25 พ.ย. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
" ลาออกอย่างลูกผู้ชาย "
สโมสรหนึ่ง อาจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์บางอย่างได้ เช่นการต้องเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน
1
เนื่องจากไม่ได้คาดการณ์ไว้ หรือแผนที่วางไว้มันเกิดผิดพลาดขึ้นมา ต้องอาศัยการตัดสินใจเฉพาะหน้าที่รวดเร็ว และฉับไวที่สุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะตัดสินใจช้ากว่าจะแยกทางกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ตัวของ โซลชาร์ เองก็ยังไม่มีความคิดจะลาออกด้วยตัวเอง ทั้งที่ทุกอย่างมันฟ้องว่างานนี้ ไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้นมานานแล้ว
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงกุนซือที่น่าประทับใจ ในแง่ของสโมสรเกิดขึ้นกับ คริสตัล พาเลซ ในเดือนตุลาคม 2013
ต้องย้อนไปเมื่อ 1 ปีก่อนหน้านั้นคือในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2012/13 พาเลซ ตั้งเป้าในการเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ ลีก หลังตกชั้นมาเกือบ 10 ปี
พาเลซ มี ดั๊กกี้ ฟรีดแมน คุมทัพ พวกเขาเริ่มต้นด้วยการแพ้ 3 เกมรวด แต่จากนั้นก็เริ่มลงล็อก 11 นัดต่อมา พวกเขาชนะ 8 เสมอ 3 ไม่แพ้ใครเลย
ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ทีมที่จะเลื่อนชั้น มักต้องมีช่วงเข้าเบรกแบบ อินวินซิเบิ้ล ใครก็เอาชนะไม่ได้แบบนี้
ขณะที่ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปได้ด้วยดี ดั๊กกี้ ฟรีดแมน กลับโดน โบลตัน วันเดอเรอร์ส เข้ามาจีบ เขาตัดสินใจกระโดดหนีจาก พาเลซ ไป โบลตัน เฉยเลย
นั่นทำให้ สตีฟ แพริช เจ้าของและประธานสโมสรของ คริสตัล พาเลซ ถึงกับมึน
แพริช เป็นแฟนบอลพาเลซ อยู่ก่อนแล้ว เมื่อทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ก็เข้ามาซื้อหุ้นสโมสร และสำหรับเขา ฟรีดแมน คือคนโปรด
เนื่องจากฟรีดแมน สมัยเป็นนักเตะก็คือกองหน้าตัวเก่ง เป็นขวัญใจแฟนบอลพาเลซอยู่แล้ว พอมาคุมทีมก็เริ่มทำผลงานได้ดีด้วย
แต่เมื่อสถานการณ์บังคับ แพริช ก็ต้องทำอะไรบางอย่าง ว่าแล้วเลยติดต่อไปยัง เอียน ฮอลโลเวย์ กุนซือคนเก่งของ แบล็คพูล
เอียน ฮอลโลเวย์ ทำบอลคนละสไตล์กับ ฟรีดแมน เลย แต่นั่นก็ทำให้ แพริช แอบชื่นชอบ เพราะอยากเห็นฟุตบอลที่เล่นสวย และได้ผลการแข่งขันที่ดีด้วย ขณะที่ ฟรีดแมน เน้นรับแน่น เอาชัวร์ไว้ก่อน แต่มันดันเข้าทางนักเตะพาเลซ
ชื่อเสียงของ ฮอลโลเวย์ ได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างตอนทำแบล็คพูล เล่นมันมาก เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ ลีก ในปี 2010/11 แม้จะตกชั้นภายในปีเดียว แต่หลายคนประทับใจ
ฮอลโลเวย์ เองก็ตัดสินใจสละเรือที่ แบล็คพูล เพื่อมารับงานที่ พาเลซ เลยทันทีเช่นกัน
เมื่อมาถึง ในการให้สัมภาษณ์ เขาบอกชัดเจนว่าเขาไม่สามารถรับปากได้ว่าทีมจะเลื่อนชั้น แต่สิ่งที่เขารับปากคือเขาจะทำให้นักเตะพาเลซ เล่นเต็มที่ เคารพสีเสื้อของพาเลซ และจะทำให้ทีมเล่นในแนวทางที่เขาวางไว้
ช่วงแรก เขาพยายามปรับให้ทีมเล่นพาสซิ่งมากขึ้น เล่นเกมบุกมากขึ้น นักเตะยังไม่ค่อยคุ้นเคย เพราะเขามองว่าหากจะประสบความสำเร็จ จะเอาแต่เล่นแผนรถบัส มันไม่มีทางเลย
แม้ผลงานจะล้มลุกคลุกคลาน ไม่ได้เข้าเบรกยาวๆ แต่สุดท้าย เขาก็พาทีมจบอันดับ 5 ได้สิทธิ์เข้าเพลย์ออฟ
ต้องยอมรับว่ากว่าที่ ฮอลโลเวย์ จะซื้อใจแฟนบอลพาเลซ และตัวของ สตีฟ แพริช เองได้เต็มๆ ก็ต้องใช้เวลาพักใหญ่ กระทั่งมาถึงเกมเพลย์ออฟ นี่เอง
ตามเวย์ของรอบเพลย์ออฟ อันดับ 3 เจอกับอันดับ 6 คือ วัตฟอร์ด vs เลสเตอร์
ส่วนอันดับ 4 เจอกับ อันดับ 5 นั่นเท่ากับว่า พาเลซ จะได้เจอกับ ไบรตัน
พาเลซ - ไบรตัน เป็นอริกันอยู่แล้ว นี่คือคู่ปรับที่คลาสสิกอีกคู่ในวงการฟุตบอลอังกฤษ แม้จะอยู่กันคนละถิ่น แต่มีถนนสาย M23 เชื่อม ทำให้มันถูกเรียกว่า M23 ดาร์บี้
หากพาเลซ จะชนะทีมไหนแล้วสะใจที่สุด ทีมนั้นก็คงต้องเป็น ไบรตัน
เกมแรก พาเลซ เล่นในบ้านก่อน ผลจบลงด้วยสกอร์ 0-0 กุสตาโว่ โปเยต์ กุนซือของไบรตัน ทำท่ามั่นอกมั่นใจมาก เพราะเชื่อว่าเกมเลกสอง พวกเขาจะเอาชนะได้ในบ้านตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวร้ายคือการที่ เกล็น เมอร์เรย์ ดาวซัลโวประจำทีม พาเลซ ได้รับบาดเจ็บในเกมแรก ต้องชวดการลงสนามในช่วงที่เหลือของเพลย์ออฟ
เลกสองต้องไปเล่นนอกบ้าน แถมไม่มีกองหน้าตัวเก่ง พาเลซ จะทำอย่างไร
หนึ่งในทีมงานของ ฮอลโลเวย์ คือ ทิม โค ซึ่งเป็นสเกาท์หนุ่ม ฝีมือดี เขาเช็กการเล่นของคู่แข่งละเอียด และมาบอกข้อมูลที่มีค่ามาก
"ดูนี่สิ ออลลี่ (ฮอลโลเวย์) นี่มันสำคัญสุดๆ" ข้อมูลที่ได้มาคือ 30% ของการขึ้นบอลของ ไบรตัน จะต้องผ่านปีกตัวเก่งคือ คาเซงก้า ลัวลัว
นั่นทำให้ พาเลซ หุบเอาปีกเข้ามาตัดการผ่านบอลไปยัง ลัวลัว และมันได้ผล
ยิ่งไปกว่านั้น วิลฟรีด ซาฮา คืออีกหนึ่งอาวุธเด็ด
จริงๆ แล้ว ตอนมกราคม 2013 วิลฟรีด ซาฮา ได้ถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซื้อไปร่วมทีมแล้วด้วยราคา 10 ล้านปอนด์ เป็นการซื้อสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วย
ทว่าทีมปีศาจแดง ตกลงให้ พาเลซ ยืมตัว ซาฮา ไปใช้งานจนจบฤดูกาล เนื่องจากตัวของ ซาฮา ต้องการเช่นนั้นด้วย
ฮอลโลเวย์ บอกกับ ซาฮา ก่อนเกมว่า เมื่อไหร่ที่ปีกอีกฝั่งคือ ยานนิค โบลาซี่ ตั้งท่าจะครอสเข้ามา ให้ ซาฮา วิ่งตัดหลังแบ็กเข้าไปในกรอบเขตโทษ
"ตัดหลังฟูลแบ็กเข้าไปในข้างในนะพวก ตัดเข้าในถ้าอีกฝั่งกำลังจะเปิดบอล ตรงนั้นแกจะได้ยิงประตูแน่ๆ"
เกมเลกสองที่ ดิ เอเม็กซ์ บ้านของไบรตัน มันเป็นไปตามที่ เอียน ฮอลโลเวย์ คิดไว้ทุกอย่าง ตัดการขึ้นบอลของไบรตันได้ และสุดท้าย วิลฟรีด ทำ 2 ประตู พาทีมชนะ 2-0 จริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ประตู 1-0 เป็นการเข้าทำแบบที่ ฮอลโลเวย์ บอกไว้เป๊ะๆ คือ โบลาซี่ ครอสจากซ้ายเข้ามาให้ ซาฮา ตัดเข้าในมาโขกหน้าปากประตู
พาเลซ ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศเพลย์ออฟกับ วัตฟอร์ด เพื่อชิงตั๋วใบสุดท้ายในการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ ลีก
วัตฟอร์ด ของจานฟรังโก้ โซล่า จบอันดับ 3 พวกเขาคือทีมที่ดูดีกว่า พาเลซ พวกเขามีเกมรุกยอดเยี่ยมที่สุดในลีก ภายใต้การทำทีมของโซล่า ทีมแตนอาละวาดเล่นเกมรุกได้ดีมากๆ โดยมี มาเตย์ วีดร้า กับ ทรอย ดีนี่ย์ เป็นคู่หอกอันตราย
อย่างไรก็ตาม ฮอลโลเวย์ มองเห็นจุดอ่อนของวัตฟอร์ด นั่นคือกองหลังอิตาเลี่ยนอย่าง มาร์โก คาสเซ็ตติ แม้จะมีดีกรี เล่นให้โรม่ามานาน แต่เขาอายุ 36 ปีแล้ว
นั่นทำให้ ฮอลโลเวย์ สั่งให้ วิลฟรีด ซาฮา เล่นงานไปที่ คาสเซ็ตติ ตลอดทั้งเกม
แม้จะเสมอกัน 0-0 ใน 90 นาที แต่พอเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ คาสเซ็ตติ ก็ไปดึง ซาฮา ล้มในเขตโทษ กลายเป็นจุดโทษของพาเลซ และเป็น เควิน ฟิลลิปส์ กองหน้าจอมเก๋า สังหารไม่พลาด มันกลายเป็นประตูชัยให้ พาเลซ เอาชนะวัตฟอร์ด 1-0 เลื่อนชั้นได้สำเร็จจริงๆ
คริสตัล พาเลซ เริ่มต้นฤดูกาล 2013/14 ในฐานะทีมพรีเมียร์ ลีก ความเปลี่ยนแปลงแรกก่อนเลยก็คือ พวกเขามีการเสริมทัพเยอะมาก
นักเตะใหม่ ถูกดึงเข้ามารวมถึง 14 รายด้วยกัน! มันเกิดความตื่นเต้น และตระหนกในการรับมือเกมระดับพรีเมียร์ ลีก ทำให้ สตีฟ แพริช ร้อนรนมากจนเกินไป
ผลคือ พาเลซ แพ้ 6 จาก 7 นัดแรก ชนะแค่เกมเดียว
พอถึงเกมที่ 8 วันที่ 21 ตุลาคม 2013 พาเลซ โดน ฟูแล่ม บุกมาอัดยับถึง เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ถึง 4-1
หลังจบเกม เอียน ฮอลโลเวย์ เข้าไปพูดคุยกับ สตีฟ แพริช ทันที เขาบอกเลยว่า เขาขอลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม เนื่องจากรู้ดีว่าไม่สามารถพาทีมหลุดออกจากหล่มนี้ได้
เขารู้ดีว่าด้วยสถานการณ์ตอนนี้ และศักยภาพของเขา หากทู่ซี้ทำงานต่อไป คริสตัล พาเลซ จะมีแต่แย่กับแย่ และอาจตกชั้นได้ นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น
สตีฟ แพริช รีบปฏิเสธทันที ท่านประธานหนุ่มยืนยันว่าพร้อมจะสู้ไปด้วยกัน เขายังเชื่อมั่นในตัว เอียน
ทว่า ฮอลโลเวย์ ให้เหตุผลน่าสนใจ เขาไม่อยากเห็น พาเลซ ตกชั้น เพราะรู้ดีในการจะเลื่อนชั้นจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ มาสู่ พรีเมียร์ ลีก มันเป็นงานที่ยากแค่ไหน ถ้าตกชั้นไปหนนี้ ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีจะกลับขึ้นมาได้อีก
เขาไม่สามารถรับปากกับ แพริช ได้ว่า เขาจะทำทีมอยู่รอด เมื่อเขาไม่มั่นใจ มันเป็นการดีกว่าที่จะไม่ฝืน เพราะเท่ากับเป็นการผิดคำพูดถ้ามันไม่ได้ผล
หลากหลายเหตุผลที่ทำให้ พาเลซ มีผลงานแย่ในตอนนั้น ทั้งการที่ วิลฟรีด ซาฮา ต้องย้ายไปแมนฯ ยูไนเต็ด, ทั้งการซื้อตัวใหม่เข้ามามากเกินไป จนสปิริตในทีมมันไม่กลมเกลียวอย่างเดิม และการพยายามเล่นเกมรุกในสไตล์ของฮอลโลเวย์ มันไม่ได้ผล คุณจะเดินแลกหมัดกับทีมในพิกัดเดียวกันได้ แต่คุณไปแลกหมัดกับทีมไซส์ใหญ่กว่า มีแต่ตายกับตาย นี่คือเกมระดับพรีเมียร์ ลีก ไม่ใช่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ การลาออกจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ เอียน ฮอลโลเวย์ จะทำให้พาเลซได้ในตอนนั้น
1
หลังจากแต่ละฝ่ายกลับไปนอนคิด ในที่สุด สตีฟ แพริช ก็ตกลง และยอมรับการลาออกของ เอียน ฮอลโลเวย์
โทนี่ พูลิส คือคนที่ พาเลซ ดึงมาคุมทีมแทน นี่คือคนที่เหมาะสมที่สุด
พูลิส ถนัดในการพาทีมเล็กๆ อยู่รอด และวิธีการของเขาอาจไม่สวยงาม แต่มันได้ผล นั่นคือสิ่งที่ พาเลซ ต้องการที่สุด ณ ตอนนั้น แต้มสำคัญกว่าสไตล์การเล่น
ในที่สุด มันก็ถูกพิสูจน์ว่าได้ผล โทนี่ พูลิส พาทีมอยู่รอดสบายๆ จบอันดับ 11 แต่เขาก็เลือกลาออก ก่อนฤดูกาลใหม่เปิดแค่ไม่กี่วัน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ เอียน ฮอลโลเวย์ พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อปี 2013 จนถึงตอนนี้ พาเลซ ยังไม่เคยตกชั้นอีกเลย แม้จะมีหวาดเสียวบ้าง แต่สุดท้าย พวกเขาก็เอาตัวรอดได้เสมอ ท่ามกลางการเปลี่ยนกุนซือมาแล้วหลายต่อหลายคน
"ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุผลที่ถูกต้องสำหรับมุมของพาเลซ ด้วยอะไรก็ตาม ดั๊กกี้ ต้องการย้ายออก ผมโดนดึงมาคุมทีมแทน พอผมอำลาไป โทนี่ (พูลิส) ก็เข้ามา ผมดีใจที่ได้เห็นแบบนี้ในช่วงชีวิตผม ผมมีช่วงเวลาที่ดีในสโมสรที่ยอดเยี่ยมอย่าง พาเลซ ซึ่ง พูลิส คือคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานนั้น และผมบอกกับ สตีฟ ไปแล้วตอนเราถกเถียงกัน"
1
"ถ้าผมสัญญาอะไรกับคุณไว้ อย่างเช่น ผมจะไปถึงที่นั่นตรงเวลา ผมแม่งจะไปถึงตรงเวลาโว้ย เพราะมันสำคัญมาก ผมถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้ ถ้าคุณรู้ว่าผมโตมายังไงนะ พ่อผมจะไม่ยอมให้ผมพูดอย่างหนึ่ง แล้วทำอีกอย่างแน่นอน"
"แต่ สตีฟ ทำงานได้ดีในการเป็นประธานสโมสรของเขา และผมภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาของเขา"
"ด้วยการที่ผมพูดตรงๆ กับ สตีฟ ไปเลยว่าผมไม่แน่ใจว่าผมสามารถทำให้เราอยู่รอดได้ และเขาไม่อยากได้ยินคำพูดนี้ ผมโทษเขาไหม? ไม่หรอก ส่วนหนึ่งในตัวผมก็อยากจะย้อนกลับไป เพื่อจะไม่พูดคำเหล่านั้นกับเขา แต่ชีวิตเป็นแบบนี้แหละ เขาตัดสินใจและเขาก็ประสบความสำเร็จมาตลอด ผมดีใจกับเขาและสโมสรอย่างยิ่ง"
1
"มันเป็นช่วงเวลาที่มหัศจรรย์ในชีวิตผม ผมยังมีเสื้อของ เควิน ฟิลลิปส์ พร้อมกับเหรียญรางวัลแขวนอยู่ด้วย ติดอยู่บนผนังบ้านผม และทุกวันที่ผมเล่นปาเป้า มันก็แขวนอยู่ตรงข้างๆ นั่นแหละ มันเป็นส่วนในชีวิตผม ผมรู้สึกขอบคุณกับโอกาสที่ สตีฟ มอบให้กับผม"
1
กับเหตุการณ์ในครั้งนั้น สตีฟ แพริช ก็ออกมายกย่องการตัดสินใจที่ตรงไปตรงมาของ เอียน ฮอลโลเวย์ เขาบอกว่าเขาไม่มีความคิดที่จะแยกทางกันเลย แต่ในที่สุดก็เข้าใจในเหตุผล และการกระทำของ เอียน ก็น่ายกย่อง
"ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่น่าทึ่ง เป็นคนที่ก้าวออกมาและทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่คงไม่ทำกันหรอก เขาบอกว่า 'ฟังนะ เราต้องคุยกันเรื่องสถานการณ์ทีม ผมไม่คิดว่ามันได้ผล ผมไม่ชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ผมคิดว่ามันอาจจะดีกว่ากับการที่มีคนอื่นมาคุมทีม คนที่ทำทีมเล่นในสไตล์ซึ่งนักเตะตอบสนองได้ดีกว่า' ตัวผมเองคิดว่า นั่นคือบุคคลที่กล้าหาญอย่างมากที่พูดออกมาแบบนี้ คนส่วนใหญ่ก็คงคุมทีมต่อไป รับเงินต่อไป นี่พูดตรงๆ นะ"
เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ผิดแผน เอียน ฮอลโลเวย์ เลือกที่จะลาออกเอง เมื่อรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเข็นทีมไปได้ไกลกว่านี้ พาทีมออกจากสถานการณ์ย่ำแย่ไม่ได้
มันไม่ใช่การยอมแพ้ แต่มันเป็นการมองผลประโยชน์ของทีมเป็นหลัก มันคือการไม่สามารถผิดคำพูดได้ และนั่นคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจลาออกอย่างลูกผู้ชาย
1
*******************
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา