23 พ.ย. 2021 เวลา 09:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
‘Dune’ และ ‘No Time to Die’ กลายเป็นหนังนำเข้าเรื่องแรก ๆ ในช่วงการระบาดที่ได้รับอนุญาตให้ฉายได้ยาว ๆ ในจีน
ทางการจีนประกาศออกมาเมื่อวันพุธที่ 17 พฤศจิกายนว่า หนัง ‘Dune’ และ ‘No Time to Die’ จะได้ฉายในโรงต่อไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน ทำให้หนังบล็อกบัสเตอร์ทั้ง 2 เรื่องได้ฉายในจีน ตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดยาว ๆ ถึง 2 เดือนเต็ม โดย ‘Dune’ จะได้ฉายไปจนถึง 21 ธันวาคม ส่วนหนังบอนด์จะเป็นวันที่ 28 ธันวาคม หากหนังยังเดินหน้าทำเงินไปได้เรื่อย ๆ ซึ่งปกติแล้วการให้ได้ฉายในระยะเวลายาว ๆ แบบนี้ จะมีเฉพาะหนังโฆษณาชวนเชื่อ ที่ความสำเร็จในเรื่องรายได้ของหนังถือเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองด้วยเช่นกัน
ในช่วงที่การระบาดสูงที่สุด ตั้งแต่กรกฏาคม 2020 – เมษายน 2021 บรรดาหนังนำเข้าได้รับอนุญาตให้ฉายได้นานถึง 3 เดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด แต่กับการประกาศล่าสุด ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การระบาดเริ่มต้น ที่มีการขยายเวลาเป็นพิเศษให้กับหนังเรื่องสำคัญ ๆ ไปอีกหนึ่งเดือน นั่นหมายความว่า นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไม่มีหนังนำเข้าเรื่องไหนที่ได้ฉายนานกว่า 1 เดือนเลยในจีน ถึงแม้ว่าหนังบางเรื่องจะได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษก็ตาม ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้เวลากับหนังการเมืองเรื่องสำคัญ ๆ ที่ออกฉายในวาระครบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม
โดยหนัง ‘F9: The Fast Saga’ มีเวลาฉายในโรงแค่เดือนเดียว นับตั้งแต่เปิดตัวในวันที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งหนังทำเงินไปถึง 204 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วน ‘Free Guy’ ที่ทำเงินไป 94.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ก็ไม่ได้ฉายไปถึงเดือนที่สอง เพราะต้องให้หนังเจ้าถิ่นเปิดตัวในช่วงวันชาติ 1 ตุลาคม
การยืดระยะเวลาฉายออกไปถือว่าเป็นข่าวดี แม้ระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เดือนไม่ถึงกับทำให้ ‘Dune’ หรือ ‘No Time to Die’ ทำรายได้มากขึ้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดย ‘Dune’ ถูกมองว่าจะทำรายได้ในจีนราว ๆ 39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 249 ล้านหยวน ส่วน ‘No Time to Die’ คาดกันว่า หนังน่าจะทำเงินประมาณ 62.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 401 ล้านหยวน
โดย ‘Dune’ เป็นหนังนำเข้าทำเงินอันดับ 7 ในปีนี้ของจีน ส่วน ‘No Time to Die’ อยู่ที่อันดับ 4
#MovieStory: ‘Lords of Dogtown’ ว่าด้วยชีวิตเด็กเล่นสเก็ตบอร์ดและกระดานโต้คลื่น 3 คนที่สไตล์การเล่นบอร์ดและใช้ชีวิตแตกต่างกัน และทำให้การเล่นเสก็ตบอร์ดเปลี่ยนไปจากเดิมจนถึงทุกวันนี้ อ่านเรื่องราวเต็มๆ กันได้ที่นี่ > https://bit.ly/3mH0oDu
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
โฆษณา