Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สืบสานงานท่านพุทธทาส
•
ติดตาม
18 พ.ย. 2021 เวลา 06:45 • การศึกษา
#เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา #พุทธทาสภิกขุ
ตอนที่ 78 , ภาพหน้าที่ 250-256
อาจารย์ครับ ตอนนี้จะเรียนถามอาจารย์เกี่ยวกับการปกครองดูแลพระเณรตั้งแต่ต้นมานะครับ แรกสุดอยากจะเรียนถามอาจารย์ว่า อาจารย์มีหลักอย่างไรในการปกครองวัด
- มันเกือบจะไม่มีหลักอะไร เพราะมันไม่ได้สนใจการปกครอง เพราะไม่มีหัวในการปกครอง นี่อย่างหนึ่ง แล้วอีกอย่างหนึ่งก็อยากจะให้เป็นแบบครั้งพระพุทธเจ้า ไม่ต้องมีคําว่าปกครองอะไร ให้ทุกคนรู้สํานึกในหน้าที่และก็ทําหน้าที่ ไม่มีอะไรบังคับ ให้ดูคนอยู่ก่อน แล้วก็ทํา ให้ทุกคนตกลงกันเอาเอง เรื่องทํากิจต่าง ๆ แม้แต่เรื่องบิณฑบาต เรื่องทําวัตรสวดมนต์ เรื่องศึกษาเล่าเรียน การทํากิจกรรมบริหารรักษาวัด ให้ทุกคนมีสิทธิที่จะออกความคิดเห็น แล้วก็ตกลงกันเอง ตามที่มันมีแบบอย่างมาแต่ก่อน ๆ แล้วก็ทําตามแบบ
เมื่อทีแรก มันอยู่กันเพียง ๒-๓ คน ก็ไม่มีระเบียบอะไร พออยู่ ๔-๕ คนก็มีบ้างและก็โดยธรรมเนียม โดยประเพณี ไม่ใช่โดยกฎอะไรนัก แม้คนจะมาอยู่มากขึ้น ก็คงอยู่อย่างนั้น แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ ก็ยังไม่รู้ว่ากฎหรือระเบียบอยู่ที่ไหน มันก็แปลกอยู่เหมือนกัน ทุกคนก็ดูเพื่อน แล้วทําไปตามที่เรียกว่า ทําไปตามประเพณี ไหว้พระสวดมนต์อะไรต่าง ๆ ไม่ได้ออกกฎเป็นลายลักษณ์อักษร หรือออกเป็นข้อบังคับอะไร มันก็ไม่ค่อยเรียบร้อยนัก บางอย่างไม่เรียบร้อย แต่เราก็พอใจที่ว่าอยู่อย่างรับผิดชอบตัวเอง อยู่อย่างไม่มีใครต้องบังคับ เมื่ออยู่กันได้ ก็น่าจะพอใจแล้ว เรียกว่าปกครองชนิดไม่มีใครบังคับ
ทางธรรมะก็รู้กันอยู่ กิจวัตรประจําวันคืออะไร ทุกคนก็พยายามทําให้มากเท่าที่จะทําได้ เรื่องนอกนั้นก็ตกลงกันเอง แม้แต่เรื่องบิณฑบาตก็ตกลงกันเองได้ เป็นสาย ๆ สายละกี่คน วันไหนไปทางไหน ตกลงกันเอง เรื่องลาภสักการะก็ไม่มีอะไรมากมาย ก็ไปตามธรรมชาติธรรมดา ในที่สุดก็ตอบไม่ถูกว่ามีระเบียบการปกครองอย่างไร เป็นการเสี่ยงดูว่ามันจะเป็นไปอย่างไร โดยเชื่อว่ามันจะเป็นไปโดยชนิดที่ว่าปลอดภัย ไม่มีอะไรเสียหายร้ายแรง จะเสียหายบกพร่องบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา บางองค์เขาลักลอบทําอะไรไม่น่าดู ก็มีบ้างเหมือนกัน
กิจวัตรของพระเณรที่นี่ตลอดกว่า ๕๐ ปี ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือครับ
- ก็เหมือนกันทุกยุคทุกสมัย ไม่ได้ปรับปรุงแก้ไข คือว่าบางยุค คนมันดีหน่อย ก็เรียบร้อยหน่อย ยุคที่คนไม่เรียบร้อย ก็มีเอะอะบ้าง บางคนก็กลับไป ไม่เป็นเรื่องเสียหายร้ายแรงใหญ่โต เรื่องขโมยสูบบุหรี่ดูจะมีบ้างเป็นธรรมดา มีอยู่ครั้งหนึ่งใครบางคนเอาเหล้าอะไรมา โดยไม่มีใครรู้ แต่มันก็รู้กันจนได้ แล้วเขาก็ไปเสีย เพราะเขาไม่ใช่จะมาอยู่จริง คนมันติดบุหรี่ ติดเหล้า ติดพวกนี้มา แต่ผมไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่โต
ต่างคนต่างทํางานตามที่เพื่อนเขาทํา แล้วไม่ได้รับค่าจ้างรางวัล แม้แต่คําว่าขอบใจก็ไม่เคยพูด สรุปความ เรียกว่าหลักการปกครองไม่มี คิดว่าปล่อยไปตามบุญตามกรรม เป็นการเสี่ยง แต่แล้วก็ด้วยความเป็นผู้ดีมีอยู่บ้าง หลายคนก็โมเลโมเกดํารงอยู่กันมาได้ ที่ไม่ดีมันก็ค่อยตีตัวออกไป เลยเป็นเรื่องที่ถือว่าไม่มีปัญหา คําว่าการปกครองนั้นไม่รู้จัก ต่อไปก็ไม่แน่ ที่แล้วมาก็มาในลักษณะอย่างนี้ สนใจกันแต่เรื่องวิชาเรื่องธรรมะ เรื่องการปกครองยังไม่เคย ออกปากเรียกตัวมาสอบสวนไต่สวนยังไม่เคยมี
