17 พ.ย. 2021 เวลา 05:39 • ปรัชญา
กรรม
ภาพจาก rubinmuseum.org
กฎแห่งกรรม เป็นแนวคิดที่ฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมของชาวตะวันออก เช่น ไทย อินเดีย จีน พม่า เวียดนาม ลาว และกัมพูชา แนวคิดนี้มานานนับพันปีแล้ว โดยกำเนิดมาจากคำสอนในศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู
คำสอนเรื่องกรรม เชื่อว่า ที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นผลจากกรรมที่เราสร้างไว้ในชาตินี้ และชาติที่แล้ว กรรมจะตามเราไปทั้งในชาตินี้ และชาติหน้า และเราจะต้องได้รับผลกรรมแน่นอน
เหตุปัจจัย และผลที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับโชคชะตา และเคราะห์กรรมของเราในวงเวียนชีวิต ซึ่งถูกเรียกว่า วัฏสงสาร หรือ การเวียนว่ายตายเกิด
ทางพุทธศาสนาใช้กงล้อธรรมจักร เป็นสัญลักษณ์อธิบายแนวคิดเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด การจะหลุดพ้นกงล้อนี้ได้จะต้องพัฒนาจิตวิญญาณให้ถึงระดับที่เรียกว่า นิพพาน จะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
ทางพุทธศาสนา สอนเราเรื่อง ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ให้เราเข้าสู่ความว่างทางจิต การเวียนว่ายตายเกิด เกิดจากตัวเรามีความอยากไม่มีที่สิ้นสุด เลยต้องไขว่ขว้าสิ่งที่ต้องการมาให้ได้แม้สิ่งที่ทำนั้นจะไม่ถูกต้อง หรือเรียกว่าทำบาป
ความว่างทางพุทธศาสนา คือการหยุดความอยากให้หมดไป คิดและกระทำทุกขณะด้วยปัญญา แล้วเราจะค่อยค่อยหลุด ออกมาจากวัฏสงสาร
พระพุทธเจ้าทรงเชื่อว่าโลกวัตถุแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานที่ทุกชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานกับประสบการณ์อันแสบเจ็บปวด
ตามทฤษฎีกฎแห่งกรรม สอนว่าให้คนกระทำในสิ่งที่ดี เพื่อได้รับผลกรรมที่ดี และหลีกเลี่ยงการพยายามทำความชั่วเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งที่ไม่ดีตามมา ถ้าทุกคนยอมรับและปฏิบัติตามด้วยการกระทำแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติก็จะมีคนดีมากกว่าคนชั่ว
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในเรื่องกฎแห่งกรรม การกระทำของคนที่มีจิตใจดีงาม มีเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จะเป็นสาเหตุที่ก่อผลดีต่อบุคคลอื่น สังคม และประเทศชาติเช่นกัน
แท้จริงแล้ว โลกใบนี้ไม่ได้เป็นดินแดนแห่งทุกข์ซึ่งต้องแบก หรือหลบหนีไป ในทางตรงกันข้ามโลกใบนี้เป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่สุดในจักรวาลอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นดินแดนแห่งเดียวที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
โลกใบนี้สวยงามราวกับสวรรค์ที่พระเจ้าทรง เนรมิต สัตว์โลก มนุษย์เป็นสิ่งที่ดีเลิศและสูงส่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์รักมนุษย์ทุกคนเหมือนลูก เราจึงไม่ควรมีความคิดในแง่ร้าย หรือตำหนิสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ในทางตรงกันข้ามเราควรจะให้ความเคารพและขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง เราเรียนรู้ทางด้านจิตวิญญาณเพื่อจะได้เป็นมนุษย์ที่มีความสุภาพอ่อนโยน ซึ่งจะนำความสุขมาสู่ชีวิตของพวกเรา
ความทุกข์ไม่ใช่การลงโทษ ความทุกข์คือผลลัพธ์ที่เกิดจากความไม่รู้ ดังนั้นการหลีกหนีความทุกข์จึงไม่ได้หมายความว่าเราต้องหนีออกจากโลกนี้ แต่จะต้องขจัดความไม่รู้ของเราเพื่อจะได้เกิดปัญญาและความรู้แจ้ง
โฆษณา