Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wealthy Thai
•
ติดตาม
24 พ.ย. 2021 เวลา 09:56 • หุ้น & เศรษฐกิจ
SVI สุดยอดหุ้นเด่นราคาพุ่งทะลุ 100% กำลังวิ่งสู่เป้าหมายใหม่ที่สูงถึง 10.30 บาท
1
บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ประกอบธุรกิจให้บริการแบบครบวงจรในการประกอบผลิตภัณฑ์ประเภทวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิคส์สำเร็จรูป ให้แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Original Equipment Manufacturer: OEM) ราคาหุ้นมีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังจากรายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3/64 ที่ออกมาอย่างโดดเด่น และถือว่าดีกว่านักวิเคราะห์คาดกการณ์เอาไว้ เป็นผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาไม่หยุด
เห็นได้จากความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา (20 ต.ค.-19 พ.ย.64) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 60.19% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า โดยราคาหุ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับ 9.55 บาท เมื่อวันที่ 16 พ.ย.64 ที่ผ่านมา หากนับจากต้นปีถึงปัจจุบัน (19 พ.ย.64) ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 102.10%
สะท้อนจาก SVI ที่รายงานกำไรไตรมาส 3/64 ออกมาอย่างโดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิ 521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 214.7% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งมีปัจจัยความสำเร็จมาจากการบริหารจัดการด้านต้นทุนและซัพพลายเชนในการจัดซื้อวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ แม้ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการขาดแคลนวัตถุดิบและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทฯ ยังสามารถเจรจาปรับราคาสินค้ากับคู่ค้าได้ ทำให้อัตราการทำกำไรในไตรมาสนี้ปรับตัวขึ้นเป็น 11.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 4.3% และยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทฯ ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 4-5%
“กสิกร” อัพเป้าสูงถึง 10.30 บาท
หากเข้ามาสำรวจมุมมองของนักวิเคราะห์ก็ประเมินไว้อย่างน่อสนใจเช่นกัน โดยพบว่านักวิเคราะห์มีการประประมาณการณ์ของกำไรเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งยังมีการปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นสูงถึง 10.30 บาทอีกด้วย ซึ่งสะท้อนจากความแข็งแกร่งของ SVI ที่กำไรเติบโอย่างโดดเด่น
สะท้อนจากมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 6.30 บาทเป็น 10.3 บาท เพื่อสะท้อนการปรับขึ้นประมาณการกำไร การประเมินมูลค่าใหม่ และการปรับฐานราคาเป้าหมาย
โดยคงมุมมองเชิงบวกต่อ SVI เนื่องจากคาดว่าอุปสงค์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะยังคงแข็งแกร่งในปี 2565 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้ของ SVI และปรับฐานราคาเป้าหมายจากกลางปี 2565 ไปเป็นสิ้นปี 2565 และปรับตัวคูณ PER ล่วงหน้า 12 เดือน ที่ 18.0 เท่า (+1SD) เป็น 19.7 เท่า (+ 1.5SD) ส่งผลให้ราคาเป้าหมายของเพิ่มขึ้นจาก 6.30 บาท เป็น 10.30 บาท
ทั้งนี้ได้จัดการประชุม KS C-Series ผ่านระบบ conference call กับผู้บริหาร SVI โดยมีผู้จัดการกองทุนในประเทศเข้าร่วมมากกว่า 30 คน ซึ่งเนื้อหาของการประชุมค่อนข้างเป็นบวก ผู้บริหารระบุว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงผิดปกติในไตรมาส 3/2564 เกิดจาก 1.สัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ดี่ขึ้นจากยอดขาย 5G และส่วนประกอบคลาวด์ที่สูงขึ้น ซึ่งมี GPM สูงกว่าค่าเฉลี่ย
2.รายได้ที่เพิ่มขึ้น 300 ล้านบาท จากการปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ย (ASP) ซึ่งมีผลย้อนหลัง สำหรับราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2564 (หรือโดยเฉลี่ย100 ล้านบาทต่อไตรมาส) และ 3.ประโยชน์ที่ได้รับจากเงินบาทอ่อนค่าลง 5% ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านความกังวลหลักของตลาดคือ GPM จะยังสูงขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4/2564 และปีหน้าหรือไม่ SVI คาดว่าการปรับขึ้น ASP จะยังคงดำเนินต่อไปในอีก 3 ไตรมาสข้างหน้า จากต้นทุนวัตถุดิบที่ยังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่ GPM ในปี 2565 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 10% ภายใต้สมมติฐานที่ว่าอัตราแลกเปลี่ยน (FX) คงที่
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายรับในปี 2564 อยู่ที่ 540 ล้านดอลลาร์ฯ (ช่วง 9 เดือนแรกของปี อยู่ที่ 373 ล้านดอลลาร์ฯ) ปัจจัยหนุนการเติบโตที่สำคัญของยอดขายไตรมาส 4/2564 ได้แก่ 1.การเพิ่มการผลิตหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ 2.อุปทานชิป และวัตถุดิบอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น 3.การควบรวมกิจการของ บริษัท โทโฮกุ ไพโอเนียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (TPT) ในเดือน ธ.ค.
SVI ตั้งเป้ารายรับปี 2565 สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 11% จากปีก่อน หนุนจากคำสั่งซื้อสินค้าในระบบ 5G และคลาวด์ กล้องวงจรปิด และส่วนประกอบรถยนต์ โดยปกติแล้ว SVI จะเห็นคำสั่งซื้อล่วงหน้า 12 เดือน และเห็นคำสั่งซื้อที่แน่นอนล่วงหน้า 6 เดือน
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัท โดยมองว่าปัญหาการขาดแคลนบริการด้านการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (EMS) ในปัจจุบัน จะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนรายได้ และ GPM ให้เติบโตขึ้นแข็งแกร่ง แม้คาดว่ารายได้ จะต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัท จากปัญหาการขาดแคลนชิปอย่างต่อเนื่อง
แต่ยังเชื่อว่ากำไรสุทธิจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 32% ในปี 2564-66 โดยคาดว่า upside จะเกิดขึ้นจากการผนึกกำลังระหว่าง SVI กับ TPT ซึ่งเป็นบริษัทเป้าหมายของ SVI ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 200 ล้านบาท ดังนั้นจึงหมายความว่า GPM จะสูงขึ้น1 ppt หรือมี upside ที่ประมาณ 15% ต่อกำไรสุทธิ
โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-66 ขึ้น 44-63% โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ขึ้นเป็น 1,126 ล้านบาท จากเดิม 716 ล้านบาท ขณะที่ปี 2565 ปรับขึ้นเป็น 1,105 ล้านบาท จากเดิมคาด 766 ล้านบาท และปี 2566 ปรับขึ้นเป็น 1,184 ล้านบาท จากเดิม 811 ล้านบาท
เพื่อสะท้อน สมมติฐาน GPM ที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้น ASP โดยยังเพิ่มประมาณการ GPM จากค่าเฉลี่ยที่ 8.5% ในปี 2564-66 เป็น 10-11% คงประมาณการรายได้จากการขายปี 2564-66 ตามเดิม ทั้งนี้ ประมาณการอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.75 บาท/ดอลลาร์ฯ อัตรา FX ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทุก 1% จะส่งผลต่อการประมาณกำไรสุทธิที่ 3% (แบบบวกลบ)
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/64 และปี 65 ไปได้ดี บริษัทโฟกัสขยายลูกค้าในกลุ่มธุรกิจ 5G , Cloud computing, Microelectronics และ Industrial cameras ในปี 65 บริษัทอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตในสโลวาเกียและกัมพูชา
ดังนั้นจึงปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 64-65 ขึ้นปีละ 41% สะท้อน GPM ที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 3/64 ยังผลให้กำไรสุทธิปีดังกล่าวเติบโต 39% และเติบโต 11% ตามลำดับ แนะนำซื้อ SVI ให้ราคาพื้นฐาน 8.90 บาท อิงกับ P/E ปี 65 ที่ 18 เท่า ปัจจัยเสี่ยงต่อราคาหุ้น คือ การขาดแคลนชิป, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาค
SVI สุดยอดหุ้นเด่นราคาพุ่งทะลุ 100% กำลังวิ่งสู่เป้าหมายใหม่ที่สูงถึง 10.30 บาท
ติดตามอัพเดตความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
.
Facebook : Wealthy Thai
Website :
www.wealthythai.com
Twitter :
www.twitter.com/WealthyThai
YouTube :
https://bit.ly/2GoS9Z4
LINE :
http://nav.cx/hm9uy1i
Blockdit :
https://www.blockdit.com/wealthythai
4 บันทึก
3
1
4
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย