เหตุการณ์ร้อนแรงที่สุดในโลกกีฬา ณ เวลานี้ คือประเด็นของเผิง ฉ่วย อดีตนักเทนนิสระดับโลก ที่โพสต์เดือด แฉความสัมพันธ์กับอดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ว่าแอบคบชู้กันหลายปี เรื่องนี้ลุกลามไปไกลมาก จนรัฐบาลจีนก็อยู่เฉยไม่ได้เช่นกัน วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น
เผิง ฉ่วย เป็นยอดนักเทนนิสของเอเชียคนหนึ่ง เธอเคยได้อันดับโลกประเภทเดี่ยวสูงสุด คืออันดับ 14 แต่ที่เธอเก่งกว่าจริงๆ คือประเภทคู่ เธอเคยขึ้นไปถึงมือ 1 ของโลกมาแล้ว และได้แชมป์แกรนด์แสลมถึง 2 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นฮีโร่ของชาติได้เลย
เธอถือว่าเป็นนักกีฬาที่มีฐานะมั่นคงคนหนึ่ง ทำรายได้ไป 9.6 ล้านดอลลาร์ (313 ล้านบาท) ตลอดอาชีพ ยังไม่นับค่าสปอนเซอร์มากมาย ในช่วงที่เธอลงเล่นอยู่อีก
เผิง ฉ่วยเลิกเล่นอาชีพไปในเดือนพฤษภาคม 2021 ด้วยวัย 35 ปี จากนั้นเธอก็เงียบหายไปจากวงการ จนเมื่อถึงวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เธอโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียของตัวเอง ระบายความอัดอั้นในใจกับความรักต้องห้ามของเธอ
ความรักต้องห้ามของเธอ คือเธอแอบเป็นชู้กับ จาง เกาลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีของประเทศจีน วัย 75 ปี
ผู้มีอำนาจสูงสุดของจีน คือประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง จากนั้นในตำแหน่งที่รองๆ ลงมา คือนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสมาชิกในพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ในประวัติศาสตร์ของจีน ไม่เคยมีใครออกมากล่าวหาคนระดับผู้นำว่าแอบเล่นชู้แบบนี้ นี่จึงเป็นข่าวใหญ่โตมาก สื่อตะวันตกทุกสำนักเดินหน้านำเสนอข่าวอย่างเผ็ดร้อน
ก่อนจะไปดูว่า ทางการจีน จัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เราไปอ่านจดหมายแบบคำต่อคำของเผิง ฉ่วย ที่โพสต์ลงเวย์ป๋อ ก่อนว่า เธอเขียนอะไรลงไปบ้าง
[ ความในใจที่เก็บซ่อนมานับสิบปี ]
ฉันรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่พูดยากมากๆ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันรู้ว่าพูดไปคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ฉันก็อยากระบายมันออกมาอยู่ดี ฉันยอมรับนะ ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีหรอก แค่คำว่า "ไม่ดี" ยังไม่พอ ฉันเป็นผู้หญิงที่เลวมากๆ คนหนึ่งเลยล่ะ
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จาง เกาลี่ รองนายกรัฐมนตรีของประเทศจีน ประกาศเกษียณอายุราชการ เขาได้ขอร้องให้ ดร. หลิว ที่ทำงานอยู่กับสมาคมเทนนิสแห่งเทียนจิน ให้ช่วยติดต่อหาฉันที และถามว่า ฉันพอจะเล่นเทนนิสเป็นเพื่อนเขาได้ไหม ที่โรงแรมกังหมิง ในกรุงปักกิ่ง
ฉันตอบตกลง และหลังจากเราเล่นเทนนิสกันเสร็จตอนเช้า จาง เกาลี่ คุณจำได้ไหม คุณกับภรรยาคัง เจี่ย ได้พาฉันกลับไปที่บ้านของคุณ และคุณก็พาฉันขึ้นไปที่ห้องนอนของคุณ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เหมือนกับเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว ที่เทียนจินไม่มีผิด คุณแค่อยากมีเซ็กส์กับฉันอีกครั้ง
หลังดินเนอร์ ฉันยังไม่ยอมคุณ จนคุณบอกว่า คุณเกลียดฉัน ฉันกลัวมากในตอนนั้น ฉันไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ด้านนอกของห้องมีเจ้าหน้าที่บางคนยืนขวางประตูอยู่ ฉันไม่อยากเชื่อว่าภรรยาของคุณจะยอมให้คุณทำเรื่องแบบนี้ได้ ้
ความจริงเรามีความสัมพันธ์ตั้งแต่ 10 ปีก่อน เป็นระยะเวลา 3 ปี จากนั้นคุณก็ได้รับตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น ในคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ และจากวันนั้นคุณก็ไม่ติดต่อฉันอีกเลย ฉันจึงได้แต่ต้องฝังทุกอย่างเก็บไว้ในใจตัวเองคนเดียว
จากวันนั้นทุกอย่างก็จบไป ถ้าคุณไม่อยากจะรับผิดชอบอะไรฉัน แล้วทำไมต้องกลับมาหาอีกรอบ และพาฉันกลับบ้านเพื่อกดดันให้ฉันมีเซ็กส์กับคุณอีก? ใช่ ฉันไม่มีหลักฐาน แต่กับคนตำแหน่งอย่างเขา เป็นไปได้หรือ ที่จะทิ้งหลักฐานเอาไว้
คุณคงจะปฏิเสธว่าเคยมีเรื่องราวความสัมพันธ์กับฉัน แต่คิดในความเป็นจริง ถ้าคุณไม่เริ่มติดต่อมาหาฉันก่อน เราสองคนจะได้รู้จักกันได้อย่างไรจริงไหม
คืนนั้น หลังจากที่เราเล่นเทนนิสเสร็จ เรากลับมาที่บ้านของคุณ ฉันร่วมกินอาหารเย็นกับคุณและภรรยา คุณพยายามหว่านล้อมฉันทุกอย่าง คุณบอกว่าจักรวาลนี้มันช่างกว้างใหญ่ และถ้าเทียบกับทั้งจักรวาล โลกของเราก็คงมีขนาดแค่เม็ดทรายเท่านั้น คุณบอกต่อว่า ถ้าโลกเราเป็นแค่เม็ดทราย มนุษย์หนึ่งคนในโลก ก็คงมีขนาดเล็กลงไปกว่านั้นอีก แต่การที่คนสองคนมารู้จักกันได้ ย่อมต้องมีความหมายอะไรสักอย่าง
หลังจากดินเนอร์ ฉันก็ยังไม่ยอมตอบตกลง แต่คุณพยายามโน้มน้าวให้ฉันยอมคุณ คุณบอกว่าในรอบ 7 ปีที่คุณหายไป คุณไม่เคยลืมฉันเลยสักวันเดียว และคุณก็บอกว่าจะทะนุถนอมฉัน คือฉันก็หวาดกลัวและกังวลใจนะ แต่ก็คิดถึงความรู้สึกที่ฉันมีให้คุณเมื่อ 7 ปีก่อน และสุดท้ายฉันก็ตอบตกลง เราจึงมีเซ็กส์กันในคืนนั้น
เรื่องหัวใจมันเป็นสิ่งที่ซับซ้อนและยากจะอธิบายมาก ตั้งแต่วันนั้นที่เรามีอะไรกัน ฉันเริ่มนับหนึ่งเรื่องความรักของฉันที่มีให้คุณอีกครั้ง คือฉันยอมรับนะว่าช่วงเวลาที่ได้รู้จักกันมา คุณเป็นคนดีคนหนึ่งเลยล่ะ คุณใส่ใจฉันอย่างดี และเราสามารถคุยกันได้ราบรื่น เพราะเราสนใจอะไรคล้ายๆ กัน
เราเริ่มต้นคุยกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะคุยเรื่องที่เราเคยมีร่วมกันในอดีต รวมถึงเรื่องต่างๆ ในยุคปัจจุบัน คุณสอนฉันมากมายหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และการเมือง เราไม่เคยหมดเรื่องที่จะคุยกัน เราเล่นหมากรุก เล่นปิงปอง เล่นพูล ร้องเพลง และ เล่นเทนนิสด้วยกัน เรามีความสุขแบบไม่รู้จบ สิ่งที่ฉันยอมรับจริงๆ คือนิสัยของเราสองคนคลิกกันเป็นอย่างมาก
ฉันเป็นคนที่ปรารถนาความรัก สาเหตุเพราะฉันต้องออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก เพื่อลงแข่งขันกีฬาอาชีพ ดังนั้นเมื่อได้เจอคุณมันจึงเป็นความรู้สึกที่พิเศษ ฉันรู้ตัวเองดี ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ดี ฉันเกลียดตัวเอง เกลียดที่ต้องมีชีวิตอยู่บนโลก
สิ่งที่คุณบอกฉัน คือคุณรักฉันมากจริงๆ และคุณบอกว่าถ้าชาติหน้ามีจริง เราสองคนคงจะได้มารู้จักกันตอนอายุราวๆ 18 หรือ 20 และได้รักกันแบบคนทั่วไป หลายครั้งคุณบอกฉันว่าคุณเหงา รู้สึกเหมือนอยู่เดียวดายในโลก แต่พอเราอยู่ด้วยกันความเหงานั้นก็หายไป เพราะเรามีเรื่องคุยกันมากมายไม่รู้จบ
คุณบอกฉันว่าด้วยตำแหน่งตอนนี้ คุณไม่สามารถหย่ากับภรรยาได้ จริงๆ ถ้าเราได้รู้จักกันที่เมืองชานตง ตั้งแต่เมื่อก่อน คุณอาจจะทำเรื่องหย่าได้ แต่ ณ เวลานี้ ด้วยอำนาจของคุณที่ปักกิ่งมันทำแบบนั้นไม่ได้ และฉันเองก็ได้แต่ต้องอยู่เคียงข้างคุณอย่างเงียบๆ ห้ามส่งเสียง และป่าวประกาศให้ใครรับรู้ถึงเรื่องของเราสองคน
ในช่วงแรกๆ ทุกอย่างก็ดีอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน มีหลายครั้งที่ฉันทั้งรู้สึกอับอาย และรู้สึกไม่ยุติธรรมเลยสักนิด
ทุกครั้งที่คุณให้ฉันไปกินข้าวที่บ้านของคุณ คุณไม่รู้หรอกว่าลับหลัง ภรรยาของคุณพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจฉันบ้าง เธอล้อเลียน และเหยียดหยามฉันสารพัด ฉันบอกว่า "อาหารที่ฉันชอบคือลิ้นเป็ด" คุณนายคัง เจี่ย ภรรยาของคุณจะพูดว่า "อี๋ น่าขยะแขยง" หรืออีกครั้งหนึ่งในช่วงฤดูหนาว ที่ปักกิ่งมีคุณภาพอากาศที่ไม่ดี มีฝุ่นควันเยอะ ฉันก็โดนภรรยาของคุณพูดว่า "ก็เพราะว่าเธอเกิดและโตที่บ้านนอกน่ะสิ คนปักกิ่งไม่มีใครรู้สึกถึงความผิดปกติหรอก" คำพูดอะไรแบบนั้น เธอพูดแซะฉันหลายต่อหลายครั้ง แต่เวลาที่คุณอยู่ด้วย เธอจะไม่พูดอะไรแบบนี้เลย
สิ่งที่เธอทำ ก็ไม่ได้ต่างจากคุณมากหรอก เพราะเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คุณจะปฏิบัติตัวกับฉันแบบหนึ่ง แต่เมื่อไหร่ที่มีคนอยู่ใกล้ๆ คุณจะเปลี่ยนท่าที และทำตัวกับฉันอีกรูปแบบทันที ซึ่งฉันเคยบอกคุณหลายครั้งนะ ว่าการกระทำของภรรยาคุณ กับตัวคุณมันทำให้ฉันเจ็บปวดและอับอาย
ตั้งแต่รู้จักกันมา ฉันไม่เคยขอเงินจากคุณแม้แต่หยวนเดียว และฉันก็ไม่เคยใช้คุณเพื่อผลประโยชน์ใดๆ ในชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้มา ฉันหามันด้วยตัวเองทั้งหมด แล้วแบบนี้คุณคิดว่ามันสมควรหรือ ที่ฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้
ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย คุณบอกให้ฉันเก็บเรื่องของเราเป็นความลับ ที่สำคัญแม้แต่คุณแม่ของฉันเอง ฉันก็บอกไม่ได้ ว่าเรามีความสัมพันธ์กันอย่างไร แต่ละครั้งที่เรานัดกัน คุณแม่จะขับรถพาฉันไปที่โบสถ์พระผู้ไถ่ในปักกิ่ง จากนั้นฉันจะสลับไปขึ้นรถของคุณที่รออยู่ เพื่อไปที่อพาร์ทเมนต์
คุณแม่ของฉันเข้าใจว่า ที่เราไปเจอกันที่อพาร์ทเมนต์ เราสองคนเล่นไพ่นกกระจอก หรือโป๊กเกอร์กัน คือเราสองคนไม่มีตัวตนในชีวิตของกันและกันเลย ตรงข้ามกับภรรยาของคุณ เธอเหมือนกับพระราชินีในละครเรื่อง เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน (The Legend of Zhen Huan) คุณไม่รู้หรอกว่าความต่ำต้อยตรงนี้ ทำให้ฉันอับอายแค่ไหน
มีหลายครั้งที่ฉันก็คิดนะ ว่าตัวเองยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า หรือเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตที่ไร้วิญญาณแค่นั้น ฉันเสแสร้งแกล้งทำในทุกวัน จนไม่รู้แล้วว่าตัวจริงของตัวเองคืออะไร จริงๆ ฉันไม่ควรเกิดมาในโลกนี้ แต่ฉันก็ไม่มีความกล้าพอที่จะตาย
ฉันต้องการเพียงแค่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่ทุกสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันต้องการเลย ในวันที่ 30 ตุลาคม เราสองคนทะเลาะกันรุนแรงมาก จากนั้นคุณบอกว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 2 พฤศจิกายน เราควรมาเจอกันที่บ้านของคุณ เพื่อปรับความเข้าใจกัน แต่ในตอนเที่ยง คุณก็โทรมาแล้วบอกว่า คุณไม่ว่างแล้ว และหาข้ออ้างโดยบอกว่าเราควรจะคุยกันวันอื่นแทน จากนั้นคุณก็หายตัวไปเลย หายวับไป เหมือนที่เคยทำเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
คุณเล่นกับหัวใจของฉัน และทิ้งฉันหลังจากที่คุณเสร็จกิจกับฉัน คุณเคยบอกใช่ไหมว่าระหว่างเราสองคนเป็นความรู้สึกดี ที่ไม่มีผลประโยชน์อะไรทั้งนั้น ใช่ มันเป็นเรื่องจริง สิ่งที่เรามีให้กัน มันไม่เกี่ยวกับเงินทองหรืออำนาจใดๆ เลย แต่ฉันรู้สึกว่า สุดท้ายแล้ว คุณไม่เคยเชื่อใจฉันจริงๆ หรอก ตอนเรามีความสัมพันธ์กัน 3 ปีในรอบแรก คุณกลัวตลอดใช่ไหม ว่าฉันจะแอบบันทึกเสียงของคุณไว้ และแอบเก็บหลักฐานเรื่องความสัมพันธ์ของเรา
ฉันจริงใจกับคุณแค่ไหน ถึงไม่เก็บหลักฐานอะไรไว้เลย และมาในวันนี้ ฉันก็ไม่มีอะไรยืนยันในเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีการบันทึกเสียง ไม่มีการบันทึกวีดีโอ สิ่งเดียวที่ฉันมีคือความทรงจำในชีวิตที่แสนจะบัดซบของตัวเองแค่นั้น
สำหรับคนที่ยิ่งใหญ่เช่นคุณ ฉันรู้ว่าคุณไม่มีทางเกรงกลัวอะไรอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ฉันทำวันนี้ ฉันไม่สนใจอีกแล้ว ว่าจะเป็นการเอาไข่ไปกระทบหินหรือเปล่า หรือฉันอาจเป็นแค่หิ่งห้อยที่บินเข้ากองไฟแล้วโดนเผาตายง่ายๆ ก็ได้ แต่สิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ คือบอกความจริงในเรื่องของเราสองคน คนที่ฉลาดหลักแหลมอย่างคุณ ฉันมั่นใจว่าก็ต้องปฏิเสธการกระทำอยู่แล้ว หรือไม่ก็โยนความผิดมาให้ฉัน หรือไม่ก็แกล้งทำเป็นเยือกเย็น ไม่รู้หนาวรู้ร้อน
ฉันบอกตรงๆ นะ ว่าฉันคือผู้หญิงที่เลวทราม และไม่เหมาะจะเป็นแม่ของใครทั้งนั้น แต่กับคุณ คุณมีลูกชาย 1 และ ลูกสาว 1 คน ฉันเคยพูดไปแล้ว และจะพูดอีก ว่าคุณจะทำอย่างไร ถ้ามีผู้ชายมาทำแบบนี้กับลูกสาวของคุณบ้าง
และที่สำคัญ คุณบอกฉันเสมอจำได้ไหม ว่าอยากทำให้คุณแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วของคุณภาคภูมิใจ ถามจริงว่าคุณยังจะกล้ามองหน้าแม่ของคุณบนสวรรค์ได้หรือ กับสิ่งที่คุณทำมาตลอด
สุดท้ายทั้งหมดนี้ เราทุกคนก็ล้วนแกล้งทำเป็นคนดีทั้งนั้นแหละ ทั้งๆ ที่ความจริง เราอาจจะไม่ใช่คนดีเลยสักนิดก็ได้
[ สถานการณ์ล่าสุด ]
หลังจากโพสต์นี้เกิดขึ้น กระแสในโลกออนไลน์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เป็นความจริง เพราะเผิง ฉ่วย ก็เป็นคนมีชื่อเสียง ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะมาโจมตีนักการเมืองเพียงเพื่อเอาสนุก อย่างไรก็ตามด้วยความที่ไม่มีหลักฐาน มันจึงมีช่องว่างให้ฝั่งจาง เกาลี่ ได้เอาตัวรอดได้
หลายคนย้อนไปคิดถึงภาพยนตร์เรื่อง Lust, Caution ที่ผู้บริหารระดับสูงแอบเก็บคนรักไว้แบบลับๆ ทั้งๆ ที่มีภรรยาอยู่แล้ว
สำนักข่าวของประเทศอื่นนอกจากจีน นำเสนอเรื่องนี้กันหมด และผู้คนก็วิจารณ์กันมากมาย โดยโยงประเด็นไปว่า คนจากพรรคคอมมิวนิสต์สร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนดี ทำเพื่อชาติ แต่ลับๆ ก็แอบทำเรื่องผิดศีลธรรมอยู่เหมือนกัน
เมื่อโพสต์นี้ถูกไลค์และแชร์กันกระจาย ล่าสุดโพสต์ปลิวไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย ยิ่งไปกว่านั้น ใน Search Engine ที่เกี่ยวกับเผิง ฉ่วย โดนรัฐบาลสั่งบล็อกทั้งหมด แม้แต่เสิร์ชคำว่า "เทนนิส" ก็ยังเสิร์ชไม่ได้
นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่สมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์โดนกล่าวหาในลักษณะนี้ แต่กระทรวงการต่างประเทศจีน ก็ไม่ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยโฆษกกระทรวงกล่าวว่า "ยังไม่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น"
ความน่าสยดสยองของเรื่องนี้ยังไม่จบเมื่อ เผิง ฉ่วย หายตัวไปหลังจากโพสต์ได้ไม่กี่วัน ไม่มีใครติดต่อเธอได้อีกเลย ซึ่งไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ ถ้าคุณทำอะไรที่ดิสเครดิตภาพลักษณ์ของคนในพรรคคอมมิวนิสต์ ต่อให้คุณโด่งดังแค่ไหน ก็ปลิวได้ทุกเมื่อ
เมื่อเผิง ฉ่วย หายตัวไป คนในวงการกีฬาทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น WTA รวมถึงโนวัค ยอโควิช ออกมากดดันรัฐบาลจีน ให้ตอบคำถามและอธิบายว่า เผิง ฉ่วยอยู่ไหน ยังปลอดภัยดีหรือไม่
จนมาถึงวันนี้ (18 พ.ย.) CGTN หรือ สื่อประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลจีน ได้ "แคปภาพ" โดยอ้างว่า ได้รับอีเมล์ที่เผิงฉ่วยส่งมา โดยในอีเมล์ดังกล่าวเธอเขียนว่า
"สวัสดีทุกคน นี่คือเผิง ฉ่วย
ตามข่าวที่หลุดออกไปในเว็บไซต์ของ WTA เรื่องนั้นถูกปล่อยออกไปด้วยความไม่ยินยอมจากฉัน และข้ออ้างทั้งหมดเรื่องความสัมพันธ์ลับ ไม่เป็นความจริง ฉันไม่ได้หายตัว หรือไม่ได้ตกอยู่ในความอันตราย ฉันพักผ่อนอยู่ที่บ้าน และทุกอย่างปกติดี ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง มา ณ ที่นี้ด้วย
อนาคตถ้า WTA อยากจะนำเสนอเรื่องราวของฉันอีก กรุณาขอคำเห็นชอบจากฉันก่อน ในฐานะนักเทนนิสอาชีพ ฉันขอความเห็นใจจากทุกคนด้วย ฉันหวังว่าจะมีโอกาสได้โปรโมทกีฬาเทนนิสในจีนให้ได้รับความนิยมมากขึ้น และฉันหวังว่า เทนนิสจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประเทศจีนด้วย"
ทันทีที่คนอ่านปั๊บ ก็บอกว่า "ใช่หรอ?" อีเมล์นี้มาจากเผิงฉ่วยจริงๆ หรอ เพราะดูการใช้ถ้อยคำ เหมือนโดนเขียนเองเบ็ดเสร็จโดยคนของพรรคคอมมิวนิสต์มากกว่า
ถ้าหากบอกว่าเผิง ฉ่วย ปลอดภัยจริง แค่ให้เธอปรากฏตัวออกมาแค่นั้น ไม่ใช่มีแต่อีเมล์ปริศนาแบบนี้ แต่จนถึงวันนี้ผ่านไป 2 สัปดาห์ ยังไม่มีใครพบเจอเธออีกเลย
คิดตามคอมม่อนเซนส์ ถ้าเธอไม่แอบซ่อนตัวเองจากใครสักคน ก็อาจโดนรัฐบาลจับขังไว้ไหนสักที่ หรือเลวร้ายที่สุด คือเธอโดนสั่งเก็บไปแล้ว
ณ เวลานี้ ทั่วโลกจึงติดแฮชแท็ก #WhereIsPengShuai เพื่อช่วยกันกดดันจีน ให้อธิบายความจริงข้อนี้ให้ได้
บทสรุปของเรื่องนี้ มีปริศนาหลายอย่างที่หาคำตอบไม่ได้ เช่น ความสัมพันธ์ของเธอ กับอดีตรองนายกฯ จีน เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และถ้าคนของพรรคคอมมิวนิสต์ผิดจริง คนที่จะโดนลงโทษควรเป็น อดีตรองนายกฯ หรือ ควรเป็นตัวเผิง ฉ่วย คนออกมาแฉกันแน่
นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก ที่ไม่จบง่ายๆ แน่ ซึ่งสถานการณ์ของจีนอาจจะทุเลาลง ถ้าผู้คนได้เห็น เผิง ฉ่วย ยังมีชีวิต
คือเธอจะเป็นชู้ หรืออะไรก็แล้วแต่ จะจริงหรือไม่จริง ก็ต้องไปว่ากัน แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เธอจะโดนพรากชีวิตไปแน่ๆ
จนถึงวันนี้ 18 พฤศจิกายน 2021 เธอยังคงหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย หลังจากที่โพสต์ ยังไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลยแม้แต่คนเดียว
- 95
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
