19 พ.ย. 2021 เวลา 08:00 • ปรัชญา
เชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าในวัยเด็ก ซึ่งนิทานนั้นเป็นนิทานที่สอนเราถึงความพยายามที่ สุดท้ายแล้วถ้าเราพยายามก็จะประสบความสำเร็จ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมได้เรียนรู้มากขึ้น และเริ่มเห็นจุดบอดของนิทานเรื่องนี้ วันนี้เลยอยากจะมาแบ่งปันความคิดเห็นให้ฟังกันครับ
นิทานเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของกระต่ายกับเต่าที่วิ่งแข่งกัน ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากระต่ายเป็นผู้ชนะอยู่แล้ว แต่กระต่ายกลับชะล่าใจคิดว่าเต่าคงใช้เวลาอีกนาน จึงนอนเอาแรงจนเต่าเข้าเส้นชัยไปก่อน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว โลกใบนี้ย่อมมีกระต่ายที่วิ่งจนสุดแรง ในขณะที่คุณเป็นแค่เต่า ซึ่งถึงแม้ว่าคุณจะใช้ความพยายามจนไปถึงเป้าหมายได้ แต่คนที่เป็นกระต่ายนั้นกลับไปไกลกว่านั้นหลายเท่านัก
ทุกคนไม่ได้เกิดมามีความถนัด, ทักษะ, และพรสวรรค์ที่เหมือนกัน ดังนั้นถึงแม้ว่าความพยายามจะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ แต่นั่นก็ต้องแลกกับหยาดเหงื่อและเวลาหลายเท่าเทียบกับคนที่มีพรสวรรค์และความถนัดด้านนั้น
เมื่อทุกคนไม่ได้เกิดมามีความถนัดที่เหมือนกัน ทำไมคุณต้องเอาด้านที่เป็นจุดอ่อนของคุณไปแข่งกับจุดแข็งของเขา?
อย่างในเรื่องกระต่ายกับเต่า ทุกคนรู้ว่าจุดเด่นของกระต่ายคือเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่จุดอ่อนของเต่าคือเคลื่อนที่ได้ช้า แล้วทำไมต้องแข่งวิ่งกันล่ะ? ถ้าลองเปลี่ยนไปแข่งว่ายน้ำ คุณจะพบว่าเต่าสามารถชนะได้อย่างง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องพยายามด้วยซ้ำ
ที่เป็นเช่นนี้ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ ผมพบเห็นคนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และเมื่อเขาไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือถนัดอะไร เขาย่อมไม่สามารถดึงจุดเด่นของตัวเองมาใช้ได้
และถ้าคุณไม่เป็นคนกำหนดสนามแข่งของตัวเอง คนอื่นก็จะเป็นคนกำหนดสนามแข่งให้คุณ!
ผมเชื่อว่าความพยายามอย่างเดียวไม่เพียงพอ หากเราพยายามไปเรื่อยเปื่อย คุณก็จะเป็นเหมือนกับเต่าที่ต้องใช้ความพยายามและเวลาหลายเท่าในการไปถึงเป้าหมายเหมือนคนอื่น แต่ถ้าคุณเลือกใช้ความพยายามไปกับสิ่งที่คุณถนัด ผมเชื่อว่าคุณจะเป็นกระต่ายที่ไปได้ไกลกว่านั้นอีกมาก
แล้วคุณล่ะคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง? มาแชร์กันได้นะครับ
โฆษณา