Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Folk-Thanasit
•
ติดตาม
16 พ.ย. 2021 เวลา 07:03
นี่คือความได้เปรียบของคนที่รู้จักการ “เลือกใช้คำพูด”
(แม้แต่คำพูดดีๆ ยังต้องมีชั้นเชิงในการพูด)
.
วันนี้อยากชวนคุยเรื่องของคำพูดครับ
ว่าคำแต่ละคำที่เราพูดออกไปนั้น มันส่งผลกระทบ
กลับมาหาตัวเราเองมากมายขนาดไหน
ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนก็ล้วนแล้วแต่อยากให้คนอื่น
ชื่นชอบในตัวเราใช่มั้ยครับ แล้วหนึ่งในวิธีการ
ที่ได้ผลมากที่สุด ที่จะสามารถทำให้คนอื่นชื่นชอบในตัวเราได้นั้น ก็คือวิธีการพูดสื่อสารออกไปนั้นเอง
คำพูดหนึ่งคำพูดสามารถแปรแปลี่ยนให้คนหนึ่งคนชื่นชอบเราได้เลย แต่ในทางกลับกันถ้าหากเราไม่ระวังคำพูดที่จะเลือกพูดออกไป มันสามารถทำให้ใครคนหนึ่งหันมาเกลียดเราได้เลย
.
และวิธีไหนกันล่ะที่จะทำให้เรากลายเป็นที่รัก
ของผู้คนได้ วิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือ “การพูดคำชม”
.
“แหม่ๆ พูดคำชมไปยังไงก็มีแต่คนชอบอยู่แล้ว
มันคือการประจบประแจงหรือเปล่า?”
หลายคนอาจคิดเช่นนี้นะครับ แต่ผมอยากจะบอกว่า
การที่เราจะชมใครสักคนหนึ่ง เราควรจะชมอย่างจริงใจ การที่เราชมใครไปเรื่อย ผมคิดว่าเจ้าตัวเขาดูออกนะ ว่าเราจริงใจกับเขามากแค่ไหน
.
“แล้วจะให้ชมเรื่องอะไร คนที่คุยด้วยไม่เห็นจะมีดี
อะไรให้เราชมเลยเลยนี่”
หลายคนอาจเอาคำพูดประมาณนี้ ขึ้นมาเป็นเหตุผล
ที่จะไม่ชมใครสักคน แต่ผมรู้สึกว่าคนแต่ละคน มีดีแต่แต่ละอย่างอยู่ในตัวอยู่แล้ว ซึ่งหากคุณลองมองให้ดี
คนทุกคนที่คุณคุยด้วย ล้วนมีอะไรบางอย่างที่เราสามารถเอ่ยปากชมเขาได้
.
เราไม่จำเป็นต้องรอให้อีกฝ่ายชมเราก่อน
เราสามารถเอ่ยปากชมอีกฝ่ายไปได้เลย แท้จริงแล้ว
คำชมคือ “การแสดงออกถึงความใส่ใจของเรา”
ว่าเราสนใจอีกฝ่ายมากขนาดไหน
คุณสามารถกล่าวชมใครสักคนได้เลย แบบอัตโนมัติ
เหมือนเวลาเห็นเด็กตัวเล็กๆวิ่งเล่น คุณจะเอ่ยคำชมออกมาเลยทันทีว่า “น่ารักจัง” สาเหตุที่คุณชมเด็ก
คุณคงไม่ได้ต้องการให้เด็กกันมาชมคุณกลับ
แต่คุณเล็งเห็นถึงความน่ารัก น่าเอ็นดูของน้องๆเหล่านั้น
กับความสัมพันธ์อื่นๆก็เช่นกัน หากคุณไม่สนใจว่า
พูดชมไปแล้วจะให้คนอื่นชมคุณกลับ คุณจะสามารถพูดชมเขาไปได้เลยอย่างไม่กังวล เพราะคุณรู้ว่า การที่ได้รับคำชมจากใครสักคนนั้น มันมีค่าขนาดไหน
…
นอกจากเรื่องของคำชมแล้ว อย่างที่ผมบอกครับ
ว่าถ้าหากเรารู้จักการ “เลือกใช้คำพูด” ในการพูดออกไปแต่ละครั้ง มันจะได้ผลลัพธ์ออกมาแตกต่างกัน
แม้แต่คำชม ก็ยังต้องมีชั้นเชิงในการพูด!!
การพูด 2 แบบนี้สามารถให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันได้โดยสิ้นเชิง
1.คุณขาดความรู้ และพูดไม่เก่ง แต่รูปลักษณ์ดูน่าคบหา
2.คุณได้รับการอบรมมาดี พูดจาคมคาย แต่หน้าตาท่าทางดูไม่เป็นมิตร
.
แบบแรก คือ ตำหนิแต่ปิดด้วยคำชม
แบบที่สองคือ เปิดด้วยคำชมแต่ปิดท้ายด้วยตำหนิ
สองแบบนี้ให้อามรมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง คุณผู้อ่านล่ะรู้สึกอย่างไรกับสองรูปแบบนี้
.
มีนักจิตวิทยาสังคมเคยทำการทดลอง รูปแบบการเลือกใช้คำพูดแบบนี้ออกมาแล้วนะครับ พบว่า
คนส่วนมากนั้นเพิ่งพอใจ และมีความสุข
กับการตำหนิและปิดท้ายด้วยคำชมมากว่า
(มากกว่าชมอย่างเดียว และไม่ตำหนิด้วย!!)
.
การชมรูปแบบแรก มันเหมือนกับลมลูกโป่งที่กำลังจะหมดลมน่ะครับ
การตำหนิก่อนชม มันเหมือนลูกโป่งลูกหนึ่ง
ที่กำลังห่อเหี่ยวเหมือนลมใกล้จะหมด
แต่เมื่อได้รับคำชมมาปิดท้าย มันเหมือนกับการได้รับลมใหม่เข้ามา ทำให้ลูกโป่งกลับมาพองโตได้อีกครั้ง
แต่ถ้าหากเริ่มที่จะชมก่อน แต่ปิดท้ายด้วยคำตำหนิ
มันก็เหมือนกับลูกโป่งกำลังโดนสูบอยู่
หัวใจกำลังพองโต แต่แล้วพอปิดท้ายด้วยคำติ
มันเหมือนกับลมที่ได้มานั้น แตกหายไปต่อหน้าต่อตา
(การพูดชมแบบนี้ คือการเพิ่มประสิทธิภาพของคำชมที่เราพูดออกไป ใครที่ต้องพูดคุยสื่อสารกับคนอื่นบ่อยๆ สามารถนำวิธีนี้ไปปรับใช้ได้เลยครับ)
.
เห็นอะไรมั้ยครับ นี่คือความได้เปรียบของคนรู้จักการ “เลือกใช้คำพูด” รู้ว่าควรพูดอะไร และควรจัดวางคำพูดของตนเองนั้น ให้อยู่ในตำแหน่งไหน
หากจัดตำแหน่งไม่ดีในการสื่อสาร สิ่งที่เราต้องการจะสื่อออกไป อาจพลิกจากหน้ามือ เป็นหลังเท้าเลยก็เป็นได้
…
และนี่คือความได้เปรียบของคนรู้จัก “เลือกใช้คำพูด”
ว่าพูดแบบไหนแล้วคนจะชื่นชอบในตัวเรา
หากสนใจอยากเรียนรู้สิ่งนี้เพิ่มเติม
สามารถไปหาอ่านได้จากหนังสือ
“คนสำเร็จ เขาพูดกันแบบนี้”
#FolkThanasit
.
ปล. คิดเห็นอย่างไรมาร่วมพูดคุยกันได้นะครับ
ปล.2 กด “See Frist” เพจ เอาไว้อ่านบทความเล่นๆกันได้นะครับ
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย