18 พ.ย. 2021 เวลา 13:45 • ท่องเที่ยว
First Impression! 𝐓𝐡𝐞 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐚𝐫𝐝, 𝐇𝐮𝐚 𝐇𝐢𝐧 พร้อมเปิดให้บริการวันที่ 1 ธันวาคมนี้ นำน้องหมา น้องแมว เข้าพักได้นะ… เปิดประเทศแล้ว แสนสิริมั่นใจนักท่องเที่ยวล้นแน่!
เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาคุณ อมาร์ ลัลวานี่ ซีอีโอ Standard International Management, LLC (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) บริษัทแม่ของเครือโรงแรม 𝐓𝐡𝐞 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐚𝐫𝐝 (เดอะ สแตนดาร์ด) ได้มีการแถลงข่าวข้ามทวีป เพื่อแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ท่ามกลางความผันผวนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยการประกาศเปรี้ยงว่าภายใน 1 ธค. นี้จะเปิดตัวโรงแรม 𝐓𝐡𝐞 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐚𝐫𝐝, 𝐇𝐮𝐚 𝐇𝐢𝐧 (เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน) รีสอร์ตติดชายหาดแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามด้วย 𝐓𝐡𝐞 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐚𝐫𝐝, 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤 𝐌𝐚𝐡𝐚𝐧𝐚𝐤𝐡𝐨𝐧 (เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร)
อันถือเป็นโครงการแฟล็กชิพประจำเอเชียของแบรนด์ ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2565 ซึ่งการเปิดตัวติดๆกันในไทยถึง 2 โครงการเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่น่าจะค่อยๆกลับมาสดใสอีกครั้ง ไม่แพ้เมืองท่องเที่ยวอื่นๆทั่วโลก
โดยการเปิดตัวแบรนด์ 𝐓𝐡𝐞 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐚𝐫𝐝 เข้าสู่ตลาดประเทศไทย ถือว่าทำได้อย่างถูกเวลาเนื่องจากประเทศไทยกำลังเดินหน้าเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยการผ่อนผันกฎเกณฑ์ในการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย และการเร่งปูพรมฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชน
Standard International Management, LLC บริษัทแม่ของโรงแรม The Standard แบรนด์โรงแรมที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะ หนึ่งในแบรนด์ที่มีนวัตกรรมด้านไลฟ์สไตล์ที่สร้างสรรค์โดดเด่นที่สุดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ โดย The Standard กำหนดเป้าหมายสำคัญของทุกโครงการให้มีความท้าทายขนบแบบเดิม ยกระดับสุนทรียภาพของรูปลักษณ์ให้จับต้องได้ และมอบประสบการณ์สุดพิเศษในแบบที่จะสัมผัสได้เฉพาะที่โรงแรมในเครือ The Standard เท่านั้น
โดยปัจจุบัน The Standard มีบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เป็นผู้ถือหุ้นหลัก 62% ได้เตรียมเปิดตัว 𝐓𝐡𝐞 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐚𝐫𝐝, 𝐇𝐮𝐚 𝐇𝐢𝐧 (เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน) ซึ่งเป็นรีสอร์ทติดชายหาดแห่งแรกของแบรนด์ในประเทศไทย โดยมีห้องพัก 178 ห้อง พูลวิลล่า 21 หลัง ติดหาด โดยวางเป้าให้ เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน เป็นจุดหมายที่ไม่เคยตกยุคสำหรับกลุ่มลูกค้าคนไทยผู้ชื่นชอบการพักผ่อนอย่างสร้างสรรค์และกลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนคลับของ The Standard ทั่วโลก
