23 พ.ย. 2021 เวลา 04:44 • กีฬา
บางครั้งคนผิวดำกับกล้วย ก็ไม่ใช่คำเหยียดผิวเสมอไป นี่เป็นประเด็นน่าสนใจของดาวรุ่งผิวดำของโรม่า ที่โดนหยิบยกเรื่องกล้วยมาแซว จนเป็นดราม่าในขณะนี้
วันนี้มีโลกประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อโชเซ่ มูรินโญ่ เฮดโค้ชโรม่า ให้ของขวัญกับกองหน้าวัย 18 ปี เฟลิกซ์ อเฟน่า-กียาน เป็นรองเท้า 1 คู่ พร้อมกับเสียงแซวจากเพื่อนๆ ว่า แค่รองเท้าจะพออะไร ทำไมไม่ให้กล้วยไปด้วยล่ะ
แน่นอน เมื่อมีคีย์เวิร์ดว่า "กล้วย" กับคนแอฟริกัน จึงกลายเป็นดราม่าทันทีว่าเพื่อนร่วมทีมจะไปเหยียดผิวเขาทำไม
แต่ก่อนที่เราจะเล่าไปถึงตรงนั้น เราจะเริ่มต้นที่ตัวอเฟน่า-กียาน กันก่อน
อเฟน่า-กียานคือใคร? เขาคือดาวรุ่งของทีมโรม่า ที่ตอนแรกเล่นอยู่กับทีมพริมาเวร่า หรือ ยู-19 ของอัลแบร์โต้ เด รอสซี่ แต่ถูกดันขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี่เอง
อเฟน่า-กียาน เป็นชาวกาน่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครรู้จักเขา เพราะไม่เคยมีประวัติติดทีมชาติเยาวชนใดๆ เขาเป็นแค่กัปตันทีม ในโรงเรียนมัธยมปลายแค่นั้น
แต่อยู่ๆ โดยไม่รู้ตัว ฝีเท้าของอเฟน่า-กียาน ก็ไปเข้าตาโอลิเวอร์ อาร์เธอร์ แมวมองคนดัง ก่อนจับเซ็นสัญญาแล้วดึงไปเล่นให้อะคาเดมี่ชื่อ EurAfrica
เมื่อได้ลงเล่นให้ EurAfrica ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนฟุตบอลชื่อดังในกาน่า จึงมีหลายสโมสรในยุโรป ให้ความสนใจอยากได้ตัว อเฟน่า-กียาน มาร่วมทีมด้วย แต่สุดท้ายด้วยความที่ตัวนักเตะเป็นแฟนของโรม่า ทำให้เลือกย้ายมาเล่นกับโรม่าในที่สุด โดยเกมที่อเฟน่า-กียาน ประทับใจ คือเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบควอเตอร์ไฟนอล ปี 2018 ที่โรม่าเอาชนะบาร์เซโลน่า 3-0 คัมแบ็กกลับมาเข้ารอบได้ หลังจากแพ้ในเลกแรก 4-1
2
แม้จะไม่มีชื่อเสียงเรียงนาม แต่โรม่าเอง ก็ดูจะมั่นใจในตัวเด็กคนนี้มาก เพราะยอมใช้โควต้าลงทะเบียนผู้เล่นนอกอียู (ใช้ได้ปีละ 2 คน) กับอเฟน่า-กียาน พร้อมทั้งเซ็นสัญญากันระยะยาว 4 ปีครึ่ง คือคุณต้องมีความมั่นใจในฝีเท้าจริงๆ ถึงกล้าลงทุนกันขนาดนี้
1
ตอนโรม่าเซ็นสัญญา คนก็แซวกันว่า ไปเอาเด็กแอฟริกาที่ไหนมาก็ไม่รู้ ไม่เคยมีประวัติอะไรเลย ทีมชาติรุ่นเล็กอะไรก็ไม่เคยติด ค่าพลังในเกม FIFA ก็แค่ 63 แบบนี้สู้ปั้นตัวอิตาลีไม่ดีกว่าหรือ
แต่สุดท้ายพอได้ลองเล่นจริงๆ อเฟน่า-กียาน ก็กลบเสียงวิจารณ์ได้อย่างรวดเร็วมาก เพราะเขาเล่นได้โดดเด่น เคลื่อนที่ว่องไว บอดี้แข็งแกร่ง และยิงได้คมกริบมาก สถิติของเขา ลงเล่นให้ทีม ยู-19 ไป 5 นัด ซัดไป 6 ประตู
ถ้าไปดูไฮไลท์ในทีมเยาวชน จะเห็นว่าเขาเลี้ยงหลบเด็กรุ่นเดียวกัน 3-4 คน เป็นเรื่องปกติเลย แถมยิงประตูได้หลากหลาย ยิงแรง ยิงชิพ ยิงเทคนิค ถือว่ามีคุณสมบัติที่ไม่เลว ส่วนสูง 175 ซม. ก็ถือว่าพอไหว
เมื่อผลงานโดดเด่นขึ้นมาขนาดนั้น โชเซ่ มูรินโญ่ ทนไม่ไหว ดันอเฟน่า-กียาน ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ แม้นักเตะจะมีอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น
อเฟน่า-กียาน ลงเล่นเกมแรกในกัลโช่ เซเรียอา โดยเป็นตัวสำรองในเกมเยือนกายารี่ วันที่ 27 ตุลาคม คือในเกมนั้น ตอนแรกกายารี่นำอยู่ 1-0 แต่พออเฟน่า-กียานลงสนามปั๊บ เกมของโรม่าดีขึ้นทันตาเห็น และยิงแซง 2 ลูกรวด ก่อนเอาชนะไป 2-1 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ
หลังจบเกม อเฟน่า-กียาน พูดว่า "ขอบคุณสโมสร ขอบคุณทุกคนที่โรม่า ขอบคุณคุณแม่ของผม ขอบคุณทุกคนที่อยู่ในกาน่า แม่ ผมรักแม่นะ" คือบอกรักคุณแม่ออกทีวี นี่เป็นบทสัมภาษณ์ที่จริงใจมากๆ
ขณะที่มูรินโญ่เองก็ประทับใจเช่นกัน หลังจบเกมเขาเขียนในอินสตาแกรมว่า "จบเกม 3 แต้ม อาหารอร่อย และมีเด็กแจ้งเกิดหนึ่งคน" พร้อมทั้งแท็กไอจีของ อเฟน่า-กียานไปด้วย
จากนั้น อเฟน่า-กียาน ได้รับโอกาสอีกในเซเรีย อา ด้วยการลงเล่นในเกมเจอเอซี มิลาน ตามด้วยในเกมล่าสุดกับเจนัว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ในเกมเยือนเจนัวของอันเดร เชฟเชนโก้ เกมช่วงแรกยังตื้อๆ เสมอกันอยู่ 0-0 แต่นาทีที่ 74 พอมูรินโญ่เปลี่ยนตัวเอา อเฟน่า-กียาน ลงมาเป็นตัวสำรองคนแรก ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
อเฟน่า-กียานไม่ทำให้โค้ชผิดหวัง นาทีที่ 82 เขาวิ่งฉีกรอบอลจาก เฮนริค มคิตาร์ยาน แล้วซัดเสียบมุมแบบคมกริ๊บจริงๆ โรม่านำ 1-0
1
ลูกแรกว่าคมแล้ว ลูก 2-0 ยิ่งสวยกว่านั้น เขายิงไดรฟ์ชู้ตเกือบ 30 หลา เสียบสามเหลี่ยมแบบคมเว่อร์ๆ คือไม่น่าเชื่อว่าเด็กวัยนี้จะหาญกล้ายิงไกลแบบนั้นได้ สุดท้ายโรม่าชนะไปอย่างงดงาม และต้องให้เครดิตกับเด็ก 18 คนนี้จริงๆ
1
หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ในอิตาลี พาดหัวว่า Afenomeno (Afena + Fenomeno) ตั้งฉายาให้เด็กหนุ่มคนนี้ถึงความมหัศจรรย์ที่เขาทำได้ในสนาม
เอาล่ะเรื่องฝีเท้า หลายคนพูดตรงกันว่า คงต้องจับตาดูเจ้าหนุ่มคนนี้ให้ดี อาจพัฒนากลายเป็นฮีโร่คนใหม่ในทวีปแอฟริกาก็ได้ แต่จะไปไกลถึงระดับเดียวกับซามูแอล เอโต้, ซาดิโอ มาเน่ หรือ ปิแอร์ เอเมริก-โอบาเมย็อง โน่นเลยไหม ยังเร็วไปที่จะพูดแบบนั้น แต่ก็แอบหวังกันได้ลึกๆอยู่
ไฮไลท์ที่น่าสนใจนอกเหนือจากฟอร์มการเล่นแล้ว คือในเกมที่ชนะเจนัว หลังจากยิงประตูแรกได้ อเฟน่า-กียาน วิ่งตรงมาดีใจที่ซุ้มม้านั่งสำรอง เขาเข้าไปกอดมูรินโญ่ และพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งตอนแรก สื่อก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร แต่สุดท้ายมูรินโญ่มาเล่าว่า
1
"ผมสัญญากับเขาว่า (ถ้ายิงได้) จะซื้อรองเท้าที่ราคาแพงมาก 800 ยูโรให้ เขาวิ่งมาหาผม เพื่อทำให้แน่ใจว่า ผมจะไม่ลืมที่สัญญาเอาไว้ และแน่นอน พรุ่งนี้เช้าสิ่งแรกที่ผมจะทำ คือไปซื้อรองเท้าให้เขา!"
รองเท้าที่อเฟน่า-กียาน อยากได้ คือแบรนด์ Balenciaga ราคา 800 ยูโรให้ (29,600 บาท) หลายคนอาจจะคิดว่า นักบอลอาชีพ เงินแค่นี้น่าจะซื้อเองได้ แต่อเฟน่า-กียาน เป็นเด็กจากอะคาเดมี่ ยังใช้ชีวิตอยู่ในหอพักของสโมสรอยู่เลย เงิน 800 ยูโร ก็ไม่ได้น้อยสำหรับเด็กวัย 18 หรอก
ช่วงเช้าวันจันทร์ มูรินโญ่เรียกอเฟน่า-กียาน มาที่ออฟฟิศ และยื่นถุง Balenciaga สีเหลืองทองให้ ด้านในเป็นกล่องรองเท้า 800 ยูโร ตามคำสัญญา ตัวนักเตะดีใจมาก เขามาโผกอดมูรินโญ่ เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมากของนักเตะกับโค้ช
อเฟน่า-กียาน กล่าวสดุดีมูรินโญ่ว่า "โค้ชสอนผมมากมาย และผมได้เรียนรู้หลายอย่างจากเขา เขาคือคนที่ประสบความสำเร็จมาแล้วนับไม่ถ้วน ผมดีใจจริงๆ ที่ได้ร่วมงานกับเขา"
"เขากระตุ้นผมทุกวันและช่วยให้ผมพัฒนาขึ้น ดังนั้นผมมีความสุขที่ได้ทำงานกับโชเซ่ มูรินโญ่ ผมขอบคุณเขามากจริงๆ"
ทุกอย่างก็ควรจบตรงนี้ บรรยากาศแห่งความชื่นมื่น แต่แล้วก็มีดราม่าเกิดขึ้นจนได้ในโลกออนไลน์
ประเด็นคือตอนที่มูรินโญ่มอบรองเท้าให้ มีการถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย โดยในคลิป มีคนแซวว่า "ข้างในถุงของขวัญมีกล้วยด้วยมั้ยเนี่ยะ" มันจึงกลายเป็นประเด็นทันที ว่าเพื่อนร่วมทีมไปเปรียบเทียบอเฟน่า-กียาน ว่าเป็นลิงชอบกินกล้วย
สำหรับคนผิวดำ การโดนเปรียบเป็นลิง ถือเป็นคำดูถูกอย่างรุนแรง ในเชิงว่ามีแต่กำลังไม่มีสมอง เหมือนชนเผ่าลิงที่ไม่มีอารยธรรม เป็นแค่ลิงก่อนที่จะวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ และ "กล้วย" ก็เป็นสัญลักษณ์แทนการเหยียดได้ชัดเจนที่สุด
ในอดีตมีการเหยียดเกิดขึ้นจริงๆ ที่ใช้การโยนกล้วยลงไปให้นักเตะผิวดำ อย่างจอห์น บาร์นส์ หรือ ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง ก็เคยโดนมาแล้ว
นอกจากเรื่องกล้วยแล้ว ยังมีอีกประเด็นคือ ตอนมูรินโญ่มอบรองเท้าเสร็จ อเฟน่า-กียาน ก็ลองใส่ รองเท้าก็ดูแมตช์กับเขาดี เพื่อนๆ ก็เลยเชียร์ว่า "เต้นเลย เต้นเลย" คือหยอกให้อเฟน่า-กียาน เต้นสเต็ปโชว์ ซึ่งอเฟน่า-กียาน แม้จะเขินๆ แต่ก็เต้นไป 1 สเต็ป ทำให้เพื่อนๆ หัวเราะกันได้ฮาครืน
ดราม่าของเรื่องนี้ คือคนก็โจมตีว่า เห็นคนผิวดำโดนบังคับให้เต้น เหมือนจับเอาลิงไปอยู่ในกรงแล้วให้เต้นโชว์ คือนักเตะเป็นคนนะเว้ย นี่ไม่ใช่คณะละครสัตว์ คุณไปทำแบบนี้กับคนผิวดำได้ไง มีจิตสำนึกหรือเปล่า
1
กลายเป็นว่า เหตุการณ์ที่ตอนแรกหลายคนมองว่า ก็ดูน่ารักดี กลายเป็นมีประเด็นเหยียดผิวไปเฉยเลย
ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาาย ตัวอเฟน่า-กียาน ต้องรีบมาเบรกสถานการณ์ก่อน เขาบอกว่า "ผมอ่านคอมเมนต์ในวีดีโอนี้แล้ว ที่ผมลงคลิป เพราะมันเป็นโมเมนต์พิเศษของผมกับโค้ช ผมอยากบอกทุกคนว่า ผมไม่ได้ถูกดูหมิ่นใดๆ ทั้งสิ้น และไม่มีเจตนาของการเหยียดผิวเลยสักนิด"
"ตั้งแต่วันแรกที่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ ผมได้รับความอบอุ่นราวกับครอบครัว และเราก็หยอกล้อกันเล่นตลอดอยู่แล้ว คือผมเป็นคนชอบกินกล้วยอย่างมาก จนบางครั้งก็โดนแซวว่าผมจะกินอะไรเยอะขนาดนั้น เรื่องทั้งหมดมันไม่มีอะไรเลย"
1
กล่าวคือเจตนาของกล้วย ไม่ใช่ดูหมิ่นว่า อเฟน่า-กียานเป็นลิง แต่เพราะตัวนักเตะชอบกินมากๆ เพื่อนๆ ก็แซวว่า "โค้ชน่าจะใส่กล้วยลงไปในกล่องรองเท้าด้วยนะ"
1
คือเรื่องโดนมโนไปไกลมาก กลายเป็นว่าคนผิวดำกับกล้วย จะโดนตีตราว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมไปก่อนเลย ทั้งๆที่ คนผิวดำก็อาจจะแค่ชอบกินกล้วยเฉยๆ ก็ได้
ขณะที่ประเด็นเรื่องเต้น อเฟน่า-กียาน ก็ไม่ได้กล่าวถึงอะไร เพื่อนๆ อยากให้เขาโชว์เต้น เขาก็เต้น ไม่รู้จะโยงดราม่าไปทำไม
สุดท้ายเรื่องราวก็จบลงตรงนี้ อเฟน่า-กียาน กับมูรินโญ่และเพื่อนร่วมทีมก็รักใคร่กันตามปกติ และเตรียมลงแข่งในเกมเซเรีย อานัดต่อไป
ในเรื่องนี้ สิ่งที่แฝงอยู่คือประเด็น PC ที่อยู่ในทุกๆ วงการแล้ว
PC (Political Correctness) แปลง่ายๆ คือ คำพูดและการกระทำที่คุณต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้ไปเหยียดคนอื่นในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา รูปลักษณ์
ตัวอย่างเช่น พูดกับคนมุสลิมก็ต้องระวังในประเด็นเรื่อง "หมู" เพราะศาสนาเขาไม่สามารถกินได้ พูดกับคนผิวดำก็ต้องระวังเรื่อง "กล้วย" เพราะอาจจะกลายเป็นไปแขวะเขาว่าเป็นลิง
หรือที่อเมริกาเคยมีการดีเบทว่า คำว่าคนอ้วน (Fat) สามารถใช้ได้ไหม จะเป็นการดูถูกอีกฝ่ายหรือเปล่า หรือควรเลี่ยงไปว่ารูปร่างใหญ่ (Physically Large) จะปลอดภัยกว่า
แน่นอน PC มีข้อดี คือ ทำให้คุณเห็นใจเพื่อนมนุษย์มากขึ้น พยายามใจเขาใจเรา ไม่พูดกระทบใจอีกฝ่าย ซึ่งก็น่าจะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น
แต่ประเด็นคือถ้า PC มากเกินไป จะพูดอะไรก็มีโอกาสกลายเป็นเหยียดอีกฝ่ายได้หมด อย่างเคสอเฟน่า-กียาน กับกล้วย นี่ก็โดนโยงได้ ทั้งๆที่เรื่องมันไม่มีอะไรเลย ก็แค่คนชอบกินกล้วยแค่นั้นเอง
จริงๆแล้ว ความเห็นใจเพื่อนมนุษย์เป็นสิ่งดี แต่ถ้าอะไรที่มันมากเกินไปไม่ดีทั้งนั้น
เพราะการต้องคอยระวังทุกคำที่พููดไม่ให้พลาดเลยแม้แต่ประโยคเดียว บางทีก็เสียสุขภาพจิตได้เหมือนกันนะ
#BANANAINSIDE
โฆษณา