World order กับ Cryptocurrency
ดูๆเเล้วก็คิดนะว่า Cryptocurrency อาจเป็น world order ใหม่ที่จะเเบ่งโลกออกเป็นส่วนที่ยอมรับเเละไม่ยอมรับ เเต่ยังคิดไม่ออกว่าใช้วิธีไหนถึงควบคุมได้ ในยุคเก่า world order ทำงานจากระบบธนาคาร
ที่อาศัยการสร้างระบบการเงิน ควบคุมระบบเศรษฐกิจเเละควบคุมคนไม่กี่คนในระบบการเงินเเล้วก็คุม system ที่เรียกว่าการเมืองกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกทีเเล้วปล่อยให้ธุรกิจเติบโต พอที่ไหนมากเกินไปธุรกิจนั้นก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งของระบบเหมือนธุรกิจที่มีลักษณะผูกขาดในปัจจุบันไม่ก็โดนเก็บเกี่ยวหรือที่เราอาจเรียกว่า Crisis เงินกู้ policyที่เสียเปรียบ บางครั้งก็สงคราม ล่าอาณานิคม ขึ้นอยู่กับยุคสมัย
เเต่เหมือน Cryptocurrency จะส่งผลกับความมั่นคงทางการเงินของประเทศที่มีนโยบายว่าห้ามมี Crisis เป็นอันขาดอย่างจีน จึงทำการปิดกั้นเเละเปิดCryptoของตัวเอง ประกอบกับความได้เปรียบของจีนต่อ world order ในเรื่องของทรัพยากรเเละกำลังบริโภค จนเป็นที่น่าสังเกตุว่าคนที่นำระบบ Crypto มาใช้เเละสนับสนุนในช่วงหลังเป็นกลุ่มที่ต้องการให้ตัวเลือกกับจีนหรือไม่ว่า จะเปิดช่องรับ Cryptoเพื่อให้ทันโลกเเลกกับการอาจโดนเเทรกเเซงหรือปิดกั้นเเละตามโลกไม่ทัน
ซึ่งด้วยความสามารถในการผลิตเเละบริโภคของจีนการพัฒนา hardtech สามารถทดเเทนในส่วนของ softtech อย่าง Crypto ได้จากทรัพยากรที่มีอย่างล้นหลาม เเละอาจใช้เกาะฮ่องกงเป็นศูนย์กลาง softtech เมื่อตนมีความพร้อม โดยก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เพราะจีนปฏิเสธ softtech ของต่างชาติทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Google เนื่องการเข้าถึงข้อมูลซึ่งเปรียบได้กับนำ้มันในยุคใหม่ หรือถ้าคิดในทางกลับกันสิ่งเหล่านี้ก็เหมือนเครื่องมือหนึ่งของ world order ที่ไว้สร้างสิ่งที่เรียกว่า globalization หรือโลกไร้พรมเเดนเพื่อให้สะดวกในการเข้าถึงเเละควบคุมความคิดคน เพื่อผลประโยชน์ในการควบคุมปัจจัยทาง เศรษฐกิจ การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะด้วยระบบในปัจจุบันหากควบคุมประชาชนได้ก็จะได้รับความชอบธรรม เเละใช้หลักเเค่ปล่อยนำ้จากที่สูงนำ้ก็ไหลลงที่ต่ำเสมอ หรือที่แปลว่าในการทำอะไรนิดหน่อยก็เเทบจะควบคุมหรือสร้างสถานการณ์ต่างๆได้ไม่ยากเย็นอะไร หรือถ้าเรียกในวงการนักลงทุนอาจเรียกว่า panic buy panic sell หรือในคริปโต ก็พวกปั่นเหรียญมีมโดยมีคำพูดติดตลกว่าถ้าคุณให้เงินผม 100 ล้านผมสามารถสร้างกลุ่มคนที่มีความคิดที่ตามที่คุณต้องการ ถ้าให้ผม 1000 ล้านผมสามารถทำให้เกิดการสงครามกลางเมืองในประเทศเล็กๆได้ไม่ยากเย็นโดยใช้เพียง Social Media เเละอาจจ้างคนก่อการใต้ดินเพียงไม่กี่คน ยิ่งกับประเทศจีนที่มีประเด็นให้เล่นเยอะรัฐบาลคงต้องปราบจลาจลรายวันเลยละครับ จนอาจกลายเป็นหลายๆประเทศเเละกลายสภาพเหมือนสงครามฝิ่นเเต่ในรูปเเบบปัจจุบันอาจเป็นการโดนเเทรกเเซงจนพรุนเเทน ในอนาคตอาจเห็นการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของจีนมากขึ้นครับ เพื่อสร้าง tech ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง เหมือนประเทศเยอรมันในปัจจุบันใน scale ที่ใหญ่กว่า
เเต่ส่วนตัวมองว่าประเทศขนาดกลางอย่างไทยการยอมรับ Crypto เป็นสิ่งที่สมควรทำเป็นอย่างมากเพื่อให้ตามโลกให้ทันเเละไม่ถูกรั้งท้ายเพราะไทยไม่ได้มีข้อได้เปรียบมหาศาลเหมือนจีนเเละให้ออกสกุลของตัวเองเผื่อไว้สำหรับการเเทรกเเซงที่อาจจะมีในอนาคตจากระบบ Crypto
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
