Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หาเรื่องเล่า
•
ติดตาม
23 พ.ย. 2021 เวลา 02:24 • บันเทิง
“ผีพรายสวนดุสิต’
มีเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา จากคนเฒ่าคนแก่ ซึ่งเคยเป็นนางข้าหลวง เป็นเด็กที่เติบโตในพระราชวังสวนดุสิต ได้เล่าเรื่อง “ผีพรายในวัง” ไว้ดังนี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่5 ครั้งที่พระองค์ท่านย้ายวังมาประทับที่พระราชวังสวนดุสิต ในรัชสมัยของพระองค์ท่าน พระราชวังสวนดุสิตถูกสร้างเสร็จใหม่ๆ ว่ากันว่าสวยงามดั่งเมืองสวรรค์ ภายในรอบบริเวณพระราชวังอบอวลไปด้วยไม้ดอกและไม้ผลมากมาย เมื่อถึงฤดูออกดอกออกผล ลูกใหญ่ลูกเล็กมากมาย ห้อยระย้าอยู่เต็มต้น ทั้งฝรั่ง มะม่วง ทับทิม กระท้อน ฯลฯ เมื่อมีมากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนในวัง ทั้งๆที่เป็นของที่อยู่ในเขตพระราชทาน ผลไม้หลายๆต้น ก็ยังไม่วายที่จะถูกมือดีขโมยเอาไปกิน รวมไปถึงผลไม้บางลูกยังพบรอยฟันแทะคาต้น ทิ้งไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย
ครั้งนั้นเรื่องขโมยผลไม้ในวังกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนถึงขั้นที่พระองค์ท่านต้องเสด็จมาทอดพระเนตรด้วยตัวพระองค์เอง และตรัสว่าไม่น่าจะเป็นฟันของกระรอก กระแต แต่ลักษณะเหมือนฟันของมนุษย์เสียมากกว่า เห็นทีว่าจะต้องจับหัวขโมยมาลงโทษให้ได้ จึงมีการตั้งรางวัลนำจับขโมยด้วยจำนวนเงิน2ตำลึง ในสมัยนั้น
พอตกกลางคืน บรรดาข้าหลวงนางกำนัลและมหาดเล็กก็ไม่ต้องหลับต้องนอนกัน เพราะต้องมาคอยดักซุ่มจับโจรเพื่อหวังจะเอาเงินรางวัล และการมาซุ่มจับนั้นจะอยู่เป็นกลุ่มๆ หลายคืนผ่านไปก็ยังไม่มีวี่แววเจ้าหัวขโมย แต่ก็ยังไม่มีใครย่อท้อ ยังตั้งหน้าตั้งตาดักซุ่มหัวขโมย เพราะใจหนึ่งก็อยากรู้ว่า ใครมันช่างใจกล้า ที่มาขโมยของในพระราชวังกันแน่ แต่ในยามดึกแบบนั้น ทั่วทั้งวังก็เงียบสงัด วังเวง เย็นยะเยือกให้ชวนขนลุก ทำให้พวกที่มาดักจับขโมยเริ่มรู้สึกหวาดๆอยู่เหมือนกัน เพราะวังนี้ต่างก็ร่ำลือถึงผีเด็กผมจุกมักออกมาวิ่งเล่นกลางดึกอยู่บ่อยๆ ใครดวงดีก็จะเห็น
การดักจับขโมยยังคงดำเนินไปต่ออยู่ทุกคืน บางคืนก็มีเรื่องให้ขำ เมื่อต่างฝ่ายต่างมีหลายกลุ่ม หลายตำหนัก ลงมาซุ่มจับขโมย แล้วมีการสงสัยกันเองภายในกลุ่ม จนเกิดอลเวงไปทั้งวัง เพราะที่แท้แล้วไม่ใช่กลายเป็นพวกเดียวกัน และขนาดช่วยกันดักจับอยู่ทุกคืน ยังประหลาดเพราะผลไม้ก็ยังคงหายอยู่เช่นเดิม แถมบางลูกห่อกระดาษไว้อย่างดี ก็ยังถูกเด็ดไป
กระทั้งคืนหนึ่ง เล่าว่าคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด ทั่วทั้งพระราชวังก็เงียบสงัด แต่พวกชาววังก็ยังคงมาซุ่มดักจับขโมยอยู่เช่นเดิม ชาววังกลุ่มหนึ่งได้มาแอบซุ่มบริเซณใต้ต้นฝรั่งต้นหนึ่ง ที่กำลังออกผลเต็มต้น ใกล้จะสุกเก็บกินได้แล้ว และต้นนี้เองเป็นต้นเดียวกับที่ล้นเกล้าล้นกระหม่อม รัชกาลที่5 ท่านทอดพระเนตรพบรอยแทะทิ้งไว้
คืนนั้นในกลางดึกเงียบสงัด ก็มีเสียงประหลาด พร้อมมีเงาดำๆวิ่งไปทางต้นฝรั่ง ทำให้ชาววังที่มาดักจับหัวขโมย ต้องตกใจ หัวใจเต้นแรงแทบจะออกมานอกอก เพราะได้ยินเสียงผิดปกติมาจากทางสระน้ำใกล้ต้นฝรั่ง ทันใดนั้นก็เห็นเงาดำ ปีนขึ้นไปบนต้นฝรั่ง นั่งกัดเคี้ยวกินฝรั่งอย่างหิวกระหาย พวกข้าหลวงนางกำนัล ที่มาดักจับ ต่างกรูพากันเข้าล้อมต้นฝรั่งไว้ หวังจะดูหน้าของหัวขโมยให้ชัดๆสักที จึงพากันตะโกนเรียกร้องขู่ให้มันลงมาจากต้นฝรั่ง แต่ไม่ว่าจะเรียกสักเท่าไหร่ เงาดำร่างนั้นก็ยังคงเฉย ราวกับว่ามันไม่ได้ยินเสียงเรียกของคนข้างล่าง
เวลาผ่านไปสักพัก ในที่สุดเงาดำนั้นก็กระโดดลงมาดดังตุ๊บ!! พวกผู้ชายต่างก็พากันรุมตะครุบจับ แต่ก็จับไม่ได้เพราะตัวลื่นอย่างกับมีเมือกทั้งตัวแถมยังว่องไว ปราดเปรียวผิดปกติมนุษย์ธรรมดา เจ้าเงาดำกีบวิ่งไปที่สระน้ำ ก่อนที่มันจะกระโดดไปในสระ แล้วจมหายไป แม้ว่าทุกคนจะรอให้มันโผล่ขึ้นมา แล้วจะจับ เพื่อเอาเงินรางวัล2ตำลึง ก็ไม่ปรากฏร่างดำๆ โผล่ขึ้นมาอีกเลย ทันใดนั้น ทุกคนที่ยืนมุงอยู่เงียบๆ อยู่ขอบสระ ได้มีข้าหลวงคนหนึ่งพูดด้วยเสียงสั่นคลอนเหือดแห้งว่า “งั้นก็ผีนะสิ”
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย