19 พ.ย. 2021 เวลา 11:13 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Don’t Breath 2
หนังสนุกดี แต่เสียตรงภาคนี้หายใจทั่วท้องเกินไปหน่อย
ใครเคยดูภาคแรกคงไม่ต้องอธิบายมาก หนังเป็นแนวระทึกขวัญเอาชีวิตรอดที่ใช้พื้นที่น้อย ตัวละครน้อย แต่เน้นใช้คุ้ม มีชายตาบอดที่แข็งแกร่งผิดมนุษย์และประสาทรับเสียงระดับมหาเทพ กับตัวละครกลุ่มหนึ่งที่ต้องหนีตายจากการไล่ล่าของเขา
ในภาคแรกหนังมันมีความโหดในระดับที่ชื่อหนังว่า “Don’t Breath” นี่ไม่ใช่ได้มาเล่นๆ คือแค่เสียงหายใจนี่ก็อาจส่งเราไปลงนรกได้เลย หนังมันเลยสร้างบรรยากาศแบบหนังสยองขวัญที่ทำให้คนดูกดดัน ผวา แล้วก็หายใจได้ไม่เต็มปอดร่วมไปกับตัวละครด้วย กลายเป็นจุดเด่นของหนังที่คนจดจำไปเลย
พอมาภาคสอง ข้อดีที่ชมไปตะกี๊ก็โดนลดทอนลงไปเยอะ หนังเปลี่ยนจากแนว ถูกไล่ฆ่าฝ่ายเดียว มาเป็นแนวแอคชั่นที่ต่างฝ่ายต่างล่ากัน มันไม่ใช่ว่าไม่สนุก แต่มันทำให้กลิ่นอายหนังทริลเลอร์ที่เป็นเสน่ห์ของภาคแรกมันหายไปด้วย ตอนดูเลยไม่ค่อยรู้สึกกดดันหรือหายใจไม่ทั่วท้องแบบภาคแรกแล้ว ซึ่งส่วนนี้น่าเสียดายมาก
หนังมีความเป็นแอคชั่นมากขึ้น ตาลุงบอดที่โหดจัดในภาคแรกมาภาคนี้ก็ได้ถูกล่ากับเค้าบ้าง ซึ่งถ้ามองในแง่ของหนังแอคชั่นเราคิดว่าหนังทำออกมาได้ดีในระดับน่าพึงพอใจเลยนะ หนังยาวชั่วโมงครึ่งแต่ดูแป๊บๆ ก็จบแล้ว ทำให้เรารู้สึกว่าเรา Enjoy กับจังหวะที่หนังเล่า มันไม่มีช่วงช้าๆ ยืดเยื้อ หนังเกริ่นอินโทรไม่นาน พอเริ่มตีกันก็แทบจะตีกันไปตลอดจนจบเรื่องเลย
ที่น่าชื่นชมคือภาคนี้เรารู้สึกเหมือนว่าลุงตาบอดได้เป็นตัวเอกของหนังจริงๆ เพราะหนังมันพาเราไปรู้จักลุงมากขึ้น เล่าอดีต ถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ผ่านมุมมองของลุง จากที่ลุงเหมือนเครื่องจักรสังหารโหดในภาคแรก มาภาคนี้ก็ดูเป็นคนมากขึ้น ดูแล้วรู้สึกสงสาร เห็นใจ อยากเชียร์ลุงแกมากขึ้นไปด้วย
ส่วนตัวละครอื่นๆ อย่างเด็กน้อยฟินิกซ์ ลูกสาวลุงตาบอดที่เพิ่มมาในภาคนี้ก็น่ารักน่าชัง น้องขโมยซีนเก่งมาก ถ้าจะมีเซ็งๆ เรื่องตัวละครหน่อยก็มีตัวร้ายนี่แหละ ที่เปิดตัวเหมือนจะดี แต่ช่วงไคลแมกซ์นี่เล่าได้จืดสุดๆ กลายเป็นตัวประกอบมิติแบนราบจนไม่รู้สึกอยากจดจำเลย
อันที่จริง หนังมันก็มีส่วนสำคัญให้พูดถึงแค่นี้ เราคิดว่า Don’t Breath 2 ทำออกมาได้ดีเสมอตัว แต่ไม่ค่อยสมชื่อที่ตัวเองเคยสร้างไว้สักเท่าไหร่ ถ้าใครคาดหวังหนังแอคชั่นสนุกๆ มีฉากระทึก พอให้ได้ลุ้น เรื่องนี้ก็ใช่เลย แต่ถ้าอยากได้ความดิบ โหด มีกลิ่นอายหนังสยองขวัญแบบภาคก่อนก็เสียใจด้วย เพราะหนังทำได้ไม่ถึงจุดนั้่น เรียกได้ว่าดูภาคสองนี่นั่งหายใจทิ้งได้สบายๆ จะมีฉากตกใจบ้างแต่ก็น้อยมาก
อ้อ หลังจบมี End Credit นิดหน่อย แต่สั้นมากๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นการเปรยๆ ว่าหนังอาจจะขยายจักรวาลไปภาค 3 หรือทำอะไรต่ออีกมั้ย ก็ถือว่าน่าสนใจดี เพราะถ้าหนังจะยังได้ไปต่อ เราก็หวังว่าหนังจะได้บทเรียนจากภาคนี้ แล้วเอาไปปรับปรุงหาจุดที่ลงตัวให้กับโทนของหนังว่าตกลง Don’t Breath ควรจะเป็นหนังแนวไหนกันแน่ ถ้าภาคนี้พลิกล็อคคนชอบเยอะภาคหน้าอาจจะได้เป็นแอคชั่นเต็มรูปแบบกว่านี้อีกก็เป็นได้
สรุป หนังสนุก! คุ้มค่าตั๋วนะ แต่ก็ผิดหวังนิดหน่อย อยากให้มันคงเอกลักษณ์ของภาคแรกไว้ได้มากกว่านี้ซักนิดคงจะดี
⭐️⭐️⭐️🌑🌑
Ace
211119
โฆษณา