ในฐานะที่เราเป็นสื่อรายแรกๆที่ได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสบรรยากาศของตัวโรงแรม และทดลองเข้าพักในห้องแบบพูลวิลล่าเป็นครั้งแรกเลย ก็เลยขอโอกาสนี้มาเล่าสู่กันฟังครับ ว่าเรื่องราวของที่นี่น่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลย
หัวหินเป็นเมืองตากอากาศที่เริ่มจุดหมายของนักเดินทางตั้งแต่ พ.ศ. 2454 เมื่อเส้นทางรถไฟเชื่อมกรุงเทพฯ กับภาคใต้เริ่มให้บริการมาถึงเมืองชายหาดแห่งนี้ในช่วงกลางยุค 1920s (พ.ศ. 2463-2473) ก่อนที่จะกลายเป็นเมืองโปรดในช่วงวันหยุดสำหรับชนชั้นสูง ในช่วง 10 กว่าปีหลังจากนั้น เมื่อเวลาผ่านไป หมู่บ้านประมงเงียบสงบแห่งนี้เปลี่ยนโฉมเป็นเมืองริมทะเลจุดหมายหลักของนักเดินทางโดยยังคงเสน่ห์ดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้หัวหินยังเป็นเมืองโปรดในช่วงสุดสัปดาห์ สำหรับผู้คนจากกรุงเทพฯ ที่รอคอยประสบการณ์แบบที่ The Standard สัญญาว่าจะมอบให้ได้
นั่นคือ รีสอร์ตติดชายหาดที่โดดเด่นมีชีวิตชีวานำเสน่ห์ของหัวหินมาสะท้อนอยู่ในองค์ประกอบต่างๆ ของโรงแรม ภายใต้ความสง่างาม เรียบง่าย และเต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของทำเลอันเป็นที่ตั้งจองโรงแรม เสริมด้วยการนำเสนอที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และความสนุกสนานในแบบสากล
นอกเหนือจากที่ 𝐓𝐡𝐞 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐚𝐫𝐝, 𝐇𝐮𝐚 𝐇𝐢𝐧 จะตั้งอยู่ในจุดที่สามารถเดินเล่นชมทะเลและชมพระอาทิตย์ตกดินแล้ว อย่างถนนนเรศดำริห์ ซอยหัวหิน 65 ก่อนถึง The Chocolate Factory แล้ว ตัวโรงแรมเองยังถูกโอบล้อมด้วยเสน่ห์ต่างๆของใจกลางเมืองหัวหินซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งศิลปะที่มีซอกเล็กซอกน้อยให้เราได้สำรวจและเอร็ดอร่อยกับของกินนานาชนิดได้โดยไม่รู้เบื่อ ทั้งร้านอาหารริมถนน ร้านอาหารทะเลชื่อดัง จนไปถึงตลาดขายของแฮนด์เมดและงานศิลปะนานาชนิดสร้างสรรค์โดยชาวพื้นเมืองของหัวหิน
ห้องพักจำนวน 199 ห้อง ในรูปแบบสวีทและวิลล่า ทุกห้องมาพร้อม เรนชาวเวอร์ และ/หรืออ่างอาบน้ำ เครื่องปรับอากาศ ลำโพงบลูทูธ ทีวีจอยักษ์ มินิบาร์ พื้นที่นั่งชิลล์ Wi-Fi ชุดคลุมอาบน้ำ เซตอาบน้ำผลิตภัณฑ์ธรรมชาติจาก Davines และที่สำคัญที่โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาเข้าพักได้ และพนักงานทุกคนพร้อมที่จะต้อนรับเพื่อนสี่ขาของคุณเสมอ
โดยห้องที่ทางทีมงานเราได้เข้าพักคือห้องแบบ Standard Pool Villa มีจำนวนแค่ 19 ห้อง ที่มีขนาดอันโอ่โถงตั้งแต่ 99 – 106 ตร.ม มาพร้อมเตียงคิงไซส์ พื้นที่นั่งพร้อมเดย์เบ้ด มินิบาร์ ลำโพงบลูทูธไว้เปิดแทร็คลิสต์สุดโปรด ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มาพร้อมเรนชาวเวอร์และอ่างอาบน้ำแยก สวนขนาดย่อมสุดสบายตา และพื้นที่ใช้สอยที่มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวและเก้าอี้อาบแดด ที่เด็ดมากๆก็คือในห้องน้ำมี Disco Ball วิปวัป เหมาะกับการจัดปาร์ตี้ริมอ่างมากๆ ห้องนี้ผมลองไปเช็คราคาที่พักในช่วงวันที่ 1-2 ธค. ดูคือมีตั้งแต่ 15,400 บาท ไปจนถึง 16,900 บาทเลย
สำหรับใครที่ชอบความสงบสไตล์ Villa ส่วนตัวท่ามกลางแมกไม้ ที่นี่ก็ยังมี Villa อีกแบบชื่อว่า Canopy Villa จำนวน 7 ห้องขนาด 82 ตร.ม. วิลล่าชั้น 2 ที่มองเห็นยอดไม้พริ้วไหวได้ตลอดเวลา พร้อมเตียงคิงไซส์ มุมนั่งชิลล์ ชุดรับแขก มินิบาร์ เปิดเพลงฟังสบายๆด้วยลำโพงบลูทูธ เติมเต็มความสดชื่นด้วยเรนชาวเวอร์หรือจะแช่น้ำในอ่างก็ฟินไม่แพ้กัน แถมยังมีมุมแต่งตัวกับกระจกบานใหญ่ ระเบียงส่วนตัวพร้อมเก้าอี้อาบแดด และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน
ส่วนคนที่ชอบความเป็นที่สุด ต้องห้องนี้เท่านั้น Bayside Villa ขนาดโอ่โถงถึง 151 ตร.ม. มีแค่ 2 ห้อง ที่พร้อมมอบประสบการณ์พิเศษให้คุณได้ใกล้ชิดกับชายหาด สระว่ายน้ำส่วนตัว ร้านอาหารและบาร์ต่างๆ จนแทบจะนับก้าวได้ มาพร้อมเตียงคิงไซส์พร้อมผ้าปูสัมผัสนุ่มพิเศษ พร้อมโต๊ะทำงานให้เคลียร์งานก่อนจะเต็มที่กับเว็ตบาร์ที่อัดแน่นไปด้วยของกินดื่มเสมือนพร้อมที่จะปาร์ตี้ ห้องนั่งเล่นพร้อมเดย์เบ้ด สิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ห้องน้ำที่สาดส่องด้วยแสงไฟธรรมชาติที่พร้อมให้คุณเปลี่ยนบรรยากาศมาอาบน้ำท่ามกลางแสงแดดกับเรนชาวเวอร์แบบคู่ จะอาบคนเดียวหรือสองคนก็ได้ตามใจคุณ ตกดึกก็สามารถแช่ตัวในอ่างอาบน้ำใต้แสงจันทร์ ด้านนอกยังมีระเบียงพร้อมสระส่วนตัวที่เปิดโอกาสให้คุณได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ในสไตล์คุณ
สำหรับห้อง Type อื่นๆก็จะมี เริ่มต้นที่ Standard King ขนาด 35 ตร.ม. เรียงรายตั้งแต่ชั้น 1 ถึง ชั้น 3, Superior King ขนาด 35 ตร.ม ตั้งอยู่บนชั้น 4 ถึงชั้น 6, Standard Twin ห้องเตียงคู่ ขนาด 39 ตร.ม. บนชั้น 1 ถึงชั้น 3, Superior Twin ห้องเตียงคู่ บนชั้น 4 ถึงชั้น 6 ขนาด 39 ตรม. วิวสวนชั้นล่าง, Standard Suite บนตึกใกล้หาด ขนาด 54 ตร.ม. จำนวน 4 ห้อง และ Superior Suite 70 ตร.ม ที่มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ห้องน้ำแยกเฉพาะแขก และก็มี Disco Ball อยู่ตรงอ่างอาบน้ำเช่นกัน มีจำนวน 2 ห้องเท่านั้น…โดยราคาเริ่มต้นสำหรับห้อง Standard King จะอยู่ที่คืนละ 4,300 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า) เท่านั้น
นอกจากนี้โรงแรมยังมีทั้งห้องอาหาร และบาร์หลากหลายสไตล์ ได้แก่ Lido ลิโด้ ห้องอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนก็สามารถเสิร์ฟความอร่อยให้คุณเอนจอยได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเบรกฟาสรับอากาศสดชื่นยามเช้า มื้อกลางวัน หรืออิ่มอร่อยช่วงเย็นกับบรรยากาศชวนพักผ่อนให้เสียงคลื่นทะเลบำบัดและยกระดับการทานอาหารให้อร่อยขึ้นไปอีกขั้นตั้งแต่อาหารทะเลสดใหม่ขึ้นสะพานปลาใหม่ๆจากเรือตังเก เนื้อสัตว์เกรดพรีเมี่ยม และวัตถุดิบตามฤดูกาลนานาชนิดจับคู่กับคราฟท์ค็อกเทลและไวน์มากชนิด
Lido Bar บาร์ เมนูเครื่องดื่มหลากหลายเติมความสดชื่น ไม่ว่าจะโมเม้นต์ไหนก็อิ่มอร่อยไปกับของทานเล่นหลากหลายตั้งแต่ไทยถึงอเมริกันได้ทันที
.
Praça บาร์สุดชิลล์ริมทะเลสุดลูกหูลูกตาในร้านอาหารที่เปรียบเสมือนบ้านสมัยโคโลเนี่ยลที่เป็นมรดกตกทอดกันมานานาสมัย อิ่มอร่อยไปกับอาหารไทยในแบบฉบับดั้งเดิมพร้อมรูปแบบการนำเสนอที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนทีรักในการทานอาหารไทยได้ทุกคน
The Juice Café มีให้ครบจบในที่เดียวกับเมนูเครื่องดื่มหลากชนิดตั้งแต่กาแฟคั่วสด น้ำผลไม้คั้นสดหรือสกัดเย็น ของทานเล่นแบบเฮลตี้
.
โดยตัวโรงแรมยังเพียบพร้อมไปด้วยส่วนกลางหลักอย่างสระว่ายน้ำติดชายหาดสวยขนาด 25 x 14 เมตร, สปา, ห้องฟิตเนส และห้องจัดประชุมที่รองรับได้สูงสุดถึง 60 ที่นั่ง
.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือวางแผนจองห้องพักพร้อมรับข้อเสนอพิเศษจาก 𝐓𝐡𝐞 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐚𝐫𝐝, 𝐇𝐮𝐚 𝐇𝐢𝐧 ได้ที่ www.standardhotels.com/bangkok/properties/bangkok
โฆษณา