หูคิดมาอย่างดีว่าควรจะเปิดตัวอย่างไร นั่นก็คือการไม่ต้องใส่ความซับซ้อนให้คนฟังมากนัก
-ด้วยชื่อเพลงที่บ่งบอกถึงบริบทเปิดประตูหัวใจให้คนฟังพร้อมเข้ามารับความแช่มชื่นจากพวกเขา มันแทบจะเป็นเนเจอร์ของพี่บรูโน่อย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องใส่ความเฉพาะทางแบบเฮียแอนดี้ให้คนงงอิหยังวะ เหมือนอ่านเกมส์คนฟังออกว่าคนส่วนใหญ่ชินกับสไตล์ของคนไหนมากกว่ากัน งั้นเอาพี่บรูโน่ไปให้หายคิดถึงก่อนล่ะกัน แล้วมีเฮียแอนดี้มาสร้างสีสันยิงมุกแล้วแกก็จัดการต่อจนมัน mega hit อย่างที่เห็น ศิลปินเตรียม cover ดาว TikTok เตรียมเต้น แล้วส่ง Skate ที่ดูเป็นสองประสานมากกว่าถูกงัดมาเป็นซิงเกิ้ลถัดไป เป็นการบ่งบอกความสนุกเรียกแขกให้ทุกคนมาเต้น ไถโรลเลอร์สเก็ตกันอย่างครื้นเครง
-ด้วยความที่ Leave The Door Open มันไปได้ไกลเสียจนน่าเป็นห่วงในแง่ของการจดจำเฮียบรูโน่ได้มากกว่าเฮียแอนดี้หรือไม่ ? พอมาฟังโดยรวมการแท็กทีมในรอบนี้เป็นไปโดยมิตรภาพที่เคมีเข้ากันโดยธรรมชาติ ที่แน่ๆบางเพลงเนี่ยเฮียบรูโน่แกแทบจะยกให้เฮียพัคได้โชว์ของเต็มที่เลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเพลง Fly As Me นี่แทบจะยกให้เป็นเพลงเฮียแอนดี้ไปเต็มๆเลย เฮียบรูโน่แค่ซัพพอร์ตในท่อนฮุกก็เท่านั้น ยกโอกาสโชว์แร็ปกรูฟฟังก์ที่แกเคยนำเสนอมาตลอดคนฟังเมื่อ 4 อัลบั้มที่ผ่านมา ให้คนมันเห็นในอัลบั้มนี้เสียเลย
-Put On A Smile ก็เช่นกัน นี่ขนาดสายบัลลาดที่ควรจะเป็นเฮียบรูโน่เต็มๆก็ยกให้เฮียแอนดี้เต็มๆเกือบ 2 verse เลยทีเดียว ทำออกมาได้ดีด้วยนะ นึกว่าแฝดบรูโน่แต่เป็นเวอร์ชั่นแหบๆอ่ะ สาย vocalist เฮียบรูโน่ก็จัดท่อนฮุกไปตามระเบียบ เพลงนี้ให้อารมณ์เพื่อนปลอบใจเพื่อนแล้วมาหลบฝนในบาร์เหล้าชัดๆ ในขณะที่ Smokin Out the Window สิงห์อมควันเว้าวอน ตัดพ้อหญิงได้สนุกปาก การสเตรสเสียง This Bitch ของทั้งคู่ทำผมลั่นมากกว่าเศร้าอีก ซึ่งเบื้องหลังของเพลงนี้เกิดจากที่ทั้งคู่บลัฟกันว่า ใครคือ king of R&B กันแน่ ผมว่ามันมีพื้นที่เพื่อนดันเพื่อน ทีเล่นทีจริงสนุกสนานอยู่ในนั้น
-มันไม่ใช่แค่สองเกลอนึกสนุกแล้วชวนมาทำงานเพลง collab ร่วมกันแล้วจบไป สองหนุ่มก็ไม่ลืมที่จะคารวะร่องรอยของวัฒนธรรมทางดนตรีพังก์ด้วย จะเห็นได้ว่าการเชิญ Bootsy Collins ตำนานดนตรีฟังก์มาทำหน้าที่เสมือน narrator คอยไกค์คนฟังตลอดทั้งอัลบั้ม มันทำให้คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งมาฟังแนวเพลงนี้ได้รู้ด้วยว่า ลุงคนนี้เป็นคนสำคัญในการขับเคลื่อนแนวเพลง black music ที่ครื้นเครงที่สุดในโลก มาเป็นบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิที่มาเป็นประธานเปิดม่านอัลบั้มในเพลงอินโทร และยังมี After Last Night ที่ดึงบุคลากรฟังก์ยุคปัจจุบันอย่าง Thundercat ที่พกเบสลูกอ้วนอันเป็นเอกลักษณ์มาเป็นตัวขับเคลื่อนเพลง แล้วปล่อยให้ลุง Bootsy โชว์สำเนียงฟังก์แหบเสน่ห์ให้เด็กมันดู ซึ่งมันโดดเด่นเหนือเพลงมาก เป็นการให้เกียรติลุงเต็มๆโดยไม่เสียของ สร้างซีนน่าจดจำได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
-ทั้งนี้เพลงของพวกเขาดีไซน์มาเพื่อการโชว์โดยเฉพาะราวกับว่าพวกเขากลัวว่าจะไม่สามารถกลับมาทัวร์ได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต่างคนต่างออกทัวร์หรือวิกฤตการณ์ที่อาจจะซ้ำซ้อนก็ตาม การฟังเพลงของพวกเขาเหมือนเอาโชว์มากรอกหูคนฟังตั้งแต่เนิ่นๆก่อนจะเจอ world tour ของพวกเขา มันมีภาพ performance ใส่ชุดสูทวิบวับ ทรงผมแอฟโรวนเวียนอยู่ในหัวเต็มไปหมด ตั้งแต่อินโทรเปิดอัลบั้มที่เป็นการเปิดม่านการแสดง การจำลองภาพคาสิโนในลาส เวกัสตามสไตล์คนเห่อการพนันแบบเฮียบรูโน่ที่ผูกพันกับมันมากในเพลง 777 การเห็นเหล่าหางเครื่องและนักแสดงไถโรลเลอร์สเก็ตในเพลง Skate ประหนึ่งฉากนึงในละครเวที และพาออกนอกโลกด้วยความกาวในเพลง Blast Off เป็นการ goodbye kiss ที่เคลิ้บเคลิ้มไปพร้อมๆกับเสียงของลุง Bootsy ที่กล่อมคนฟังราตรีสวัสดิ์เป็นการจบสนิท
-ความสนุกที่มาแว๊บเดียวจริงๆแค่ครึ่งชั่วโมงก็พอเต็มอิ่มไปได้บ้าง เน้นจำนวนแทร็คไม่เยอะ รวบรัดตามสไตล์ลูกพี่บรูโน่ที่ต้องเนี๊ยบไว้ก่อน พอแกกลับมาในแบบนานๆครั้งมาทีนี้เตรียมทำใจได้เลยว่า เราจะได้เห็นการเปิดเพลงจากอัลบั้มนี้วนไปแน่นอน อย่างไรก็ตามมันเป็นความบันเทิงที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังแน่ๆ ให้เกียรติเพื่อน ให้เกียรติรุ่นอาวุโส ได้ซีนทั่วถึง ไม่เกี่ยวเรื่องดังกว่าต้องได้ซีนเยอะเพื่อเพลย์เซฟ เราจึงอินกับการเดินทางเริ่มต้นของคู่นี้จริงๆ dream collaboration ควรจะเป็นแบบนี้ put the man on the right job เพลิดเพลินโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ ขออีกอย่างได้มั้ย ถ้าพวกพี่ฉายให้เห็นภาพโชว์ซะขนาดนี้
Live Version ต้องมาแล้ว !!!
Give 8/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
โฆษณา