26 พ.ย. 2021 เวลา 12:19
ตอนที่ 10. อัศจรรย์ แห่งความเมตตา
ความเมตตาที่เรามีให้กับผู้อื่นโดย
ไม่หวังสิ่งใดกลับคืน
ผลของมันกลับหวานชื่นกว่าที่คิด
ภาพถ่ายโดย Erik Mclean จาก Pexels
อยู่ ๆ ฉันก็คิดถึงแม่ขึ้นมา...
ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ แม้เราจะทะเลาะกันบ่อยและทะเลาะกันแทบจะทุกเรื่องที่คุยกัน
แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น ทำให้เราไม่ต้องทะเลาะกัน นั่นคือเรื่องเล่าในอดีตของแม่
แม่ฉันมีหลายมุมของชีวิต มีทั้งสนุกตื่นเต้น และรันทดหดหู่ ฉันชอบให้แม่เล่าเรื่องในอดีตให้ฟัง และนึกภาพตาม ทำให้เห็นภาพชีวิตสโลว์ไลฟ์ของคนสมัยก่อน
แม่เป็นลูกสาวคนโตในจำนวนพี่น้อง 5 คนมีพี่ชายคนนึง น้องผู้หญิง 2 คน และน้องผู้ชาย 1 คน
คุณตาเป็นคนจีนแท้ ๆ ที่มาจากเมืองจีนขยันและเก่งเรื่องการค้าขาย ที่บัานจะมีข้าวสาร อาหารแห้ง ข้าวของเครื่องใช้
ทั้งอุปโภคและบริโภคต่าง ๆ ที่ซื้อติดบ้าน
ไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อแบ่งขาย
และคุณตาจะจัดของกินและของใช้จำนวนหนึ่งลงเรือ...พายขายของไปเรื่อย ๆ ตามบ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลำคลอง
สมัยก่อน...พ.ศ.2472 ปีที่แม่เกิด
คนสมัยนั้นยังนิยมเดินทางด้วยเรือเป็นส่วนใหญ่ แทบทุกบ้านจะมีเรือเป็นของตัวเอง คนที่มีฐานะก็จะมีเรือหลายลำ
แต่ละบ้านจะมีท่าน้ำเป็นของตัวเอง ตอนดิฉันเป็นเด็กก็ยังทันได้ใช้ท่าน้ำ พายเรือ และว่ายน้ำเล่นกับเพื่อน ๆ สมัยนั้นน้ำยังใสสะอาดอยู่มาก
โดยเฉพาะหลังฝนตกใหม่ ๆ น้ำจะเยอะมากเป็นพิเศษ และอุ่นด้วย
ฉันกับพี่ ๆ และเพื่อน ๆ จะลงเล่นน้ำในคลองอย่างสนุกสนาน
เราจะมีห่วงยางคนละอัน เป็นห่วงยางสีดำ อันใหญ่บ้าง อันเล็กบ้าง
ห่วงยางสีดำ
เป็นที่สุดของอุปกรณ์แห่งความสนุก ในตอนนั้น วัยเด็กของฉัน
สมัยนั้นมีกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ เกาะอยู่ตามเสา
แม่เล่าให้ฟังว่า
ถ้าอยากกินต้มยำกุ้ง แค่เตรียมน้ำใส่หม้อ พร้อมทุบพริกชี้ฟ้า ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
ใส่น้ำไว้ ตั้งไฟรอ
แล้วเดินลงมาท่าน้ำล้วงลงไปตามเสาก็เจอกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ แล้ว
แต่พอมาถึงรุ่นฉัน ก็ยังมีกุ้งแม่น้ำเหลือพอให้เห็นอยู่บ้าง แต่ไม่ง่ายที่จะเจอกุ้งตัวโต ๆ มากมายเหมือนรุ่นแม่สักเท่าไหร่
...ตอนที่แม่อายุได้สักประมาณ 9 ปี มีเหตุการณ์ที่ทำให้แม่ต้องจำจนวันตาย เนื่องจากถูกสุนัขกัดจนเกือบเสียชีวิต
ภาพจาก ไทยหลังอาน by chran9 movie
ไอ้ดำ เป็นสุนัขไทยเพศผู้สีดำหลังอาน
มีขนสีดำเทา ๆ มันเป็นสุนัขที่หลงทางมา หากินอยู่ในละแวกบ้าน มันดุมากและไม่ยอมไว้ใจใคร
มันไม่ถูกชะตากับแม่เลย เมื่อไหร่ที่เห็นแม่ มันพร้อมที่จะกัดอยู่ทุกเมื่อ ซึ่งแม่ต้องคอยระวังตัวอยู่เสมอ
แต่ถึงอย่างนั้นแม่ก็พลาด ถูกมันกัดจนได้
แม่เปิดร่องรอยที่ไอ้ดำ...ประทับรอยกัดไว้
ให้ฉันดู...
เนื้อบางส่วนที่น่องขวาของแม่นั้นแหว่งไปจนน่าตกใจ
แม่เล่าให้ฟังว่า วันนั้นมันเข้ามาแอบอยู่ใต้ถุนบ้านญาติที่แม่ไปนั่งเล่นเป็นประจำ
พอถึงช่วงเย็นที่แม่จะกลับบ้าน
1
ขณะที่แม่เดินลงบันไดมาเรื่อย ๆ พอถึงขั้นสุดท้าย...ทันทีที่เท้าแตะพื้นเท่านั้น
ไอ้ดำก็โผล่ออกมาจากใต้ถุน ขย้ำน่องขวาของแม่จนเนื้อหลุดติดปาก แล้วมันก็วิ่งหายไป
แม่ตกใจกลัวจนหมดสติ...
หลังจากที่ไอ้ดำกัดแม่...มันก็หายหน้าไปเลย ทิ้งบาดแผลฉกรรจ์ไว้ให้แม่ดูต่างหน้า
แม่ล้มป่วยนอนซมเพราะพิษไข้ คุณตาก็พยายามรักษาตามแบบฉบับของคนจีน
คือต้มสมุนไพรให้แม่...ทั้งกินและพอกที่แผล แต่อาการของแม่ไม่ดีขึ้นเลย
ปากเริ่มเบี้ยว แผลก็เน่ามีน้ำเหลืองไหลซึมตลอดเวลา จนคุณตาต้องเอาใบตองปูให้แม่นอน
แม่ทานอาหารไม่ได้ ต้องนอนรอให้คุณยายหยอดน้ำข้าวต้มให้อย่างเดียว
1
วันหนึ่งขณะที่ทุกคนไม่อยู่บ้าน แม่ถูกทิ้งไว้ตามลำพัง
1
มีชายแก่เนื้อตัวมอมแมมเดินทางผ่านมา
เห็นแม่นอนอยู่ตรงนอกชานบ้าน
1
จึงเดินมาหาแม่ เพื่อขอข้าวขอน้ำกิน แม่ก็บุ้ยใบ้ให้เขาไปหากินในครัว
หลังจากที่กินข้าวกินน้ำเสร็จแล้ว เขาก็มาขอบใจแม่
แต่แม่เป็นห่วงกลัวว่าเขาจะหิวอีก
จึงพยายามสื่อสารกับชายแก่ทั้ง ๆ ที่ปากก็เบี้ยว เพื่อให้เขาเอากับข้าวกับปลา และพวกข้าวสารอาหารแห้งติดตัวไปด้วย
1
....ด้วยความมีเมตตาของแม่ ในวันนั้น
จึงเกิดเหตุ 'อัศจรรย์' ขึ้น...ชายแก่คนนั้น
ยื่นเศษกระดาษแผ่นนึงให้แม่
2
กำชับแม่ว่าให้เอาให้คนที่บ้านอ่าน มันคือตำรายาผีบอก จะช่วยรักษาอาการป่วยของแม่ได้...แล้วแกก็จากไป
1
แม่ยื่นเศษกระดาษให้คุณตาอ่าน ทันทีที่คุณตากลับถึงบ้าน ในตอนเย็นของวันนั้น
"ให้เอาลิ้นของหมาตัวที่กัด เอาเฉพาะส่วนที่มีปาน มาทำความสะอาด แล้วผิงไฟให้สุกจนแห้ง จากนั้นนำมาบดให้ละเอียด
1
แล้วท่องนะโม 3 จบ ตามด้วยพระคาถาที่ให้มานี้ อีก 9 จบ ตั้งจิตอธิษฐานตามความปราถนา แล้วนำผงเนื้อนั้นมาโรยที่แผล เป็นเวลา 3 วัน"
1
เมื่ออ่านจบทุกคนก็ช่วยกันออกตามหา
หมาสีดำตัวนั้น ข้ามคืนข้ามวัน
จนกระทั่งไปเจอมันนอนตายอยู่ข้างทาง และมันมีปานขนาดใหญ่สีดำที่ลิ้นตามที่บอกจริง ๆ
1
เมื่อตัดลิ้นหมาตัวนั้นได้แล้ว คุณตาก็ช่วยจัดการฝังร่างของมัน พร้อมขออโหสิกรรมกับมันแทนแม่
หลังจากนั้นก็ทำตามคำแนะนำของชายแก่
....ช่างน่า "อัศจรรย์" จริง ๆ
1
เพราะอาการของแม่ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งหายป่วยในที่สุด...แม้แต่ปากแม่ก็หายเบี้ยวด้วย
1
....ย้อนมาเรื่อง "งมกุ้ง" พอแม่เริ่มแตกเนื้อสาว แม่ก็พัฒนาเรื่อง "การงมกุ้ง" ไปไกลถึงเขตดุสิต
พระตําหนักจิตรลดารโหฐาน rspg.or.th ปีค.ศ. 2016
บริเวณรอบพระตำหนักมีการขุดคูและทำกำแพงรั้วเหล็กโดยรอบ
พระตําหนักจิตรลดารโหฐาน th.tripadvisor.com ปีค.ศ. 2018
แม่ชอบแอบพายเรือไปตามลำพัง เพื่อไปแอบงมกุ้งแถววังสวนจิตร
ด้วยมีความหวังว่าจะได้ยลพระสิริโฉมอันงดงามของทูลกระหม่อมทั้ง 3 พระองค์
(พระพี่นาง ร.8 และ ร.9)
และได้กุ้งด้วย ซึ่งฉันก็แอบขำในความคิดของแม่ฉัน (รู้เลยว่า "นิสัยเสี่ยง" แบบนี้ฉันได้มาจากใคร)
ฉันนึกไม่ออกเลย...ว่าแม่จะไปบังเอิญพบทูลกระหม่อมทั้ง 3 ได้ยังไง
แต่ความพยายามของแม่ก็เกิดผลสำเร็จในวันหนึ่ง ขณะที่แม่กำลังเพลิดเพลินกับการแอบงมกุ้งอยู่นั้น...
1
ภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 ข้อมูลและภาพจาก ทวิตเตอร์ : @Hazzaame และ @papertiipiitii
....แม่ก็สังเกตุเห็นบุรุษน้อย 2 ท่าน พากันวิ่ง
จ็อกกิ้งอยู่รอบ ๆ วังสวนจิตร...แม่ลงทุน
ดำน้ำไปแอบดูใกล้ ๆ บรเวณนั้น 😳
"แม่ว่า...น่าจะใช่ทูลกระหม่อมทั้ง 2 พระองค์ (ร.8 และ ร.9) จริง ๆ เพราะแม่สังเกตุเห็นมีทหารรักษาพระองค์อยู่แถวนั้นหลายคน" แม่ยืนยันกับฉันแบบนั้น 😀
"ทูลกระหม่อมทั้งสองพระองค์ ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม...เป็นบุญตาและวาสนาของแม่จริง ๆ" แม่กล่าวด้วยความปลาบปลื้มใจ 😄
1
....และก็มีแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว
เพราะหลังจากวันนั้น คุณตาก็สั่งห้ามแม่
ไม่ให้ไปแถววังสวนจิต โดยเด็ดขาด
เพราะกลัวใครจะมาพบแม่เข้า...เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ 😂
Based on TRUE story
By memee
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
โฆษณา