24 พ.ย. 2021 เวลา 10:47 • ท่องเที่ยว
8 เช็คอิน สุดฟินที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา
มาเที่ยวที่ #โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลยค่ะ แค่ 2 ชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงแล้ว โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ที่จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้การดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ 1 ใน 3 ของประเทศ และเป็นโรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย มีกำลังผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 1,000 เมกะวัตต์ เป็นจุดเช็คอินที่สุดฟินแห่งหนึ่งของภาคอีสาน แต่การท่องเที่ยวในช่วงโควิด-19 ก็ต้องปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวดนะคะ
เรียกว่าเราได้มาฟินและเช็คอินแบบสนุกที่โรงไฟฟ้าลำตะคอง ที่มีทั้งความสวยงามและกิจกรรมหลากหลายค่ะ
เช็คอินที่ 1 จุดที่โดดเด่นมากๆของโรงไฟฟ้าแห่งนี้คือ กังหันลมลำตะคอง เป็นแลนด์มาร์คถ่ายรูปที่ใครๆก็นึกถึง “กังหันลมลำตะคอง” มีจำนวน 12 ต้น (และอีก 2 ต้นเป็นต้นแบบทดลอง) ตั้งตระหง่านแลเห็นแต่ไกลอยู่บนเขายายเที่ยง
กฟผ. เลือกติดตั้งกังหันลมตรงจุดนี้ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพพลังงานลมดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และได้นำระบบการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากกังหันลม (Wind Hydrogen Hybrid System) ในรูปของก๊าซไฮโดรเจน เพื่อจับคู่กับเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) มาใช้เป็นประเทศแรกในเอเชีย ช่วยให้ไฟฟ้าที่ผลิตจากกังหันลมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้เสถียรมากขึ้น
เป็นจุดชมวิวที่สวยแปลกตาเหมือนเที่ยวเมืองไทยได้ไปเมืองนอกแบบนั้นเลยค่ะ ชมความใหญ่โตของกังหันที่มีความสูงเท่ากับตึก 30 ชั้น โดดเด่น สวยแปลกตา แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือสร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าให้กับเมืองไทยค่ะ
เช็คอินที่ 2 แหล่งเรียนรู้พลังงานหมุนเวียนที่ทันสมัยที่สุดของภาคอีสานอย่าง “ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง” สุดยอดมากๆ ที่นี่ค่ะ เปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2562 ตัวอาคารที่ตกแต่งด้วย Wall Building Wind Power เรีกยว่าพลิ้วไหวไปตามสายลมได้ กิ๊บเก๋ไม่เบาค่ะ
เมื่อไปถึงก็ต้องมีจุดลงทะเบียนตามมาตรการป้องกันโควิด-19อย่างเข้มงวด และมีจุดบริการเจลล้างมือฆ่าเชื้อ เรียกว่า ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง เข้มงวดรัดกุมดีทีเดียวเลยค่ะ
ภายในศูนย์การเรียนรู้แบ่งพื้นที่เป็น 7 โซน ได้แก่ 1. โซน Plaza Nova จุดลงทะเบียนเพื่อร่วมผจญภัยในโลกพลังงานกับหุ่นยนต์ H-bot มาสคอตประจำศูนย์การเรียนรู้ 2. โซน Lamtakong Energy Quest ชมภาพยนตร์ 7 มิติ ถ่ายทอดเรื่องราวการผจญภัยในดินแดนลำตะคอง
3. โซน New Frontier มาแปลงร่างเป็นกระแสลมในทุ่งกังหันยักษ์ เรียนรู้พลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าใต้ดินแบบสูบกลับแห่งเดียวของไทย 4. โซน New Discovery เรียนรู้นวัตกรรมระบบกักเก็บพลังงานแบบไฮโดรเจนจากกังหันลมสู่การผลิตไฟฟ้า 5. โซน EGAT Energy Quest ชมภารกิจผลิตไฟฟ้าของกฟผ.
​​6. โซน The Balance ฝึกฝีมือการจัดสรรเชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้ากับโมเดลจำลองโรงไฟฟ้าหลายรูปแบบ และ 7. โซนม่วนซื่นลำตะคอง เรียนรู้วิถีชุมชนรอบโรงไฟฟ้าและลุ่มน้ำลำตะคอง
เช็คอินที่ 3 อะเมซิ่งมากๆค่ะ เมืองใต้พิภพที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ที่อยู่ลึกไปใต้ผิวดินกว่า 350 เมตร เพราะโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับที่ตั้งอยู่ใต้พื้นดินแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย สวยแปลกตามากกับอุโมงค์โรงไฟฟ้าใต้ดิน จุดเช็คอินที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
แต่ช่วงนี้ด้วยมาตรการป้องกันโควิด-19 อาจจะไม่สามารถเข้าชมโรงไฟฟ้าได้ แต่ก็ชมบรรยากาศสวยๆ กันไปก่อนนะคะ
เช็คอินที่ 4 ปั่นลอยฟ้า ใครอยากชมบรรยากาศอ่างพักน้ำตอนบนของโรงไฟฟ้าให้ทั่วๆ สามารถเลือกเช่าจักรยานปั่นออกกำลังกายชมวิวก็ได้ บรรยากาศพระอาทิตย์ตกยามเย็น หรือช่วงเช้า สวยงามมาก เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์อัสดงที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่าปั่นแบบได้วิวอลังการมาก อากาศบริสุทธ์ ชมอ่างพักน้ำตอนบน ทุ่งกังหันลม
เราได้ไปปั่นทั้งช่วงเย็น ชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า แสงสีงดงามมากค่ะ และได้ไปปั่นในช่วงเช้า ได้บรรยากาศหมอกหนา เรียกว่าไปช่วงไหน ก็จะได้ความงดงามที่แตกต่างกันค่ะ ช่วงเช้าสัมผัสทะเลหมอกพร้อมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ช่วงเย็นชมพระอาทิตย์ตกดิน และฟินกับแสงไฟจากวิวถนนมอเตอร์เวย์
ชมเควสตาโคราช ภูมิประเทศแบบภูเขาที่มีลักษณะคล้ายมีดอีโต้ของไทย มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันทางด้านทิศตะวันตก และลาดเอียงด้วยมุมประมาณ 5-10 องศาไปทางทิศตะวันออก-ตะวันออกเฉียงเหนือ
ระหว่างทางที่ปั่นจักรยาน แวะกราบไหว้พระพุทธสิริสัตตราช พระพุทธรูปหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ ผู้ทรงเป็นสิริแห่งแผ่นดิน ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ กฟผ. มาช้านาน โดยมีการประดิษฐานไว้ทั้งที่สำนักงานใหญ่ และตามเขตเขื่อน ต่าง ๆ ของ กฟผ. ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฝน ความอุดมสมบูรณ์และความร่มเย็นเป็นสุข
ที่นี่มีวิสาหกิจชุมชนจักรยานท่องเที่ยวบ้านเขายายเที่ยง ให้บริการนักท่องเที่ยวได้เช่าจักรยานปั่นชมอ่างพักน้ำในราคาชั่วโมงละ 40 บาท โดยรายได้จากการให้เช่าจักรยานนี้จะนำไปใช้เป็นเงินส่วนกลางเพื่อพัฒนาชุมชนในภาพรวม เช่น ด้านประเพณีวัฒนธรรม ด้านการศึกษา ด้านกีฬา ด้านการพัฒนาอาชีพ ด้านสาธารณะประโยชน์
เช็คอินที่ 5 ไม่พลาดกับร้านกาแฟคุณสายชล ที่แสนชิลและกิ๊บเก๋ในทุกๆ เขื่อนของกฟผ. กาแฟและชาอร่อย รสชาติดี ใช้ผลผลิตกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ปลอดสารพิษจากชุมชนดงมะไฟ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ซึ่งได้รับการรับรองเป็นสินค้า GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ โดยปลูกอยู่ที่เทือกเขาอีโต้ที่ระดับความสูง 400-700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้กาแฟที่นี่มีกลิ่นหอมรสชาติกลมกล่อม
ชิมกาแฟอาราบิก้าแท้ 100 % ดริปด้วย “หวด” ที่คนอีสานใช้นึ่งข้าวเหนียว อันเป็นซิกเนเจอร์ของร้านกาแฟคุณสายชล โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ซึ่งโรงไฟฟ้าได้ส่งเสริมให้ชุมชนปลูกกาแฟ เพื่อสร้างรายได้และอนุรักษ์ป่าต้นน้ำให้ชุมชนบนเขายายเที่ยง และได้ส่งเสริมให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อผสมวากิวบนเขายายเที่ยงใต้ ได้ทดลองปลูกกาแฟแบบอินทรีย์ที่หอมกรุ่นและดีต่อสุขภาพมีคาเฟอีนต่ำเพียง 1 % เท่านั้น
เช็คอินที่ 6 จุดชมวิวหมื่นล้านและปลูกป่าลอยฟ้าที่ผายายเที่ยง จากจุดปั่นจักรยาน เราสามารถนั่งบริการสองแถว (ท่านละ 20 บาท) ไปชมจุดชมวิวผายายเที่ยงได้ค่ะ ชมวิวแบบพาโนราม่าที่ผายายเที่ยง ที่สุดแสนอลังการ เขาตั้งชื่อจุดชมวิวนี้ว่า จุดชมวิวหมื่นล้าน ถามชาวบ้านได้ความว่า เพราะสามารถมองเห็นถนนมอเตอร์เวย์ที่มีมูลค่าก่อสร้างถึง 1 หมื่นล้านบาท และยังเห็นจุดชมวิวพันล้าน (มองเห็นกังหันลมของกฟผ.ที่มีมูลค่าก่อสร้างกว่า 1 พันล้าน) แต่ไม่ว่าจะเป็นร้อยล้าน พันล้าน หรือหมื่นล้าน ก็สวยสดงดงามสุดบรรยายจริงๆ ค่ะ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมองลงมาเห็นเขื่อนลำตะคอง และวิวมอเตอร์เวย์ที่สวยงาม แนบชิดเมฆที่ลอยละล่องกันเลยค่ะ
ร่วมกันฟื้นฟูป่ารักษาสิ่งแวดล้อมในกิจกรรมปลูกป่าลอยฟ้า โดยใช้หนังสติ๊ก (ท่านละ 20 บาท) ยิงเมล็ดพันธุ์ต่างๆ เช่น มะค่าโมง ลงไปยังผืนป่าเบื้องล่าง เกิดเป็นต้นกล้าไม้ต้นใหม่ กิจกรรมปลูกป่าลอยฟ้านี้ เกิดจากการมีส่วนร่วมของ กฟผ. โรงไฟฟ้าลำตะคอง ศูนย์วิจัยข้อมูลท้องถิ่น ม.ราชภัฏนครราชสีมา และชุมชนบ้านเขายายเที่ยง พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
เช็คอินที่ 7 นวดลอยฟ้า ลำตะคอง เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร ผ่อนคลายความเมื่อยล้ากับการนวดแผนไทยในเรือนไม้ไผ่ บริเวณอ่างพักน้ำตอนบนโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ซึ่งโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนาและเครือข่าย บูรณาการร่วมกันจัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพการนวดศาสตร์ภูมิปัญญาด้านสุขภาพให้แก่ชุมชน ส่งเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ราคาก็ไม่แพงชั่วโมงละ 200 บาท นอนนวดไปชมวิวอลังการของเขื่อนไปค่ะ
หมอนวดที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนในพื้นที่ และเป็นอสม.ด้วย ทำให้รู้หลักการสาธารณสุขที่พึงปฎิบัติในการนวดยุคโควิด ก็ทำให้อุ่นใจค่ะ
เช็คอินที่ 8 ครัวตาตีบ ร้านอาหารริมเขื่อนลำตะคองที่นั่งทานไปชมวิวสวยๆ ไป ชมทิวทัศน์อันสวยงามอ่างเก็บน้ำ กับเมนูมากมายที่รสชาติอร่อย ในราคาไม่แพง วิวและบรรยากาศดีมากๆ โดยเฉพาะช่วงเย็น สามารถชมพระอาทิตย์ตก เป็นร้านอาหารที่อยู่ภายในบริเวณโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา
วันนี้ลองชิมแกงป่าปลาคัง รสชาติเข้มข้น ปลาเนื้อแน่นๆ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม เป็นปลาตัวเล็กๆ แต่เคี้ยวกรุบกรอบ อร่อยมากๆ ทอดมันปลากราย เคี้ยวหนุบหนับ สุดยอดเลยค่ะเมนูนี้ ปลาบึกผัดพริก เมนูที่หาทานยาก รสชาติเผ็ด แซ่บถึงใจ เนื้อแดดเดียว เคี้ยวเพลินๆ กุ้งชุบแป้งทอด กรอบกำลังดี และผัดผักรวมน้ำมันหอย
ได้ชมวิวสุดสวยของอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง ในบางช่วงเวลามีขบวนรถไฟวิ่งผ่าน ขบวนรถตัดกับภูเขาและอ่างเก็บน้ำ เป็นบรรยากาศแปลกตาดีค่ะ
ย้อนที่มาของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา
โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา สามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ใหญ่และมีประชากรมากที่สุดในประเทศไทย มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัย คือโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ มาสร้างโรงไฟฟ้าในภาคนี้เป็นแห่งแรกของประเทศไทย
โรงไฟฟ้าพลังน้ำลำตะคองแบบสูบกลับ สร้างอยู่ใกล้กับเขื่อนลำตะคอง ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 70 กิโลเมตร ทำงานโดยการสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองของกรมชลประทาน ไปเก็บไว้ที่อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง ในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อยหรือช่วงกลางคืนถึงเช้า และเมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงในช่วงกลางวันถึงค่ำ จะปล่อยน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้า และปล่อยลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองเหมือนเดิม
โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ยังมีบริการ สถานีชาร์จไฟฟ้า EleX by EGAT เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) อีกด้วย
การผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมลำตะคอง เป็นโครงการหนึ่งที่ กฟผ. มุ่งมั่นที่จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2547 – 2555 (PDP 2004) จากการเก็บสถิติความเร็วลมของ กฟผ. เพื่อตรวจวัดศักยภาพพลังงานลมสำหรับผลิตไฟฟ้าทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 พบว่า บริเวณอ่างพักน้ำตอนบนของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา มีศักยภาพดีที่สุดแห่งหนึ่ง มีลมพัดถึง 2 ช่วง คือช่วงฤดูลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงปลายเดือนมีนาคม) และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม) มีความเร็วลมเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 5 - 6 เมตรต่อวินาที เหมาะสมที่จะพัฒนาสร้างกังหันลมเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า
กฟผ. จึงได้ดำเนินโครงการติดตั้งกังหันลมจำนวน 2 ชุด ขนาดกำลังผลิตชุดละ 1,250 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิต 2,500 กิโลวัตต์ และดำเนินการติดตั้งกังหันลมเพิ่มอีก 12 ต้น ต้นละ 2,000 กิโลวัตต์ ทำให้มีกำลังผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 26,500 กิโลวัตต์
ส่วนอ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยงสร้างแบบหินถมดาดด้วยยางมะตอย เพื่อป้องกันน้ำซึม เก็บกักน้ำได้ 10.3 ล้านลูกบาศก์เมตร ตัวอาคารโรงไฟฟ้า ถูกสร้างไว้ใต้ระดับผิวดินลึกกว่า 350 เมตร เพื่อเพิ่มระยะทางจากอ่างเก็บน้ำบนเขาถึงอาคารโรงไฟฟ้าให้น้ำที่ไหลลงมามีกำลังแรงขึ้น ทำให้โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา เป็นโรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและนำไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเมื่อปี พ.ศ. 2547
1
โครงการก่อสร้างเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2537 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2547 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อโรงไฟฟ้าพลังน้ำลำตะคองแบบสูบกลับว่า “โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา” มีความหมายว่า โรงไฟฟ้าลำตะคองเป็นที่พัฒนาแสงไฟด้วยน้ำ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามอันเป็นสิริมงคล
ปัจจุบันการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ 3 แห่ง ได้แก่
1) เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 2 เครื่อง กำลังการผลิตเครื่องละ 180 เมกะวัตต์ (รวม 360 เมกะวัตต์)
2) เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก จำนวน 1 เครื่อง กำลังการผลิต 171 เมกะวัตต์
3) โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 4 เครื่อง กำลังการผลิตเครื่องละ 250 เมกะวัตต์ (รวม 1,000 เมกะวัตต์)
สำหรับโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และโซนภาคอีสานตอนกลาง
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ต่อเนื่องทางหลวงหมายเลข 2 มุ่งสู่ จ.นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนาอยู่ทางซ้ายมือถัดจากสวนท้าวสุรนารี
การเข้าชมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
1) โรงไฟฟ้าใต้ดิน เป็นส่วนผลิตไฟฟ้าและเป็นพื้นที่ควบคุม ติดต่อสอบถาม 0-4422-2570 จันทร์ถึงศุกร์ เวลา 08.30-15.30น.
2) อ่างพักน้ำตอนบนและทุ่งกังหันลม เปิดบริการทุกวัน ฤดูหนาว เวลา 06.00-18.00น. ฤดูร้อน เวลา 05.00-19.00น.
3) ศูนย์เรียนรู้ กฟผ.ลำตะคอง ติดต่อสอบถาม 0- 4498- 4007 เปิดวันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 09.00-17.00น. หยุดทุกวันจันทร์และนักขัตฤกษ์
หมายเหตุ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ควรโทรสอบถามล่วงหน้าก่อนเดินทาง
#โรงไฟฟ้าชลภาวัฒนา #โรงไฟฟ้าลำตะคอง #ศูนย์การเรียนรู้กฟผ. #กังหันลมผลิตไฟฟ้าลำตะคอง #เขื่อนลำตะคอง #ร้านกาแฟคุณสายชล
ขอบคุณที่ติดตาม Travelista นักเดินทางค่ะ แล้วพบกันในรีวิวชิ้นต่อๆไปนะคะ
โฆษณา