My Reverie สานต่อด้วยสไตล์ Post-Grunge นิดๆ คุกรุ่นด้วยอารมณ์อีโมที่วงมักจะทำได้ดีอยู่เสมอๆ ก่อนจะโชว์อาวุธหนักปั่นโซโล่กีตาร์ไฟแล่บได้โคตรมัน, No Happy Ever After ต่อกันด้วยเมทัลคอร์ Drop C จังหวะสุดโจ๊ะชวนเฮดแบงที่ฟังกันได้ทุกรุ่น เป็นงานสูตรสำเร็จที่สามารถคาดหวังได้ และยังอุดมไปด้วยโซโล่กีตาร์จากคู่มือกีตาร์สุดเฉียบที่เข้าขากันสุดๆ
Bastards เกรี้ยวกราดกันตั้งแต่ชื่อเพลง โชว์ท่อนมาร์ชชิ่งพร้อมเสียงหล่อๆของ Matt ท่อนคอรัสชวนลุกขึ้นสู้กับอำนาจมืดได้อย่างมีพลัง ชอบท่อน “Your Time’s Up, Now You’re Paying The Price” ฟังแล้วพาใจขึ้น, Shatter จังหวะกลางลงน้ำหนักด้วยริฟฟ์กีตาร์หน่วงๆจนเกือบจะออกไปทาง Nu มีมูฟไปใช้ซาวด์ถนัดของตัวเองสลับไปมาแต่ยังฟังเป็นงานของ Bullet อยู่ดี
Paralysed ครบสูตรเมทัลคอร์สายเดือดทุกประการ เอาไปใช้งานในไลฟ์นี่เหล่าสาวกได้แผลกลับไปเป็นที่ระทึกแน่นอน ถึงจะไม่มีอะไรใหม่แต่ผลลัพธ์ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่า, Death By a Thousand Cuts ปิดท้ายในรูปแบบเดินหน้าตะลุยไม่ยั้ง เนื้อร้องจากปากของ Matt ยังคร่ำครวญได้ถึงเครื่องเช่นเคย จบงานชุดที่เจ็ดได้อิ่มเอมกันทุกฝ่าย