อาจารย์ครับ ยุคที่มีการงานมาก โรงหนังโรงปั้นยังไม่เสร็จนี่ อาจารย์แบ่งงานกันทําอย่างไร
- ไม่ได้บังคับ ไม่ได้แบ่ง แล้วแต่สมัครใจ จะไปฝึกการปั้น ฝึกอะไรตามพอใจ โดยมาก จะมีขอร้องบ้างก็ท่านไสวหัวหน้าโรงปั้นขอร้องเอง บิณฑบาตกวาดวัด ก็รู้กันอยู่อย่างนั้น ว่าเป็นหน้าที่ วันกรรมกรคล้าย ๆ กรรมกรก็มีมาเรื่อย เป็นที่รู้จักกันว่า วันนี้ไปช่วยทํางาน แล้วแต่จะบอกว่าทําอะไร ก็ไม่ได้ทุกคน ยกเว้นบ้าง หลายคน เราไม่ได้จู้จี้พิถีพิถัน เอาแต่คนที่สมัครใจ ใครจะขี้เกียจบ้างก็ช่าง เรื่องไหว้พระสวดมนต์ เรื่องปาฏิโมกข์ไม่เคยมีกฎเกณฑ์ ว่าต้องไปทุกคน ถ้าไม่ไปจะถูกลงโทษ ไม่เคยมี การทําวัตรจึงมีน้อยองค์ แต่ลงปาฏิโมกข์ดูจะไปกันมาก ๆ มันพูดไม่ได้ว่ามีการปกครอง มันไม่มีอยู่ในหัว ในเรื่องระเบียบอย่างนี้
เรื่องขัดแย้งต่าง ๆ ก็ไม่ค่อยมีมาถึงผม ท่านโพธิ์เป็นคนไกล่เกลี่ยให้เรียบร้อยโดยมาก ผมยังไม่เคยเรียกใครมาปรับความเข้าใจหรือปรับโทษ ก็ต้องเรียกว่ามันฟลุค มันบังเอิญที่มันไม่มี แล้วมันก็อยู่อย่างนี้มาได้
ผมเคยร่างระเบียบการปกครองแต่ไม่ได้ใช้ ร่างเฉย ๆ ร่างเล่นสนุก ๆ มีเจ้าอาวาสองค์หนึ่ง แล้วมีเจ้าอธิการครบตามหน้าที่การงาน ๙ องค์ ๑๐ องค์ อธิการโรคภัยไข้เจ็บ อธิการต้อนรับปฏิคม เป็นต้น ทุกอธิการขึ้นกับเข้าอาวาส ต้องมีคนจํานวนเพียงพอ แบบสวนโมกข์นี้ ถ้าจะทําคนหนึ่งต้องรับหลายหน้าที่ เขียนไว้แล้ว เลิก ไม่ได้นํามาใช้ เพราะวัดยังเล็ก คนน้อยไม่กี่คน เป็นเจ้าอธิการกันหมดวัด (หัวเราะ) วัดใหญ่ก็มีพระ ๑๐๐-๒๐๐ จึงควรทําอย่างนี้
อาจารย์ครับ ได้ยินว่าสมัยเมื่ออาจารย์ยังมีเรี่ยวมีแรงอยู่ อาจารย์เดินตรวจวัดทุกวัน และดุเอาแรง ๆ ด้วย ถ้าทําไม่ถูก
- ผมนึกไม่ออกว่าเคยเที่ยวไปดุใครแรง ๆ เดินดูมี ไม่ทุกวัน เดินดูความเรียบร้อย ความถูกต้อง เคยเดินดู แต่ไม่ใช่ทุกวัน มันมีการพูดจาเกลี่ยกล่อมให้รักษาเครดิตของตัวเองในฐานะเป็นพระองค์หนึ่ง เคยมีก่อนนี้ที่โรงฉัน ผมก็ไปฉันด้วย พอฉันเสร็จ ก็มีโอกาสพูดอย่างนี้มาก ก่อนโน้นถึงกับอบรมข้อความธรรมะเลย คําบรรยายเรื่องอานาปานสติก็บรรยายหลังฉันอาหาร ที่โรงฉัน ฉันแล้วก็นั่งจดกัน เคยมีหลายเรื่องดังที่เคยเล่าแล้ว ที่นี่ก็มักถือโอกาสพูดจาปรับปรุงเกี่ยวกับพระบวชใหม่ ให้สํานึกได้เอง ก็ไม่ค่อยมีเรื่อง ไม่มีการปกครองเคร่งครัด
จาก เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา หน้า 250-253
.
อ่าน เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา * ทุกตอน *
ในเว็บไซต์ #สืบสานงานท่านพุทธทาส
https://tinyurl.com/ftmkntn7
.
สนใจหนังสือติดต่อ : มูลนิธิโกมลคีมทอง
https://www.facebook.com/komolpublishing/
โทร 02-412-0744 02-866-1557
สโมสรธรรมทาน,หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ
http://store.bia.or.th/
.
ฟังเสียงเล่าไว้ฯ ราวปี 2527-2528
https://soundcloud.app.goo.gl/J661s
.
อ่าน PDF
http://www.buddhadasa.org/files/pdf/B_pdf/kp/kp1.pdf
.
ความเดิมตอนแรก ที่มาของงานนี้
https://tinyurl.com/e8x2fc27
.
อัตชีวประวัติในวัยหนุ่มของพุทธทาสภิกขุ
https://bit.ly/3pfcruX
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย